5 เหตุผลที่นักแข่งวิ่งระยะไกลควรที่จะลงแข่งวิ่งระยะสั้นด้วย
สำหรับนักวิ่งมาราธอนและนักวิ่งอัลตร้ามาราธอนนั้น ประโยคที่ว่า.. “5 กิโลเมตร”
มักจะหมายถึงแค่การวัดระยะทางที่พวกเขาวิ่งออกมาจากจุดเริ่มต้นเท่านั้น
ไม่ได้พูดถึงเรื่องการฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งขันการวิ่งแบบ 5k เลย
แต่เราควรที่จะรู้ประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงแข่งวิ่งในระยะสั้นไว้ด้วย
ถึงแม้ว่าเป้าหมายของเราคือการลงแข่งวิ่งระยะทางไกลก็ตาม
มาศึกษาประโยชน์ของการวิ่งระยะสั้น หรือการฝึกซ้อมในระยะทางสั้นๆกันค่ะ
เพิ่มความสามารถทางด้านแอโรบิค
การฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งวิ่งระยะสั้นให้ประโยชน์ต่อความสามารถทางด้านแอโรบิคเป็นอย่างมาก
พวกนักกีฬาที่มีความอดทนส่วนใหญ่มักจะชอบออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นต่ำ-ปานกลาง
แต่หากเพื่อนๆ เพิ่มระดับการออกกำลังกายให้สูงขึ้นไปอีก
ก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นได้ภายในช่วงเวลาอันสั้น
ให้เราถือซะว่าการฝึกวิ่ง 5k-10k นั้นคือการฝึกเพิ่มความเร็ว
และในระหว่างการฝึกนั้น เราก็จะได้พัฒนาร่างกายให้มีการหมุนเวียนออกซิเจนได้มากขึ้น
ยิ่งร่างกายหมุนเวียนออกซิเจนได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีความสามารถทางกายภาพเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
เพิ่มการผลิตไมโทคอนเดรียในร่างกาย
การวิ่งระยะสั้นและการฝึกวิ่งระยะสั้นนั้น ร่างกายจะมีการหมุนเวียนออกซิเจนในเลือด
ไปที่เซลล์กล้ามเนื้อ และมีการผลิตไมโทคอนเดรีย (mitochondria) มากขึ้น
ไมโทคอนเดรีย คือเซลล์ที่เป็นแหล่งสร้างพลังงาน มีหน้าที่ในการช่วยสร้างอะดีโนซีนไตรฟอสเฟต
(adenosine triphosphate: ATP) เปลี่ยนโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต
ไปเป็นพลังงานให้กับกล้ามเนื้อเมื่อเกิดการยืดหรือหดตัวของกล้ามเนื้อ
ถ้าเราฝึกวิ่งระยะสั้นบ่อยๆก็จะทำให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น
ส่งผลดีต่อไปยังการวิ่งระยะทางไกลด้วย
นี่ถือเป็นประโยชน์อันดับแรกๆที่การฝึกวิ่งระยะทางใกล้จะส่งผลต่อการวิ่งระยะทางไกล
ร่างกายไม่ได้สูญเสียความอึดจากการวิ่งระยะสั้น!
นักวิ่งระยะไกลมักจะกลัวว่า จะสูญเสียความอึดจากการซ้อมวิ่งระยะใกล้
แต่อย่าลืมว่าพวกนักกีฬาที่มีรูปแบบการฝึกที่หลากหลายผสมผสานกัน
จะมีประสิทธิภาพในการวิ่งมากกว่า และมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์การวิ่ง
และแก้ปัญหาทางเทคนิคต่างๆในการวิ่งระยะทางไกลได้
ดังนั้นจึงควรใส่การฝึกเพิ่มความเร็วลงไปในตารางฝึกของเราด้วย
อย่างการเตรียมตัวลงแข่งวิ่งแบบ 5k-10k จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
และจะช่วยเพิ่มเพซของเราได้อีกด้วย
ความเร็วและประสิทธิภาพของขาจะเพิ่มขึ้น
การออกกำลังกายแบบแอโรบิคจะช่วยเพิ่มความเร็วให้กับขาของเรา
และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง ช่วยเพิ่มความทนทานต่อกรดแลคติก
โดยการทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะที่มีกรดแลคติกสูงและปล่อยให้ร่างกายฟื้นตัว
เป็นการช่วยฝึกร่างกายให้มีความทนทานต่อกรดแลคติกที่ถูกปล่อยออกมาเป็นจำนวนมาก
ความสมดุลโดยรวม
การเพิ่มการออกกำลังกายแบบแอโรบิคเพื่อเตรียมตัวลงแข่งวิ่งระยะใกล้นั้น
ควรทำอย่างระมัดระวัง ควรมีเป้าหมายในการพัฒนา High Heart Rate
และควรเพิ่มระยะเวลาในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 10%
ยกตัวอย่างเช่น ในสัปดาห์ที่สองเราออกกำลังกายวันละ 12 นาที
ในสัปดาห์ต่อไปก็ควรเพิ่มเป็นวันละ 13.5 หรือ 15 นาที
การออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างหนักจะทำให้ร่างกายใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ถ้าหากต้องการที่จะรักษาระยะทางในการวิ่งเอาไว้
ก็ควรที่จะมีระยะทางวิ่งสำหรับใช้ในการวอร์มอัพและคูลดาวน์
หรือควรมีการวิ่งรอบที่สองในวันที่ออกกำลังกายหนัก
โดยวิ่งในระดับที่มีอัตราหัวใจเต้นช้า เพื่อขับถ่ายของเสียในร่างกายที่เกิดขึ้น
จากการออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างหนักนั่นเอง
เห็นไหมคะว่า การฝึกซ้อมและการลงแข่งวิ่งระยะทาง 5k และ 10k
จะทำให้ได้ประโยชน์ต่อการวิ่งระยะทางไกลแน่นอน
ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องการเพิ่มความเร็วในการวิ่ง
แต่ยังส่งผลไปถึงการวิ่งระยะทางไกลที่คุณตั้งเป้าจะลงแข่งอีกด้วย
ดังนั้น ควรใส่การวิ่งระยะสั้นเข้าไปในแผนการฝึกซ้อม หรือลงแข่งวิ่งระยะสั้นไว้ด้วย
เพราะมันจะเป็นตัวช่วยในการวิ่งระยะไกลของคุณได้
คราวนี้ไม่ว่าจะเป็นระยะ Half Marathon, Full Marathon
หรือแม้แต่ Ultra Marathon ร่างกายของเราก็แข็งแกร่งรับมือได้สบาย
แหล่งที่มา : https://bit.ly/2StBefJ
ไม่พลาดทุกกิจกรรม วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา
กด #Seefirst และ #Following กันไว้ ที่
?facebook.com/wheretorunwhentoride
ค้นหางานแข่งวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ทั่วไทย
ง่าย สะดวก พร้อมบทความสาระดีๆ ที่
?www.vrunvride.com
อัพเดท Running, Cycling,
Triathlon, Gadget, Food ได้ที่
?instragram.com/vrunvride
มาซ้อม วิ่ง ?♂ปั่น ?♂ว่าย ?♂ให้สนุกกันที่
?strava.com/clubs/vrunvride
[AD]
?บัตรเครดิต KTC ตัวจริงเรื่องกีฬา
แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 15% พร้อมแบ่งชำระ 0%
นานสูงสุด 10 เดือน ที่ Supersports ทุกสาขา
? bit.ly/CRCSPORTS
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming