วันอังคาร, มีนาคม 28, 2023
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

ประโยชน์ที่นักวิ่งจะได้รับจากการฝึก Cross Training

Thip by Thip
14/03/2023
in Running, Training
0
ประโยชน์ที่นักวิ่งจะได้รับจากการฝึก Cross Training
  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

Cross Training คือการฝึกกีฬาหรือการออกกำลังกายที่ส่งเสริมสมรรถนะในการเล่นกีฬาหลักของเรา หากเราเป็นนักวิ่งการฝึกครอสเทรนนิ่งจะหมายถึงการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอย่างอื่นที่ไม่ใช่การวิ่ง การวิจัยพบว่าการฝึก Cross Training มีประโยชน์ต่อนักวิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือนักวิ่งมาราธอน

ประโยชน์จากการฝึก Cross Training

  • การฝึก Cross Training จะช่วยสร้างความสมดุลให้กับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เพราะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ได้ถูกใช้ในการวิ่ง  เราสามารถเน้นฝึกกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนได้ อย่างเช่น กล้ามเนื้อร่างกายส่วนบนซึ่งไม่ค่อยถูกใช้งานตอนวิ่ง
  • เราสามารถรักษาหรือส่งเสริมระบบหลอดเลือดและหัวใจได้ด้วยการฝึก Cross Training เพราะมีการฝึกหลายอย่างที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องนี้ได้ และจะมีประโยชน์แบบเดียวกับการฝึกวิ่งแน่นอน
  • การเพิ่มความสมดุลให้กับกล้ามเนื้อส่วนที่อ่อนแอจะช่วยลดความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย การฝึกอะไรที่มีแรงกระแทกน้อย เช่น การว่ายน้ำ หรือวิ่งในน้ำ (Aqua Jogging) จะช่วยลดระดับความเครียดในข้อต่อ ซึ่งเป็นส่วนที่มีอาการเมื่อยล้าในหมู่นักวิ่ง
  • การวิ่งทุกวันจะทำให้เกิดอาการเหนื่อยหน่ายหมดกำลังใจได้ การเปลี่ยนไปฝึก Cross Training ในบางวันก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เบื่อการฝึกวิ่งขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้มีเวลาพักด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพึ่งจะผ่านการวิ่งระยะไกลมาหมาดๆ
  • เราสามารถฝึกต่อได้ทั้งที่ยังบาดเจ็บแถมยังมีระยะเวลาให้ร่างกายฟื้นตัวมากขึ้น นักวิ่งบางคนอาจถูกหมอสั่งให้หยุดกิจกรรมการฝึกทั้งหมด แต่ก็มีการฝึก Cross Training บางอย่างที่ฝึกได้ ซึ่งจะช่วยรักษาระดับความฟิตในขณะเดียวกันก็มีเวลาให้ร่างกายฟื้นตัวไปด้วย

เราควรฝึก Cross Training ตอนไหน

ปริมาณการฝึก Cross Training นั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจและร่างกายของเราในตอนนั้นหากเป็นคนที่หยุดวิ่งไปนานแล้วและพึ่งจะกลับมาฝึกวิ่งต่อก็ควรมีวันวิ่ง 3-4 วันต่อสัปดาห์ และมีวันฝึก Cross training 2-3 วันต่อสัปดาห์

แต่ถ้าเป็นนักวิ่งที่อยู่ในช่วงลงแข่งขันและมีการฝึกวิ่ง 4-6 วันต่อสัปดาห์ ควรมีการฝึก Cross Training  แบบเบาๆ 2 วันต่อสัปดาห์ และการวิ่งควรเป็นวันวิ่งแบบ Easy อย่างน้อย 2 วัน และมีวันพัก 2 วันต่อสัปดาห์ นอกจากนี้การฝึก Cross Training ยังดีต่อคนที่ไม่สามารถไปฝึกวิ่งนอกโรงยิมจนต้องวิ่งบนลู่วิ่งอีกด้วย

ทั้งนักวิ่งหน้าใหม่และนักวิ่งมืออาชีพ อาจมีบางช่วงเวลาที่รู้สึกเบื่อการวิ่ง การฝึก Cross training ก็จะมาช่วยแก้ความเบื่อหน่ายในส่วนนี้ไปได้

รูปแบบการฝึก Cross Training ยอดนิยมในหมู่นักวิ่ง

1. การว่ายน้ำ

Cross Training สำหรับนักวิ่ง

การว่ายน้ำเป็นการฝึกที่ดีต่อนักวิ่งเพราะไม่ต้องมีการแบกรับน้ำหนักเลย และร่างกายไม่ต้องเจอกับแรงกระแทกอีกด้วย ข้อต่อของเราจึงมีเวลาได้พักฟื้นตัวจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในตอนวิ่ง ช่วยให้ร่างการมีเวลาเสริมสร้างความแข็งแรงและความทรหด แถมยังเพิ่มความยืดหยุ่นอีกด้วย

การว่ายน้ำจะช่วยสร้างความสมดุลกล้ามเนื้อของนักวิ่งได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยให้ได้ฝึกร่างกายส่วนบน ในขณะที่ได้พักกล้ามเนื้อขาไปด้วย มีการพิสูจน์แล้วว่า การว่ายน้ำเป็นวิธีที่ดีมากในการฟื้นตัวหลังการวิ่งระยะไกล นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่มีอาการบาดเจ็บอยู่แล้วหรือกำลังฟื้นตัวอีกด้วย

2. การวิ่งในน้ำ

การวิ่งในน้ำถือเป็นอีกทางเลือกที่สามารถทดแทนการวิ่งสำหรับนักวิ่งที่บาดเจ็บ หรือนำใช้ไปฝึกในวันวิ่งแบบ Easy แถมยังเป็นการฝึกที่ดีในช่วงอากาศร้อน อย่าลืมสวมใส่เข็มขัดถ่วงน้ำหนัก เพื่อช่วยให้วิ่งในน้ำได้ง่ายขึ้น

3. การปั่นจักรยาน

Cross Training สำหรับนักวิ่ง

การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำเช่นกัน แถมยังช่วยเพิ่มความฟิตให้กับระบบหลอดเลือดและหัวใจ นอกจากนี้การปั่นจักรยานยังมีการใช้งานกล้ามเนื้อที่อยู่ตรงกันข้ามกับกล้ามเนื้อที่เราใช้ในตอนวิ่งอีกด้วย

4. การใช้เครื่อง Elliptical

Cross Training สำหรับนักวิ่ง

วิธีนี้จะช่วยให้เราได้ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอทั่วทั้งตัว เหมือนกับนำการออกกำลังกายหลายอย่างมารวมกันไว้ในอย่างเดียว และเราสามารถตั้งโปรแกรมให้เครื่องเคลื่อนตัวไปด้านหน้าหรือด้านหลังก็ได้ เพื่อที่จะฝึกกล้ามเนื้อขาให้ครบทุกส่วนนั่นเอง

5. พิลาทิส

การฝึกพิลาทิสช่วยให้กล้ามเนื้อแกนกลางแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น น่าเสียดายที่นักวิ่งมักมองข้ามพิลาทิสไป เพราะมันช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นช่วยคลายความแน่นของกล้ามเนื้อ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการฟื้นตัว

6. การเดิน

Cross Training สำหรับนักวิ่ง

การเดินเป็นกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักวิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรากำลังฟื้นตัวจากการวิ่งระยะไกลหรือจากการฝึกวิ่งเร็ว หากเพื่อนๆ มีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อบางส่วนอยู่ล่ะก็ การใช้วิธีเดินจะเป็นการฝึกที่ไม่สร้างความเจ็บปวดเลย และการเดินเร็วยังเป็นวิธีที่ดีในการรักษาระดับความฟิตของระบบหลอดเลือดและหัวใจในระหว่างที่เราต้องฟื้นร่างกายอีกด้วย

7. การใช้โฟมโรลลิ่ง

จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อสะโพก ก้น และร่างกายส่วนบน แต่เราก็ต้องมีการใช้เทคนิคที่ถูกต้องด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่และเพื่อเลี่ยงไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ

8. การฝึก Strength Training

Cross Training สำหรับนักวิ่ง

การฝึก Strength training จะช่วยให้นักวิ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการวิ่ง , ช่วยแก้ไขอาการกล้ามเนื้อไม่สมดุล , ช่วยรักษาความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อขาในช่วงที่หยุดพักฟื้นร่างกาย เราสามารถฝึกโดยใช้น้ำหนักตัวหรือจะใช้การยกเวทก็ได้ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางที่ดี หากเรามีกล้ามเนื้อแกนกลางที่แข็งแรง จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าและช่วยรักษาฟอร์มการวิ่งได้

9. การเล่นโยคะ

Cross Training สำหรับนักวิ่ง

โยคะมีประโยชน์แบบเดียวกับการฝึก Strength training เพราะต้องมีการใช้น้ำหนักตัวในการฝึก ทั้งยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นเพราะมีการฝึกยืดกล้ามเนื้อ นักวิ่งจะได้พบกับความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่ต้องวิ่งหรือออกกำลังกายหนักๆ มา ซึ่งวิธีนี้จะช่วยฟื้นฟูได้ทั้งกายและใจเลย

บทสรุปส่งท้าย

การฝึก Cross Training ช่วยให้นักวิ่งได้มีการเพิ่มการออกกำลังกายโดยไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ ช่วยเสริมสร้างความฟิต เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เพิ่มความมั่นคงให้กล้ามเนื้อแกนกลาง และช่วยส่งเสริมระบบหลอดเลือดและหัวใจ

การฝึกโยคะ พิลาทิส และการเดิน ช่วยลดความเครียดและส่งเสริมการฟื้นตัวได้ การฝึก Strength Training ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและป้องกันอาการบาดเจ็บที่มักเกิดจากการวิ่งได้ ทั้งยังเป็นการฝึกที่สนุกส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจอีกด้วย

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3EVNwDO


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

Related

Tags: Cross Trainingrunnerrunningครอสเทรนนิ่งนักวิ่งวิ่ง
Previous Post

9 วิธีสร้างกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว

Next Post

5 พฤติกรรมการทานอาหาร ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง

Thip

Thip

Related Posts

โปรแกรมการฝึกวิ่งมาราธอน 22 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่

โปรแกรมการฝึกวิ่งมาราธอน 22 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่

21/03/2023
เปลี่ยนการจัดตำแหน่งข้อความ Displays more block tools 6 เหตุผลที่นักวิ่งควรจะมีการฝึก Cross Training

6 เหตุผลที่นักวิ่งควรจะมีการฝึก Cross Training

20/03/2023
10 ท่าฝึก Strength Training ที่จะช่วยส่งเสริมสมรรถนะในการวิ่ง

10 ท่าฝึก Strength Training ที่จะช่วยส่งเสริมสมรรถนะในการวิ่ง

19/03/2023
คู่มือการฝึก Cross Training สำหรับนักวิ่ง

คู่มือการฝึก Cross Training สำหรับนักวิ่ง

18/03/2023
โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนสำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์แล้ว

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนสำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์แล้ว

17/03/2023
วิธีฝึก ท่า Crunch และการฝึกในเวอร์ชันต่างๆ

วิธีฝึก ท่า Crunch และการฝึกในเวอร์ชันต่างๆ

16/03/2023
Next Post
พฤติกรรมการทานอาหาร ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง

5 พฤติกรรมการทานอาหาร ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 12.4k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

แผนการซ้อมวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์สำหรับมือใหม่

แผนการซ้อมวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์สำหรับมือใหม่

by Thip
05/03/2020

การออกกำลังกายแบบ CrossFit ดีต่อนักไตรกีฬาอย่างไร

การออกกำลังกายแบบ CrossFit ดีต่อนักไตรกีฬาอย่างไร

by Thip
09/04/2019

Nike ZoomX Vaporfly Next% 2 “Fast Family”

Nike ZoomX Vaporfly Next% 2 “Fast Family”

by VRUN VRIDE
03/10/2021

5 เหตุผลที่ดีที่เราควรจะดื่ม “ชาเขียว” เป็นประจำ

5 เหตุผลที่ดีที่เราควรจะดื่ม “ชาเขียว” เป็นประจำ

by FatxRun
26/12/2018

วงการวิ่ง ฟัง 2 พี่ใหญ่แห่ง แชร์เรื่องราว"บอสตัน มาราธอน"

วงการวิ่ง ฟัง 2 พี่ใหญ่แห่ง แชร์เรื่องราว”บอสตัน มาราธอน”

by VRUN VRIDE
16/04/2019

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercises Fun Run Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan Smart watch SmartWatch workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง จักรยาน ตารางซ้อมวิ่ง ท่าออกกำลังกาย นักปั่น นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง ลดน้ำหนัก วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โภชนาการ ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (171)
  • Fitness & Health (346)
  • News (740)
  • Review (126)
  • Running (830)
  • Stories (201)
  • Training (336)
  • Triathlon (109)
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...