วันเสาร์, มิถุนายน 28, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

เราต้องนอนหลับพักผ่อนนานแค่ไหน ถึงจะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น

thip by thip
15/01/2020
in Running
0
เราต้องนอนหลับพักผ่อนนานแค่ไหน ถึงจะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น

Designed by Freepik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

เราต้องนอนหลับพักผ่อนนานแค่ไหน ถึงจะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น

การนอนมากขึ้นไม่เพียงช่วยให้มีประสิทธิภาพในการวิ่งเพิ่มมากขึ้น แต่ยังช่วยทำให้อารมณ์ดีมากขึ้นอีกด้วย

  • อ้างอิงจากผลการวิจัยในวารสาร  Medicine & Science in Sports & Exercise ระบุเอาไว้ว่า การนอนมากขึ้นจะช่วยเพิ่มความทรหดในการวิ่ง
  • การวิจัยพบว่า นักวิ่งระยะไกลที่นอนมากกว่าเดิม 90 นาที เป็นเวลา 3 วันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งแบบจับเวลา 60 นาที ได้ถึง 3%
  • นักวิจัยแนะนำให้เรานอนหลับมากกว่า 8 ชั่วโมงในตอนกลางคืน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งระยะไกล

“ปกติแล้วผมมักจะนอน 7 ชั่วโมงต่อวัน ย้อนไปในสมัยที่ลงแข่งไตรกีฬา Ironman ผมเคยนอนวันละ 9 ชั่วโมงเต็ม และบางครั้งก็มากถึง 10 ชั่วโมง พออายุเริ่มมากขึ้นก็ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องนอนให้ได้ 8 ชั่วโมงต่อวันในช่วงที่มีการฝึกซ้อมวิ่ง และดูเหมือนจะไม่ใช่ผมคนเดียวที่นอนมากขนาดนี้เพราะนักวิ่งระดับแถวหน้า Eliud Kipchoge ก็บอกว่าเขานอนวันละ 10 ชั่วโมงทุกวัน เป็นตอนกลางคืน 8 ชั่วโมง และกลางวันอีก 2 ชั่วโมง” อ้างอิงจากบทความต้นฉบับ

เป็นที่รู้กันว่าการนอนน้อยทำให้สุขภาพเสื่อมโทรม และมีความเชื่อมโยงทางสุขภาพหลายอย่าง ตั้งแต่โรคหัวใจไปจนถึงโรคซึมเศร้า แล้วถ้าหากเป็นเรื่องของประสิทธิภาพในการวิ่งล่ะ? ที่ผ่านมามีหลายงานจัยที่มุ่งเน้นไปที่กีฬาที่ต้องใช้บอลอย่าง ฟุตบอล , บาสเก็ตบอลและเทนนิส แต่ยังไม่ได้ศึกษากับการวิ่งระยะไกลกันอย่างจริงจัง

เราต้องนอนหลับพักผ่อนนานแค่ไหน ถึงจะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น
Designed by Pressfoto / Freepik

แต่ในผลการวิจัยล่าสุดที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Medicine & Science in Sports & Exercise กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากออสเตรเลีย , สิงคโปร์ ได้ลองทำการวิจัยเรื่องผลลัพธ์ของระยะเวลาการนอนหลับและมีการทดลองนอนอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 3 วัน เพื่อจะดูว่ามันส่งผลลัพธ์อย่างไร

การทดลองครั้งนี้มีนักปั่นจักรยานและนักไตรกีฬามาร่วมเป็นอาสาสมัครถึง 9 คน โดยแต่ละคนจะต้องถูกทดสอบประสิทธิภาพในการออกกำลังกายในขณะที่มีการควบคุมเวลานอน โดยในตอนแรกให้นอนวันละ 6.5-7 ชั่วโมงต่อวัน แต่มาจึงเพิ่มเวลานอนอีก 30% เป็น 8 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นจึงทำการทดลองนอนแค่ 5 ชั่วโมงต่อวัน

สำหรับการทดสอบความทรหดของร่างกาย นักปั่นจักรยานจะต้องปั่นจักรยานโดยทำเวลาให้ได้ตามที่กำหนดไว้ โดยต้องปั่นให้ครบจำนวนตามโปรแกรมที่กำหนดมา ซึ่งเป็นการจำลองการปั่นจักรยานระยะไกลนานเป็นชั่วโมง

เมื่อเทียบกับตอนที่มีระยะเวลานอนตามปกติในกลุ่มนักไตรกีฬา ก็พบว่าในตอนที่มีระยะเวลานอนตามปกตินั้น พวกเขามีประสิทธิภาพในการวิ่งน้อยกว่าตอนที่มีการเพิ่มเวลานอน 3% โดยปกติแล้วจะทำเวลาได้ 60.4 นาที แต่พอนอนมากขึ้นกลับทำเวลาในการวิ่งได้ 58.8 นาที

เห็นได้ชัดเจนว่าการนอนมากขึ้นเพียงแค่สามวัน สามารถทำให้พวกนักไตรกีฬาทำเวลาได้ดีขึ้นถึงเกือบ 2 นาที ถือว่ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 3% โดยในขณะที่วิ่งพวกเขามีค่า RPE เท่าเดิม ต้องพบเจอกับระดับในการวิ่งที่ยากเหมือนเดิม แต่อย่างไรก็ตามพวกเขามีสภาวะอารมณ์และความมีสติที่ดีมากขึ้นเมื่อเพิ่มระยะเวลาในการนอนอย่างเคร่งครัด

เราต้องนอนหลับพักผ่อนนานแค่ไหน ถึงจะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น
Designed by nensuria / Freepik

โดยผู้ที่เขียนรายงานในวารสารได้กล่าวสรุปว่า การเพิ่มระยะเวลาในการนอนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการออกกำลังกายโดยไปปรับเปลี่ยนความรู้สึกของนักกีฬาที่มีต่อระดับความยากในการออกกำลังกาย หรือให้อธิบายแบบง่ายๆคือ พวกเขามาสภาพจิตใจที่พร้อมจะลุย โดยที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องพบเจอกับความยากลำบากนั่นเอง ถือเป็นปัจจัยทางด้านจิตใจ

ใครที่ไม่สามารถหลับได้ถึง 8 ชั่วโมงก็ไม่ต้องกังวลไป (หมายถึงนอนแต่ไม่สามารถหลับได้ถึง 8 ชั่วโมง) เพราะแม้ว่าประสิทธิภาพของพวกนักปั่นจักรยานจะเพิ่มขึ้น  คุณภาพในการนอนหลับก็จะลดลงตามไปด้วยในช่วงระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่เพิ่มการนอน โดยผู้เขียนยังกล่าวด้วยว่ามีนักกีฬามืออาชีพจำนวนมากที่หลับไม่ถึง 8 ชั่วโมง แม้แต่พวกนักกีฬาแถวหน้าบางคนก็ไม่สามารถหลับได้ถึง 7 ชั่วโมง เนื่องมาจากความยากของการฝึกฝนและการลงแข่ง การต้องเดินทางและความกังวล

ดังนั้นแทนที่จะพยายามหลับให้ได้มากที่สุดก็ให้เปลี่ยนมาเป็นนอนหลับตาพักผ่อนให้นานมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และใช้ปริมาณการนอนที่เพิ่มขึ้นให้เหมือนกับเป็นอาวุธลับของเรา

กล่าวโดยสรุป คำถามที่ว่า เราต้องนอนหลับพักผ่อนนานแค่ไหน ถึงจะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น คำตอบก็คือ การนอนมากขึ้น 30% ต่อวัน จะช่วยให้การทำเวลาในการวิ่งเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย

ที่มา : https://bit.ly/2ESH0yq


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: runner guideเคล็ดลับนักวิ่ง
Previous Post

Asics เผยโฉมต้นแบบ Smart Running Shoes รองเท้าวิ่งมีเซ็นเซอร์ในตัวครั้งแรกที่งาน CES2020

Next Post

รูปแบบการฝึกปั่นจักรยานที่จะช่วยให้นักวิ่งเพิ่มพละกำลัง , ความเร็วและความทรทด

thip

thip

Related Posts

รูปแบบการฝึกวิ่ง เพื่อเพิ่มความเร็ว

3 รูปแบบการฝึกวิ่ง ที่ช่วยเพิ่มความเร็วได้จริง

26/06/2025
ท่า Strength Training สำหรับนักวิ่ง

8 ท่า Strength Training ที่นักวิ่งมาราธอนควรฝึก!

20/06/2025
เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

5 เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

14/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง นักวิ่ง

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง สำหรับนักวิ่ง

04/06/2025
5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

22/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

19/05/2025
Next Post
รูปแบบการฝึกปั่นจักรยานที่จะช่วยให้นักวิ่งเพิ่มพละกำลัง

รูปแบบการฝึกปั่นจักรยานที่จะช่วยให้นักวิ่งเพิ่มพละกำลัง , ความเร็วและความทรทด

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 34.1k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

พบกับก้าวที่สำคัญของ ASICS ในคอลเลคชั่น EARTH DAY PACK รองเท้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

พบกับก้าวที่สำคัญของ ASICS ในคอลเลคชั่น EARTH DAY PACK รองเท้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

by VRUN VRIDE
08/05/2021

Robert Marchand เจ้าของสถิติโลกนักปั่นจักรยานในวัย 106 ปี

Robert Marchand เจ้าของสถิติโลกนักปั่นจักรยานในวัย 106 ปี

by thip
15/07/2019

ASICS เปิดตัว NOVABLASTTM 3 พร้อมอัพเดตโฟมใหม่ ส่งมอบประสบการณ์การวิ่งที่นุ่ม เด้ง เบา ซัพพอร์ตเท้าได้อย่างดีเยี่ยม

ASICS เปิดตัว NOVABLASTTM 3 พร้อมอัพเดตโฟมใหม่ ส่งมอบประสบการณ์การวิ่งที่นุ่ม เด้ง เบา ซัพพอร์ตเท้าได้อย่างดีเยี่ยม

by VRUN VRIDE
29/10/2022

ASICS เปิดตัวอีคอมเมิร์ซ ASICS.com มอบประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบไร้ข้อจำกัด เอาใจเหล่าสาวกด้วยสินค้าครบครัน พร้อมกับส่วนลดแบบจัดเต็ม

ASICS เปิดตัวอีคอมเมิร์ซ ASICS.com มอบประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบไร้ข้อจำกัด เอาใจเหล่าสาวกด้วยสินค้าครบครัน พร้อมกับส่วนลดแบบจัดเต็ม

by thip
06/06/2019

20 อันดับอาหารที่มีโปรตีนสูง

20 อันดับอาหารที่มีโปรตีนสูง แถมยังอร่อย!

by thip
14/11/2019

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (373)
  • News (875)
  • Review (126)
  • Running (943)
  • Stories (201)
  • Training (464)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี