วันพุธ, พฤศจิกายน 19, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

วิธีรักษาและป้องกัน อาการปวดข้อเท้าหลังการวิ่ง

thip by thip
27/09/2022
in Running
0
วิธีรักษาและป้องกัน อาการปวดข้อเท้าหลังการวิ่ง
  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

อาการปวดข้อเท้าหลังการวิ่งเ ป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น ในบางกรณีอาการปวดข้อเท้าอาจเป็นสัญญาณของการบาดเจ็บหนักโดยที่เราอาจมองข้ามไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม นักวิ่งแต่ละคนจะมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเท้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งในบางคนอาจจะเป็นแค่สัญญาณว่าควรต้องมีการพักผ่อนเท่านั้น ดังนั้นเราควรทำความรู้จักอาการปวดข้อเท้าหลังการวิ่งเอาไว้ และรู้วิธีรักษาและป้องกัน เพื่อไม่ให้บานปลายจนเป็นการบาดเจ็บรุนแรง

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ปวดข้อเท้าตอนวิ่ง?

สาเหตุของการปวดข้อเท้าหลังวิ่งนั้นมีหลายอย่าง แต่สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การใช้งานข้อเท้ามากเกินไป , มีการเพิ่มระยะทางหรือระดับความเข้มข้นในการฝึกมากเกินไป หรืออาจเป็นจากการวิ่งแบบไม่มีเทคนิคหรือท่าวิ่งไม่ถูกต้องเหมาะสม เมื่อเวลาผ่านไปก็จะทำให้เกิดการบาดเจ็บสะสมจนกลายเป็นปัญหาใหญ่นั่นเอง

นักวิ่งบางคนจะมีอาการปวดข้อเท้าหลังการวิ่ง แต่จะไม่มีอาการปวดในตอนวิ่ง ซึ่งมีหลายกรณีที่เป็นเช่นนี้ คือไม่มีอาการปวดในขณะที่เส้นเอ็นและเอ็นกำลังทำงาน แต่จะมาปวดหลังหยุดการวิ่ง

เราควรจะหยุดวิ่งเมื่อมีอาการเจ็บข้อเท้าหรือไม่?

หากมีอาการเจ็บแค่เล็กน้อย เราอาจจะรู้สึกอยากวิ่งต่อไป แต่พอวิ่งต่อไปปรากฏว่าอาการเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นเจ็บหนักไปเลย ดังนั้น หากเพื่อนๆจะหยุดวิ่งทันทีที่รู้สึกเจ็บข้อเท้าก็เป็นวิธีป้องกันที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะสาเหตุของอาการเจ็บส่วนใหญ่มักจะแก้ไขได้ง่ายหากมีอาการไม่มาก แต่ถ้ายังฝืนวิ่งต่อไปอาจทำให้ต้องหยุดวิ่งไปอีกนานได้เลยนะ

อาการเจ็บข้อเท้าในระหว่างหรือหลังการวิ่ง มีสัญญาณอะไรบ้าง?

ก็ต้องดูก่อนว่ามันเกิดขึ้นในบริเวณไหนของข้อเท้า เช่น ด้านหน้า ด้านหลัง หรือเจ็บลึกไปด้านใน ตอนเริ่มเจ็บอาการเป็นอย่างไรเริ่มด้วยการปวดเมื่อยหรือว่าอยู่ดีๆ เกิดเจ็บขึ้นมาอย่างกะทันหัน และจากนี้ไปจะเป็นวิธีสังเกตอาการเจ็บข้อเท้าจากการวิ่งในช่วงระหว่างหรือหลังการวิ่ง สัญญาณเหล่านี้บอกได้ว่าอาการของข้อเท้าเริ่มพัฒนาไปเป็นปัญหาใหญ่แล้ว ต้องหยุดวิ่งทันที และต้องมีการหยุดพักเพื่อฟื้นตัวหรือพยายามรักษาให้หาย

  1. ระยะการเคลื่อนไหวของข้อเท้าลดลง
  2. อยู่ดีๆก็มีความเจ็บเกิดขึ้น
  3. มีความรู้สึกบีบ
  4. มีความรู้สึกเมื่อยอย่างต่อเนื่อง
  5. มีอาการบวม
  6. ความสามารถในการรับน้ำหนักลดลง
  7. อ่อนไหวต่อความเจ็บปวด
  8. ลองเอามือจับดูแล้วรู้สึกบริเวณข้อเท้าร้อนๆ

สาเหตุของอาการเจ็บข้อเท้าหลังการวิ่ง

วิธีรักษาและป้องกัน อาการปวดข้อเท้าหลังการวิ่ง

การเข้าใจถึงสาเหตุที่มาของอาการเจ็บ ถือได้ว่าเป็นปัจจัยหลักในการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์เลยก็ว่าได้ นักวิ่งควรมีความเข้าใจว่าอาการเกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อที่จะหาทางป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้อีก มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

1. การใช้งานซ้ำๆมากเกินไป

หนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยก็คือการใช้งานข้อเท้ามากไป การฝึกซ้อมวิ่งแบบง่ายๆทุกวันก็สามารถทำให้เรามีอาการเจ็บข้อเท้าได้ การวิ่งเป็นกิจกรรมที่มีรูปแบบการเคลื่อนไหวซ้ำๆอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีอะไรผิดปกติไปเพียงเล็กน้อย เช่น ฟอร์มการวิ่ง , อุปกรณ์ หรือการฝึก ก็อาจส่งผลทำให้เราปวดข้อเท้าได้

หากเพื่อนๆพบว่าอาการเจ็บปวดหายไปเองหลังการพัก ก็เป็นไปได้ว่าอาการมันเกิดขึ้นจากการฝึกซ้อมต่อเนื่อง จึงควรมีการลดระยะทางและความเข้มข้นในการฝึกลง

2. Overtraining

การฝึกหนักเกินไป เช่นมีการวิ่งสะสมระยะทางที่มากขึ้น หรือมีระดับการฝึกที่เข้มข้นขึ้น ร่างกายจะฟื้นตัวไม่ทันต่อการฝึกวิ่งในครั้งถัดไป นักวิ่งส่วนใหญ่ที่มีการฝึกหนักเกินไปมักพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้ตัวเองหยุดพัก จึงทำให้อาการบาดเจ็บที่ควรจะมีอาการน้อย สามารถลุกลามไปเป็นปัญหาใหญ่ได้

3. การวิ่งสะสมระยะทางหรือระดับความเข้มข้นที่มากขึ้น

ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่พบได้บ่อย นอกจากจะทำให้เจ็บข้อเท้าแล้ว ยังนำไปสู่อาการบาดเจ็บในรูปแบบอื่นได้ด้วย การเพิ่มระยะทางและความเข้มข้นเร็วเกินไปในช่วงเวลาสั้นๆจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ซึ่งนี่ก็รวมไปถึงการฝึก Speed Workout , การเพิ่มความเร็วในการวิ่งแบบกะทันหัน หรือการลดจำนวนวันสำหรับพักฟื้นหรือลดวันวิ่งแบบ Easy สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เรามีอาการเจ็บข้อเท้าได้

4. ภาวะเท้าแบน

คนที่มีเท้าแบนติดพื้น อาจส่งผลทำให้มีการเจ็บข้อเท้าตอนวิ่งได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการเท้าล้มตอนวิ่ง (Overpronation) ได้อีกด้วย เวลาวิ่งหรือเดินจะทำให้ข้อเท้าบิดเข้ามาด้านใน ดังนั้นนักวิ่งควรไปหารองเท้าวิ่งที่เหมาะสมกับสภาพเท้าของตัวเอง จะช่วยลดปัญหานี้ได้

5. การเลือกใช้รองเท้าที่ไม่เหมาะสม

บางครั้งสาเหตุก็มาจากการเลือกรองเท้าผิดประเภทหรือไม่เหมาะสมกับรูปเท้าของเรา รองเท้าวิ่งจะถูกออกแบบมาให้ซัพพอร์ตส่วนสำคัญ ซึ่งร้านขายรองเท้าวิ่งส่วนใหญ่มักจะนำเสนออุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับประเภทเท้าและสไตล์การวิ่งของเราอยู่แล้ว การยอมสละเวลาเลือกรองเท้าที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันปัญหาเจ็บข้อเท้าและช่วยซัพพอร์ตเท้าของเราได้ในกรณีที่เจ็บอยู่แล้ว

6. การวิ่งโดยไม่มีเทคนิค

หากเพื่อนๆไม่สามารถระบุสาเหตุของการปวดข้อเท้าได้ มันอาจเป็นเพราะเรามีเทคนิคการวิ่งที่ไม่ดีอยู่ก็ได้ มีนักวิ่งหลายคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีรูปแบบการวิ่งที่ไม่เหมาะสม เช่น มีช่วงการก้าวเท้ายาวเกินไป , มีการเอาส้นเท้าลงพื้น , จังหวะวิ่งช้า , มีการเอนตัวไปด้านหลัง หรือแม้แต่การแกว่งแขนไขว้กัน ก็ส่งผลเสียในระยะยาวนำไปสู่อาการบาดเจ็บอื่นๆได้

ดังนั้น เราควรสังเกตลักษณะการวิ่งของตัวเอง และปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องและเหมาะสมหากเพื่อนๆมีปัญหาเรื่องข้อเท้า การศึกษาเรื่องกายวิภาคของข้อเท้าจะมีประโยชน์มากโดยเฉพาะในกรณีที่หาสาเหตุไม่ได้

กายวิภาคข้อเท้าของนักวิ่ง

วิธีรักษาและป้องกัน อาการปวดข้อเท้าหลังการวิ่ง

แม้ว่าข้อเท้าดูเหมือนจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆของร่างกาย แต่กลับมีความซับซ้อนอย่างน่าทึ่ง ข้อเท้ามีกระดูก 26 ชิ้น ข้อต่อ 33 จุด และมีเส้นเอ้นและเอ็นอยู่ในนั้นเป็นร้อยจุด จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ปัญหาเรื่องข้อเท้าคือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้

สมาคมออร์โธปิดิกส์ของอเมริกาได้อธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างของข้อเท้าเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ดังนี้

  1. มีอยู่สองข้อต่อที่ทำให้กระดูกเชื่อมต่อกันคือ Ankle Joint และ Subtalar Join
  2. ในสองข้อต่อนี้จะมีกระดูกอย่างละ 3 ชิ้นคือ tibia , fibula และ talus
  3. จะมีเอ็นและกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า เพื่อช่วยในเรื่องการทรงตัวและการรองรับน้ำหนัก

นอกจากนั้น ยังมีกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นส่วนอื่นอีกหลายส่วน ที่ส่งผลต่อการทำงานและความมั่นคงของข้อเท้า ซึ่งมีทั้งหมด 4 ส่วนดังต่อไปนี้

  1. กล้ามเนื้อน่อง จะเชื่อมต่อกับเอ็นร้อยหวายที่อยู่ด้านหลังเท้า
  2. กล้ามเนื้อหน้าแข้ง ซึ่งจะลากลงมาเป็นทางยาวบริเวณหน้าแข้ง
  3. กล้ามเนื้อ Peroneal  ซึ่งลากยาวลงมาบริเวณมุมเท้าและข้อเท้า
  4. กล้ามเนื้อโพทิเรียร์ทิเบียลิส จะลากยาวลงมาจากด้านในน่องลงมาถึงเท้า

ในขณะที่ข้อเท้ามีขนาดเล็ก แต่การมีกล้ามเนื้อที่กล่าวไว้ด้านบนที่ไม่สมดุล ก็สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บข้อเท้าตอนวิ่งได้

อาการบาดเจ็บอื่นๆ ที่เกิดขึ้นได้

นักวิ่งส่วนใหญ่มีการวินิจฉัยอาการเจ็บข้อเท้าเร็วเกินไป ซึ่งบางทีอาจเป็นอาการเจ็บที่เกิดขึ้นจากสิ่งเล็กน้อยอื่นๆ หากเราวินิจฉัยผิดก็อาจเป็นปัญหาใหญ่ในภายหลังได้

  • ข้อเท้าเคล็ด อาการเคล็ดจะเกิดขึ้นเมื่อมีการอักเสบของเส้นเอ็น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการฝึกมากไปหรือฝึกหนักเกินไป
  • ข้อเท้าแพลง เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวข้อเท้าที่ไม่เป็นธรรมชาติ อาการข้อเท้าแพลงถือว่าเป็นอาการบาดเจ็บที่พบได้ทั่วไป และมักแก้ปัญหาได้ด้วยการหยุดพัก
  • เอ็นอักเสบ อาการเอ็นข้อเท้าอักเสบอาจเกิดจากการฉีกขาด บวมหรือถลอก ความรู้สึกไม่สบายหรือระคายเคือง เป็นสัญญาณของอาการเอ็นอักเสบ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับเอ็นส่วนหน้า ส่วนหลัง หรือข้างใดข้างหนึ่ง
  • กระดูกแตกเล็กๆเพราะทนความตึงเครียดไม่ไหว อาการกระดูกแตกแบบนี้จะพัฒนาขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อที่อยู่รอบๆ ไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกเพื่อปกป้องกระดูก หากอาการแตกเล็กๆนี้ไม่ได้รับการรักษา ก็อาจพัฒนาเป็นปัญหาใหญ่ได้
  • โรคข้ออักเสบ ถือว่าเป็นอาการแบบเรื้อรัง ซึ่งเป็นผลมาจากความเสียหายของข้อต่อ , การอักเสบหรืออยู่ในภาวะอ่อนแอ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ โรคข้ออักเสบนั้นมีสาเหตุหลายแบบ ดังนั้นเราจึงควรมีการวินิจฉัยที่ถูกต้องว่า ทำไมเราถึงได้มีอาการเจ็บข้อเท้าในตอนวิ่ง

วิธีรักษาอาการเจ็บข้อเท้า

แม้ว่าเพื่อนๆจะไม่แน่ใจว่าอาการเกิดขึ้นจากอะไร แต่ก็ยังมีวิธีที่จะช่วยในการรักษาและผ่อนคลายอาการเจ็บด้วยตนเองได้ โดยในกรณีส่วนใหญ่แก้ไขได้ด้วยการพักผ่อนและมีช่วงเวลาสั้นๆที่หยุดวิ่ง

1. การพัก

สิ่งแรกที่เราต้องทำเมื่อมีอาการเจ็บข้อเท้าคือ “การหยุดพัก” เมื่อมีอาการเกิดขึ้นให้หยุดวิ่งแล้วกลับบ้านทันที ยิ่งเราห่างจากการพักนานเท่าไหร่อาการยิ่งลุกลามได้มากเท่านั้น

การหยุดวิ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักวิ่ง แต่มันก็เป็นเรื่องง่ายกว่าหากจะหยุดพักไปวันสองวัน แทนที่จะมีอาการลุกลามจนต้องหยุดเป็นสัปดาห์หรือนานเป็นเดือน แนะนำให้เพื่อนๆหยุดพักไปเลยสัก 2-3 วัน หรืออาจเป็นระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถกลับไปวิ่งต่อได้โดยไม่มีอาการเจ็บ

2. การประคบน้ำแข็ง

อีกหนึ่งวิธีในการบรรเทาอาการเจ็บข้อเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่มีอาการบวมหรืออักเสบรวมอยู่ด้วย หากเพื่อนๆ มีอาการข้อเท้าแพลงการประคบน้ำแข็งจะช่วยควบคุมอาการบวมแล้วทำให้เกิดการฟื้นตัวเร็วขึ้น หากเพื่อนๆพบว่าตัวเองมีอาการบวมหรืออักเสบ และเริ่มมีอาการหนักขึ้นหลังการวิ่ง ให้รีบใช้น้ำแข็งประคบเพื่อป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงอีก

3. การพันผ้า

อีกหนึ่งวิธีในการควบคุมอาการเจ็บและอาการบวมคือการพันผ้าในบริเวณที่เกิดอาการ เพื่อนๆอาจจะใช้ถุงเท้า Compression Sock หรือผ้าพันแขนเอามาช่วยพันเพื่อบรรเทาอาการปวดหรือช่วยซัพพอร์ตข้อเท้าได้

4. การทายาแก้ปวด

มีอยู่หลายกรณีที่อาการเจ็บข้อเท้าทำให้นักวิ่งเดินตามปกติไม่ได้ และเมื่ออาการเจ็บลุกลามขึ้นก็อาจทำให้รู้สึกเจ็บจนนอนไม่หลับ การทายาจะช่วยให้เราควบคุมความเจ็บไว้ก่อนจนกระทั่งไปเข้ารับการรักษาได้

5. การใส่ผ้ายืดแบบสวมเพื่อลดอาการปวดบวมข้อเท้า (Ankle Braces)

วิธีนี้มีประโยชน์มาก เมื่อมีอาการเจ็บปวดอย่างหนักจนกระทั่งส่งผลต่อการเดินของเรา มันจะช่วยซัพพอร์ตข้อเท้าและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากการเคลื่อนไหวไปมากกว่านี้

วิธีการทำให้ข้อเท้าแข็งแรงขึ้นเพื่อใช้ในการวิ่ง

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บข้อเท้าก็คือ การทำให้ข้อเท้ามีความแข็งแรงมากขึ้น เราจึงควรสละเวลามาฝึกข้อเท้าให้แข็งแรง เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บในอนาคต

การออกกำลังกายด้วยท่า Heel Raise , Heel Walk , Star Steps และท่าออกกำลังกายที่มีการใช้ขาทีละข้าง จะช่วยให้ข้อเท้าและกล้ามเนื้อที่อยู่รอบข้างมีความแข็งแรงตลอดเวลา นอกจากจะช่วยป้องกันการเจ็บข้อเท้าได้แล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย

8 ท่าสำหรับใช้ในการฝึกข้อเท้า เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและความมั่นคงของข้อเท้า

1. ท่า Heel Raise (20 ครั้ง)

2. ท่า Heel Walk (20 ครั้ง)

3. ท่า Star Taps  (ข้างละ 5 ครั้ง)

4. ท่า Single leg balance (20 วินาที)

5. ท่า Single leg squat (ข้างละ 10 ครั้ง)

6. ท่า Jump Squat (20 ครั้ง)

7. ท่า Toe Point & Flex (ข้างละ 30 ครั้ง)

8. ท่า Lateral Hops (ทั้งหมด 20 ครั้ง)

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3A7AlML


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: Ankle injuriesinjuriesInjury PreventionRunner Injuriesอาการบาดเจ็บอาการบาดเจ็บของนักวิ่งอาการบาดเจ็บข้อเท้า
Previous Post

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10K สำหรับนักวิ่งมือใหม่

Next Post

3 เครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้สมองแก่เร็วขึ้น

thip

thip

Related Posts

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10K ภายใน 7 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่ มืออาชีพ นักวิ่งมีประสบการณ์

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10K ภายใน 7 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งที่อยากพัฒนาความเร็วและความอึด

17/11/2025
ท่าดริล วอร์มอัพ สำหรับนักวิ่ง

5 ท่าดริล สำหรับวอร์มอัพก่อนการฝึกวิ่ง

12/11/2025
4 รูปแบบการฝึก Speed Workouts เพิ่มความเร็วในการวิ่งสำหรับนักวิ่งทุกระดับ

4 รูปแบบการฝึก Speed Workouts เพิ่มความเร็วในการวิ่งสำหรับนักวิ่งทุกระดับ

09/11/2025
คู่มือฝึกวิ่งเทมโป (Tempo Run) ฉบับสมบูรณ์ | เทคนิคฝึกวิ่งเร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

คู่มือฝึกวิ่งเทมโป (Tempo Run) ฉบับสมบูรณ์ | เทคนิคฝึกวิ่งเร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

02/11/2025
โปรแกรมฝึก Speed Workout สำหรับนักวิ่ง

7 โปรแกรมฝึก Speed Workout สำหรับนักวิ่ง เพิ่มความเร็ว วิ่งไวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

31/10/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่ ฝึกตามได้ วิ่งถึงเส้นชัยแน่นอน

27/10/2025
Next Post
3 เครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้สมองแก่เร็วขึ้น

3 เครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้สมองแก่เร็วขึ้น

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 44.3k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

ประวัติศาสตร์ของมาราธอน ทำไมต้อง 42.195 กิโลเมตร

ประวัติศาสตร์ของมาราธอน ทำไมต้อง 42.195 กิโลเมตร

by VRUN VRIDE
08/09/2018

AMAZFIT เปิดตัว T-REX 2 สมาร์ทวอทช์พันธุ์แกร่ง ตอบโจทย์กิจกรรมกลางแจ้ง มาพร้อม GPS และฟังก์ชันระดับพรีเมียมในดีไซน์สุดล้ำ

AMAZFIT เปิดตัว T-REX 2 สมาร์ทวอทช์พันธุ์แกร่ง ตอบโจทย์กิจกรรมกลางแจ้ง มาพร้อม GPS และฟังก์ชันระดับพรีเมียมในดีไซน์สุดล้ำ

by VRUN VRIDE
18/07/2022

โปรแกรมการฝึกวิ่ง 10K ภายใน 13 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10K ภายใน 13 สัปดาห์

by thip
31/08/2022

การฝึกวิ่งลดน้ำหนัก

การฝึกวิ่งลดน้ำหนัก 14 วัน

by thip
22/02/2024

ก่อนออกไปวิ่ง เพื่อนๆ มีการเตรียมของหรือร่างกายกันอย่างไรบ้าง

ก่อนออกไปวิ่ง เพื่อนๆ มีการเตรียมของหรือร่างกายกันอย่างไรบ้าง

by VRUN VRIDE
03/11/2018

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (173)
  • Fitness & Health (378)
  • News (899)
  • Review (126)
  • Running (963)
  • Stories (201)
  • Training (485)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี