วันศุกร์, พฤษภาคม 23, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

อันตรายจากการวิ่ง! พร้อมวิธีหลีกเลี่ยงป้องกัน

การวิ่งส่งผลดีต่อร่างกายและมีประโยชน์มากมาย แต่ก็แฝงไว้ด้วยอันตรายบางอย่าง บทความนี้มีคำแนะนำและวิธีที่จะทำให้เพื่อนๆวิ่งได้อย่างปลอดภัยที่สุด

thip by thip
21/05/2019
in Running
0
อันตรายจากการวิ่ง! พร้อมวิธีหลีกเลี่ยงป้องกัน

ภาพจาก FreePik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

อันตรายจากการวิ่ง! พร้อมวิธีหลีกเลี่ยงป้องกัน

ในหลายๆ บทความหรือเรื่องเล่าจากประสบการณ์นักวิ่งมักจะเขียนถึงประโยชน์ของการวิ่งออกกำลังกายไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดน้ำหนัก ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงหายขาดจากโรคต่างๆ หรือช่วยผ่อนคลายจิตใจลดความเครียดในหัวสมอง แต่ทุกอย่างบนโลกนี้มักมีสองด้านเสมอ การวิ่งก็เช่นกัน แม้ว่าจะมีประโยชน์มาก แต่ก็มีอันตรายจากการวิ่งบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งสร้างความรำคาญใจและอาจนำไปสู่การบาดเจ็บที่ร้ายแรง หรือมีปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆตามมาได้ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่เราจะมาพูดถึงอันตรายและข้อเสียของการวิ่งกันบ้าง เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงจากอันตรายทั้ง 7 อย่างเหล่านี้

1. อันตรายจากการได้รับบาดเจ็บ (Injuries)

นี่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่นักวิ่งมือใหม่คาดคิดว่าจะได้เจอ เพราะใครๆต่างก็บอกว่าการวิ่งนั้นดีต่อสุขภาพ ทุกคนพูดถูกค่ะ การวิ่งดีต่อสุขภาพจริง ถ้าเราวิ่งอย่างถูกวิธี!

นักวิ่งมือใหม่หรือผู้ที่ห่างซ้อมไปนานมักจะคิดว่าตนเองสามารถวิ่งได้หลายสิบกิโลเมตรต่อสัปดาห์ แต่ผลที่ตามมากลับน่าตกใจ จากข้อมูลค่าเฉลี่ยพบว่า เกิน 1 ใน 3 ของนักวิ่งทุกคน มักได้รับบาดเจ็บทุกปีหรือราวๆ 2 ครั้งต่อปี ซึ่งตัวเลขนี้สามารถลดลงจนเหลือ 0 ได้ ถ้านักวิ่งทั้งหลายวิ่งอย่างถูกวิธี

การป้องกัน

สาเหตุของการบาดเจ็บจากการวิ่งมีหลากหลาย อาจจะเกิดจากการบิดข้อเท้าผิดจังหวะ สะดุดก้อนหิน ดังนั้นคำแนะนำแรก คือ ต้องมีสมาธิและระมัดระวังขณะวิ่ง และสาเหตุหลักที่ทำให้นักวิ่งได้รับบาดเจ็บคือการใช้งานร่างกายที่หนักมากจนเกินไป ส่งผลให้มีอาการบาดเจ็บเหล่านี้ ปวดส้นเท้าหรือโรครองช้ำ (plantar fasciitis) , หัวเข่าอักเสบ (runner’s knee),  เอ็นร้อยหวายอักเสบ (achilles tendinitis)  อาการบาดเจ็บจากการวิ่งที่พบบ่อยเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้หากนักวิ่งค่อยๆเพิ่มการฝึกฝนทีละน้อยและฟังเสียงร่างกายของตัวเอง

ดังนั้นจงทำทุกสิ่งอย่างช้าๆ อย่าหักโหม มือใหม่ให้เริ่มต้นด้วยการเดินเร็วหรือการวิ่งระยะสั้นๆ ง่ายๆไปก่อน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว อย่าเพิ่มปริมาณการฝึกซ้อมมากเกินกว่า 10% ในแต่ละสัปดาห์ และคอยสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอยู่เสมอ

บทความแนะนำ :
– รวม 13 อาการบาดเจ็บที่พบบ่อยของนักวิ่ง พร้อมวิธีรักษาและการป้องกัน
– 6 วิธีง่ายๆที่จะช่วยป้องกันอาการปวดหัวเข่าระหว่างวิ่ง

2. อันตรายจากการถูกทำร้าย (Being Assaulted)

ปัญหาภัยใกล้ตัวและอาชญากรรมเป็นปัญหาในหลายประเทศและหลายเมืองทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เกิดกับนักวิ่งหญิง แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่ออกไปวิ่งเลย เราสามารถป้องกันตัวเองเพื่อลดโอกาสในการถูกทำร้ายได้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีฉุกเฉิน

การป้องกัน

  1. วิ่งในเวลากลางวัน
  2. วิ่งในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ไม่เปลี่ยว
  3. หลีกเลี่ยงการออกไปวิ่งคนเดียวลำพัง
  4. ถ้าจำเป็นให้พกสเปรย์พริกไทยติดตัวที่สามารถหยิบใช้ได้ง่าย
  5. เรียนรู้วิธีการป้องกันตัว การต่อสู้เบื้องต้น
  6. พกมือถือติดตัวไปด้วย
  7. อย่าพกเงินหรือสิ่งของมีค่ามากเกินไป

บทความแนะนำ :
– 4 เคล็ดลับเพื่อความปลอดภัยในการวิ่งเทรล
– 5 กระบวนท่าในการป้องกันตัวที่นักวิ่งทุกคนควรรู้เอาไว้

3. อันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุ (Accident)

อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกที่ และทุกเวลา โดยเฉพาะนักวิ่งที่ต้องวิ่งข้างถนนอยู่บ่อยๆ นั่นคือจังหวะที่กำลังตกอยู่ในอันตราย หรือหากนักวิ่งเทรลที่ต้องวิ่งในหนทางที่เป็นเนินป่าเขา เจอสิ่งกีดขวางทางขรุขระ ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จนอาจจะถึงขั้นร้ายแรงเลยก็ได้

ดังนั้นจึงควรหาทางป้องกันไว้ และแม้ว่าเราจะป้องกันตัวเอง อุบัติเหตุก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่ดี แต่ก็ดีกว่าที่เราจะไม่ระมัดระวังอะไรเลย เพราะอย่างน้อยก็อาจจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

การป้องกัน

ในทางทฤษฎีเราสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้ง่ายๆ โดยใช้ความระมัดระวัง แต่ในความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้น นักวิ่งส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่การวิ่งคุมโซน โฟกัสเวลา ความเร็ว ทำให้ขาดสมาธิและสติขณะวิ่ง จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมา

สิ่งแรกที่ควรต้องระมัดระวังคือ เมื่อวิ่งไปบนเส้นทางเนินเขาอย่างการวิ่งเทรล เราต้องมีสมาธิและสติให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาวิ่งลงจากเนินเขา เพราะเราอาจจะพลัดตกลงมาได้ หากรู้สึกเหนื่อยหรือหมดแรงก็ให้หยุดพักเสียก่อน

หากกำลังวิ่งอยู่บนถนนที่มีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ขับขี่ผ่านไปมา และอาจจะเฉี่ยวชนเราได้ ให้ระมัดระวังดูให้ดีก่อนที่จะข้ามถนน นอกจากนี้ไม่ควรฟังเพลงขณะวิ่งใกล้กับถนนด้วย เพื่อให้เราสามารถได้ยินเสียงรอบข้างและอันตรายที่จะมาถึงตัว หรืออาจใช้วิธีเปิดเสียงให้ต่ำและเบาอยู่ในระดับที่เราจะได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมรอบตัวได้

นอกจากนี้ ควรพกโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วยและใส่รายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินไว้ในเครื่อง หรือหากใช้โทรศัพท์มือถือ  iPhone ก็ให้ตั้งค่า MedicalID ในแอพฯสุขภาพ (Health) ของ Apple ไว้ด้วย อ้อ! อย่าลืมพกเงินติดตัวไว้ และหากพกชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นติดตัวไปด้วยได้ก็จะดีมาก

4. อันตรายจากความต้องการฉุกเฉินของร่างกาย (Urgent Needs)

ภาพจาก FreePik

เมื่อเปรียบเทียบกับอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บสาหัส ข้อนี้ถือเป็นอันตรายที่ดูเล็กน้อย แต่ก็เป็นสิ่งที่นักวิ่งหลายคนกลัวและต้องการหลีกเลี่ยง นั่นคือ เมื่อรู้สึกปวดท้องหนัก-เบาต้องการเข้าห้องน้ำด่วนในขณะที่กำลังวิ่ง หรือเกิดเจ็บป่วยกะทันหันขึ้นมาระหว่างทาง

หากคุณวิ่งระยะทางไกลในการแข่งขัน คุณอาจสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตัวเอง เนื่องจากเลือดถูกใช้เพื่อขนส่งออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อ และระบบย่อยอาหารก็ทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาการที่มักพบได้บ่อยก็คือคลื่นไส้หรือท้องเสียฉับพลัน

การป้องกัน

สิ่งที่ดีที่สุดที่สามารถทำได้คือ ระมัดระวังการกินอาหารทั้งเรื่องของปริมาณและความสะอาดทั้งก่อนการแข่งขันและในระหว่างการแข่งขัน เพื่อให้แน่ใจว่าระบบย่อยอาหารของเราจะไม่ต้องทำงานหนัก ดังนั้นปริมาณและอาหารที่เรากินก่อนการแข่งขันหรือระหว่างการแข่งขันเป็นสิ่งสำคัญ

ในการแข่งขันที่ระยะทางสั้นกว่า 10 ไมล์หรือ 16 กิโลเมตรเราไม่จำเป็นต้องกินอะไรในขณะวิ่ง เราสามารถทานอาหารเช้าเพื่อให้อาหารย่อยหมดก่อนที่การแข่งขันจะเริ่ม และไม่ควรกินสเต็กหรือเบอร์เกอร์หนักๆ ก่อนการแข่งขัน แนะนำให้ทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น กล้วย

ในการแข่งขันที่ใช้เวลานานเราต้องเตรียมพลังงานสำรองไว้ให้กับร่างกาย อาจจะเป็นพวกเจลพลังงานต่างๆ  และควรกินของที่รู้ว่าเหมาะกับร่างกายของตัวเองเท่านั้น ให้ลองทดสอบว่าอะไรที่เหมาะกับกะเพาะของเราเพื่อจะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในวันแข่งขัน

ทดสอบความเข้มข้นและ race pace ก่อนการแข่งขัน เนื่องจากโดยปกติแล้วคนเรามักจะมีความตื่นเต้นที่ทำให้เราวิ่งเร็วขึ้นเล็กน้อยจากที่คาดไว้ และความเครียดอาจส่งผลทำให้ท้องไส้แปรปรวนได้

5. อันตรายจากการฝึกซ้อมที่หนักเกินไป (Overtraining)

เมื่อเราฝึกซ้อมหนัก เพิ่มปริมาณการออกกำลังกาย เพิ่มความเข้มข้นมากและเร็วจนเกินไป จะเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บได้ นี่เป็นสิ่งที่นักวิ่งหลายคนกลัวและเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก

หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความเร็วและความอึดได้ แต่ตรงกันข้าม การฝืนร่างกายจะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการวิ่งของเราลดลง

การฝึกซ้อมแบบ Overtraining สามารถเกิดขึ้นได้กับนักวิ่งมือใหม่และมืออาชีพ มันต้องอาศัยความรู้และความซื่อสัตย์ในการซ้อมของตัวเอง เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างการซ้อมที่มากเกินไป และความเหนื่อยล้าหลังการออกกำลังกาย ว่าร่างกายของเรากำลังเป็นแบบไหนอยู่กันแน่

การป้องกัน

อาการแรกที่มักจะพบคือประสิทธิภาพการวิ่งลดลงและรู้สึกเหนื่อยมากเกินไป อาการอื่นๆที่ตามมาคือ นอนไม่หลับ หงุดหงิด และรู้สึกอยากอาหาร สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของการ Overtraining

ถ้าสังเกตเห็นอาการอย่างใดอย่างหนึ่งเหล่านี้ ควรลดการฝึกซ้อมลง โดยเฉพาะการวิ่งที่เป็นระยะเวลานานๆ พยายามนอนหลับให้เพียงพอ กินแต่พอดี และพยายามพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ

คำแนะนำ

  • อย่าเพิ่มปริมาณการฝึกซ้อมมากเกินกว่า 10% ในแต่ละสัปดาห์
  • เพิ่มเวลาในการนอนขึ้นอีก 30 นาทีในวันที่วิ่ง
  • กินอาหารที่ดีมีประโยชน์ (ผัก, ผลไม้) และดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • กำหนดให้ทุกสัปดาห์ที่สามเป็นสัปดาห์ของการฟื้นฟูร่างกาย

บทความแนะนำ :
– 9 กฎทองในการวิ่งที่เราไม่ควรฝ่าฝืน
– 25 กฎทองสำหรับการวิ่งระยะไกล (Long Distance Running)
– รวม 25 กฎพื้นฐานสำหรับการวิ่งระยะไกล

6. อันตรายจากการเสพติดการวิ่ง (Addiction)

การวิ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะอาการเสพติดต่างๆ หลายคนเริ่มต้นวิ่งเพื่อเอาชนะอาการเสพติดบางอย่างในตัวเอง เช่น อยากเลิกสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ เลิกเสพติดเกมส์ หรือการเสพติดอื่นๆ

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าการวิ่งทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตของเรามีความหมาย รู้สึกประสบความสำเร็จและมีความภาคภูมิใจในตนเอง นอกจากนี้ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างนิสัยที่มีวินัย

แต่การวิ่งเองก็สามารถกลายเป็นการเสพติดได้ด้วยเหมือนกัน ข้อนี้หลายคนคงทราบดีใช่ไหมคะ

เพียงแต่การวิ่งนั้นเป็นสิ่งเสพติดที่ดีต่อสุขภาพ หากไม่ได้ออกไปวิ่งสักพักทั้งที่ปกติเคยวิ่งเป็นประจำ ก็จะมีอาการคล้ายการเสพติดอื่นๆ เช่น นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย

สาเหตุที่ทำให้เราเสพติดการวิ่งก็คือ ทุกครั้งที่เราวิ่งร่างกายจะหลังสารแห่งความสุขต่างๆออกมา เช่น Endorphins, Cannabinoids และ Opioids ทำให้เรารู้สึกแฮปปี้ สดชื่นสดใส มีจิตใจที่เบิกบาน

การป้องกัน

เคล็ดลับสำคัญคือการรักษาความสมดุล

การวิ่งไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต และก็ไม่ควรจะเป็นแบบนั้นด้วย พยายามรักษาสมดุลและไม่ลืมที่จะสนใจสิ่งสำคัญอย่างอื่นในชีวิตด้วย จัดลำดับความสำคัญ หางานอดิเรกหรือความสนใจอื่นๆที่นอกเหนือจากการวิ่ง แม้ว่าการวิ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้จนถึงตอนที่เรามีอายุมากๆ แต่ในที่สุดเมื่อถึงจุดหนึ่งเราก็ต้องหยุดหรือลดการวิ่งลง เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับวันนั้นก่อนที่มันจะมาถึง

พยายามวางแผนเวลาว่างสักสองสัปดาห์ในแต่ละปี หรือกำหนดช่วงพักหลังจบการแข่งขันครั้งใหญ่ นี่ไม่ใช่แค่การมุ่งเน้นไปที่สิ่งอื่นๆในชีวิต แต่เพื่อให้ร่างกายของเราได้มีเวลาพักฟื้นด้วย

7. อันตรายจากความเสียหายระยะยาว (Long Term Damage)

อันตรายข้อสุดท้ายที่จะพูดถึงในบทความนี้ คืออันตรายจากความเสียหายระยะยาว เรามักจะได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยๆ “ถ้าคุณยังวิ่งต่อไปแบบนี้ คุณจะไม่สามารถเดินได้ไหวในตอนที่คุณอายุ 60 ปี” นี่เป็นความกลัวต่อความเสียหายในระยะยาวของร่างกาย ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงในนักวิ่งที่ใช้ร่างกายไปกับการวิ่งมาราธอนมานานหลายสิบปี แต่ถ้าเราระมัดระวังและฟังเสียงร่างกายของตัวเอง เหตุการณ์นี้ก็จะหลีกเลี่ยงได้

ดังนั้นเรามาดูวิธีการป้องกันความเสียหายระยะยาว เพื่อให้เรายังคงเดินได้ วิ่งไหว ในวัยสูงอายุกันเถอะ

การป้องกัน

การป้องกันความเสียหายระยะยาว มันคือการปฏิบัติตามวิธีการป้องกันอันตรายทุกข้อที่กล่าวมาด้านบน

เริ่มต้นจากการระมัดระวังและป้องกันการบาดเจ็บ ยืดเหยียดร่างกาย ฝึกความแข็งแกร่งในปริมาณที่พอดี และพักผ่อนให้ร่างกายได้ฟื้นฟู

และที่สำคัญที่สุด ต้องรู้จักร่างกายของตัวเองและรู้ว่ามันสามารถใช้งานได้มากแค่ไหน ไม่ฝืนวิ่งในขณะที่ร่างกายบาดเจ็บ และไม่ลงสมัครเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งทั้งที่ไม่แน่ใจว่าร่างกายจะพร้อมและสามารถเตรียมความพร้อมได้ทันสำหรับการแข่งขัน

โปรดจำไว้เสมอว่า เราไม่ต้องเร่งรีบอะไร แม้ว่าเราจะมีเป้าหมายในการวิ่งที่ตั้งไว้สูงเพียงใด เพราะการวิ่งเป็นกีฬาที่เราสามารถทำได้ไปตลอดจนกว่าจะอายุถึง 60 หรือ 70 แถมมีนักวิ่งหลายคนที่ยังสามารถวิ่งมาราธอนได้ในตอนที่พวกเขาอายุเฉียด 100 ปี ดังนั้นจงให้เวลากับการวิ่งและทำตามวิธีที่ถูกต้อง

บทความแนะนำ :
– Gene Dykes นักวิ่งมาราธอนที่ทำสถิติโลกได้ในวัย 70 ปี
– คุณย่าวัย 70 ผู้ทุบสถิติโลกมาราธอนที่ชิคาโก้
– Eileen Noble นักวิ่งหญิงวัย 84 ปี ผู้พิชิต London Marathon 2019
– George Etzweiler คุณปู่นักวิ่งวัยเก๋าอายุ 99 ปีที่ยังคงหยุดวิ่งไม่ได้

 

ที่มา : therunningmate



ไม่พลาดทุกกิจกรรม วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา

กด #Seefirst และ #Following กันไว้ ที่
?facebook.com/wheretorunwhentoride

ค้นหางานแข่งวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ทั่วไทย
ง่าย สะดวก พร้อมบทความสาระดีๆ ที่
?www.vrunvride.com

อัพเดท Running, Cycling,
Triathlon, Gadget, Food ได้ที่
?instragram.com/vrunvride

มาซ้อม วิ่ง ?‍♂ปั่น ?‍♂ว่าย ?‍♂ให้สนุกกันที่
?strava.com/clubs/vrunvride

[AD]
?บัตรเครดิต KTC ตัวจริงเรื่องกีฬา
แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 15% ที่ Sports World ทุกสาขา
? bit.ly/SPORTSWORLD

#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: runrunningการวิ่งวิ่ง
Previous Post

คู่มือการกินคีโตเจนิคไดเอทสำหรับมือใหม่ (Ketogenic Diet The Beginner’s Guide)

Next Post

แผนการซ้อมวิ่ง 10k ภายใน 4 สัปดาห์ (ซ้อม 6-7 วันต่อสัปดาห์)

thip

thip

Related Posts

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

22/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

19/05/2025
ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

5 ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

16/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ในระยะเวลา 10 สัปดาห์

13/05/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลัง สำหรับนักวิ่ง

5 ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลัง เพื่อปรับฟอร์มการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น

10/05/2025
โปรแกรมวิ่ง 10K 8 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่ พิชิตเส้นชัยครั้งแรก

โปรแกรมวิ่ง 10K 8 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่ พิชิตเส้นชัยครั้งแรก!

07/05/2025
Next Post
แผนการซ้อมวิ่ง 10k ภายใน 4 สัปดาห์ โดยซ้อม 6 วันต่อสัปดาห์

แผนการซ้อมวิ่ง 10k ภายใน 4 สัปดาห์ (ซ้อม 6-7 วันต่อสัปดาห์)

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 33k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

อาดิดาส (ประเทศไทย) ขอเชิญร่วมกิจกรรม Run For The Oceans “ล้อมวงสะกิดทะเลไทยในยุคโควิด”

อาดิดาส (ประเทศไทย) ขอเชิญร่วมกิจกรรม Run For The Oceans “ล้อมวงสะกิดทะเลไทยในยุคโควิด”

by VRUN VRIDE
23/05/2021

ชวนวิ่ง Satthachon Cross Country Run 2021 พี่ได้วิ่ง น้องได้เรียน

ชวนวิ่ง Satthachon Cross Country Run 2021 พี่ได้วิ่ง น้องได้เรียน ครั้งที่ 3

by VRUN VRIDE
16/12/2020

10 ท่าฝึกกล้ามเนื้อขาที่สามารถใช้แทนท่า Squat ได้

10 ท่าฝึกกล้ามเนื้อขาที่สามารถใช้แทนท่า Squat ได้

by thip
16/06/2019

วิตามินที่สำคัญสำหรับนักวิ่ง

วิตามินที่สำคัญสำหรับนักวิ่ง 🏃‍♂️

by VRUN VRIDE
17/09/2019

Nike Zoom AlphaFly NEXT% สี Orange

ส้มหยุด! สะดุดสายตาสุดๆ Nike Zoom AlphaFly NEXT% สี Orange ใหม่ล่าสุด

by thip
04/09/2020

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (367)
  • News (870)
  • Review (126)
  • Running (939)
  • Stories (201)
  • Training (460)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี