การฝึกวิ่งเทมโปคืออะไร ทำไมนักวิ่งจึงควรฝึก
การฝึกวิ่งเทมโปคืออะไร
การวิ่งเทมโป คือ รูปแบบของการฝึกวิ่งเร็ว จัดอยู่ในรูปแบบการฝึกประเภทเดียวกับการฝึก Fartlek และ Intervals เพียงแต่มีวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน
การวิ่งเทมโป จะเป็นการวิ่งแบบต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความสามารถของร่างกายในการวิ่งให้เร็วขึ้นในข่วงระยะเวลานาน
ไม่ว่าเรากำลังจะฝึกวิ่งเพื่อลงแข่ง 5k หรือฮาล์ฟมาราธอนก็ตาม ให้เราพยายามหาเพซที่เราจะสามารถวิ่งได้นานอย่างน้อยถึง 20 นาที แต่จะให้ดีควรได้ 45-60 นาที คือเราต้องการวิ่งเร็วโดยที่ไม่ใช้พลังสูงสุดปล่อยเต็มเหนี่ยว 100% ซึ่งถ้าหากใช้มาตราฐานเป็นคะแนนเต็ม 10 ก็ให้ใช้พลังในระดับ 6-8 คะแนน คือเป็นระดับที่ยากแบบสบายๆ และต่อให้วิ่งไปนานถึง 10 นาทีก็จะไม่มีอาการเหนื่อยหอบ

ประโยชน์ของการวิ่งเทมโป
การวิ่งเทมโป จะช่วยทำให้ค่า Lactate Threshold (ใช้วัดระดับกรดแลคติคในเลือด ที่เริ่มสูงขึ้น) ของเราดีขึ้น เมื่อฝึกไปแล้วร่างกายจะมีความสามารถในการสลายกรดแลคติคมากกว่าเดิม เพราะว่าเจ้ากรดนี้ล่ะที่ทำให้เรารู้สึกร้อนและมีอาการเมื่อยล้า โดยมันจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ออกกำลังกายไปนานๆ ยิ่งเราฝึกวิ่งเร็วได้นานเท่าไหร่ อาการเมื่อยล้าแบบนี้จะยิ่งเกิดขึ้นช้าเท่านั้น เพราะร่างกายเคยชินกับการวิ่งเร็วเป็นเวลานานแล้วนั่นเอง แถมยังเพิ่มความอดทนของจิตใจให้พร้อมต่อการลงแข่งอีกด้วย
เราจะเริ่มฝึกวิ่งเทมโปอย่างไร?
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับฝึกมากที่สุดคือช่วงกลางสัปดาห์ เช่น วันพุธ โดยให้เริ่มจากการใช้ท่าไดนามิควอร์มอัพ (Dynamic Warmup) ก่อน จากนั้นจึงเริ่มทำการทดลองหาเพซที่เหมาะสม ซึ่งมันต้องใช้เวลาสักหน่อยและก็ขึ้นอยู่กับระยะทางในการวิ่งด้วย อย่าลืมว่าเราต้องวิ่งในระดับความเข้มข้น 6-8 จากเต็ม 10 เท่านั้น หากกำลังเตียมตัวไปลงแข่งมาราธอนก็ให้ใช้แค่ 6/10 แต่หากกำลังจะไปแข่งวิ่ง 5k ก็ให้ใช้ 8/10
ความถี่ในการฝึกวิ่งเทมโป
ฝึกมากเกินไปไม่ได้หมายความว่าดี ดังนั้นไม่จำเป็นต้องฝึกวิ่งเทมโปติดต่อกันทุกวันหรอกเพราะอาจทำให้เกิดความเบื่อหน่ายและอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์แล้วให้ฝึกวิ่งเทมโป 1 ครั้ง และฝึกวิ่ง Interval 1 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอแล้ว อันที่จริงไม่ต้องฝึก Interval เลยก็ยังได้

ตัวอย่างรูปแบบการฝึกวิ่งเทมโป
การฝึกมีสองรูปแบบแต่เราต้องเริ่มจากการฝึก ท่าไดนามิค วอร์มอัพ เสียก่อน โดยให้เริ่มฝึกท่าดังนี้
- ท่า Arm circles ทั้งหมด 20 ครั้ง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ท่า Arm swings 20 ครั้ง
- ท่า Leg swings 20 ครั้ง (ทั้งข้างซ้ายและขวา)
- ท่า Hip circles 10 ครั้ง (หมุนตามเข็มนาฬิกาและหมุนทวนเข็มนาฬิกา)
- ท่ายืดกล้ามเนื้อขา Active pigeon stretches ทั้งสองข้าง 10 ครั้ง
- ท่า Bootstrappers 10 ครั้ง
- ท่า Burpees 10 ครั้ง
- ท่า Air squats 10 ครั้ง
- ท่า Squat walks 4 รอบ
รูปแบบการฝึกวิ่งเทมโปแบบที่ 1
- วิ่ง intervals 5 นาที จำนวน 5 รอบ โดยใช้ระดับความเข้มข้น 7-8 จากเต็ม 10 คิดซะว่ากำลังวิ่งโดยใช้เพซ 10k
- จากนั้นวิ่งจ๊อกกิ้ง 90-120 วินาที เพื่อเป็นการพักระหว่างรอบ
- ปิดท้ายด้วยการวิ่งแบบ Easy ประมาณ 1.6-3.2 กม.
รูปแบบการฝึกวิ่งเทมโปแบบที่ 2
วิ่งเทมโปต่อเนื่องนาน 30 นาทีไปเลย โดยใช้ระดับความเข้มข้นที่ 6/10 เท่านั้น รักษาความเร็วให้คงที่ตลอดเวลา และต้องระวังอย่าเพิ่มหรือลดความเร็ว
สิ่งที่ต้องทำมีดังนี้
- เริ่มต้นด้วยการวิ่ง Easy ประมาณ 1.6-3.2 กม. เป็นการวอร์มอัพ
- ฝึกท่าท่าไดนามิค วอร์มอัพ ทั้งหมดดังที่กล่าวมาด้านบน
- วิ่งต่อเนื่อง 30 นาที ใช้ระดับความเข้มข้น 6/10
- ปิดท้ายด้วยการวิ่ง Easy ประมาณ 1.6-3.2 กม. เป็นการคูลดาวน์
ที่มา : https://bit.ly/368o0te
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming