วันจันทร์, มิถุนายน 16, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

โปรแกรมการฝึกวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก

thip by thip
29/09/2023
in Running, Training
0
โปรแกรมการฝึกวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก

Image by pressfoto on Freepik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

กุญแจสำคัญในการฝึกวิ่งลดน้ำหนักมีดังนี้

  1. เราจะต้องมีการควบคุมแคลอรี่ควบคู่กันไปด้วย และเราต้องเผาผลาญแคลอรี่ให้มากกว่าที่เรารับเข้ามาในแต่ละวัน
  2. และถ้าเรามีโภชนาการที่ถูกต้องด้วยล่ะก็ การออกกำลังกายแบบแอโรบิกก็จะช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่เพื่อลดน้ำหนัก
  3. โปรแกรมการวิ่งสำหรับนักวิ่งมือใหม่ ควรที่จะมีระดับความยากในการฝึกที่สมเหตุสมผล และค่อยๆเพิ่มระดับความเข้มข้นที่ละนิด การหักโหมตั้งแต่ต้นจะทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บจนต้องหยุดการวิ่งไป

การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่เรียบง่ายและสามารถทำได้ทุกที่และทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์สวมใส่หรูหราเว่อร์วัง ไม่ต้องสมัครเข้าโรงยิม ไม่ต้องผ่านการฝึกพิเศษใดๆทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและต้องการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หันมาใช้โปรแกรมการฝึกวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก

หากตัวผู้ฝึกมีการดูแลเรื่องโภชนาการที่ถูกต้องควบคู่ไปกับการวิ่งก็จะช่วยลดแคลอรี่ได้มากยิ่งขึ้น การรักษาความขาดดุลของแคลอรี่ในแต่ละวันนั้นคือกุญแจหลักในการลดน้ำหนัก การวิ่งสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานและมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ตั้งแต่การเพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปจนถึงการส่งเสริมการนอนหลับเลยทีเดียว

เข้าใจประโยชน์ของการวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก

การวิ่งมีประโยชน์มากมาย การวิ่งจะช่วยลดความเครียด ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น และเมื่อมีแผนการทานอาหารที่ถูกต้องก็จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสบายขึ้น เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าการวิ่งช่วยเราลดน้ำหนักได้อย่างไร

1. ส่งเสริมการเผาผลาญแคลอรี่

การลดน้ำหนักจำเป็นต้องมีการขาดดุลของแคลอรี่ (ใช้มากกว่ารับเข้ามา) การเผาผลาญแคลอรี่จึงเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการลดน้ำหนัก โปรแกรมการวิ่งเพื่อลดน้ำหนักที่ดีมักคำนึงถึงการเผาผลาญแคลอรี่ให้มากกว่าจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับจากอาหารในแต่ละวัน เพื่อให้เกิดการขาดดุลของแคลอรี่อย่างต่อเนื่องนั่นเอง

จากนี้ไปคือตารางที่คำนวนออกมาว่าเราจะเผาผลาญแคลอรี่ไปเท่าไหร่จากการออกกำลังกาย เช่น การเดิน การวิ่งจ๊อกกิ้ง และการวิ่ง ก่อนอื่นอย่าลืมคำนวนค่า BMR ก่อน และอย่าลืมเรื่องการคุมแคลอรี่ในแต่ละวันด้วยนะ และที่สำคัญคือในเว็บไซต์ของเรายังมีบทความเกี่ยวกับการฟาสติ้งที่น่าสนใจอีกหลายบทความ ลองเข้าไปอ่านกันได้

ตารางคำนวนการเผาผลาญพลังงานจากการเดินการวิ่งจ๊อกกิ้งและการวิ่ง

ปล. ข้อมูลด้านล่างนี้ จะคำนวนไมล์เป็นกิโลเมตรให้ด้วย โดยที่ระยะทาง 1 ไมล์เท่ากับ 1.6 กิโลเมตร

ตารางสำหรับเพศหญิง

โปรแกรมการฝึกวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก
Image by jcomp on Freepik

การเดิน ด้วยความเร็ว 3 ไมล์ (4.82 กม.) ต่อชั่วโมง

  • หากเดินด้วยความเร็วตามนี้ 10 นาที จะเผาผลาญ 40 แคลอรี่
  • 30 นาทีจะเผาผลาญ 120 แคลอรี่
  • 60 นาทีจะเผาผลาญได้ 240 แคลอรี่

การวิ่งจ๊อกกิ้งด้วยความเร็ว 5 ไมล์ (8.04 กม.) ต่อชั่วโมง

  • 10 นาทีจะเผาผลาญ 100 แคลอรี่
  • 30 นาทีจะเผาผลาญ 300 แคลอรี่
  • 60 นาทีจะเผาผลาญ 600 แคลอรี่

การวิ่งด้วยความเร็ว 6 ไมล์ (9.65 กม.) ต่อชั่วโมง

  • 10 นาทีจะเผาผลาญ 120 แคลอรี่
  • 30 นาทีจะเผาผลาญ 360 แคลอรี่
  • 60 นาทีจะเผาผลาญ 720 แคลอรี่

การวิ่งด้วยความเร็ว 7.5 ไมล์ (12.07 กม.) ต่อชั่วโมง

  • 10 นาทีจะเผาผลาญ 150 แคลอรี่
  • 30 นาทีจะเผาผลาญ 450 แคลอรี่
  • 60 นาทีจะเผาผลาญ 900 แคลอรี่

ตารางสำหรับเพศชาย

โปรแกรมการฝึกวิ่ง วิ่งเพื่อลดน้ำหนัก
Image by pressfoto on Freepik

การเดิน ด้วยความเร็ว 3 ไมล์ (4.82 กม.) ต่อชั่วโมง

  • หากเดินด้วยความเร็วตามนี้ 10 นาที จะเผาผลาญ 50แคลอรี่
  • 30 นาทีจะเผาผลาญ 150 แคลอรี่
  • 60 นาทีจะเผาผลาญได้ 300 แคลอรี่

การวิ่งจ๊อกกิ้งด้วยความเร็ว 5 ไมล์ (8.04 กม.) ต่อชั่วโมง

  • 10 นาทีจะเผาผลาญ 120 แคลอรี่
  • 30 นาทีจะเผาผลาญ 360 แคลอรี่
  • 60 นาทีจะเผาผลาญ 60720 แคลอรี่

การวิ่งด้วยความเร็ว 6 ไมล์ (9.65 กม.) ต่อชั่วโมง

  • 10 นาทีจะเผาผลาญ 140 แคลอรี่
  • 30 นาทีจะเผาผลาญ 420 แคลอรี่
  • 60 นาทีจะเผาผลาญ 840 แคลอรี่

การวิ่งด้วยความเร็ว 7.5 ไมล์ (12.07 กม.) ต่อชั่วโมง

  • 10 นาทีจะเผาผลาญ 180 แคลอรี่
  • 30 นาทีจะเผาผลาญ 540 แคลอรี่
  • 60 นาทีจะเผาผลาญ 1080 แคลอรี่

2. การวิ่งช่วยส่งเสริมระบบเผาผลาญพลังงาน

หากเป้าหมายของเพื่อนๆคือการลดน้ำหนัก การรักษาการขาดดุลของแคลอรี่ก็คือปัจจัยสำคัญ ซึ่งการวิ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของเรา นอกจากนี้การออกกำลังกายแบบแอโรบิกประเภทอื่นๆ ก็จะช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญพลังงานให้เราได้เช่นกัน 

ร่างกายจะมีการเผาผลาญแคลอรี่และไขมันในตอนวิ่งมากกว่าในตอนที่เราอยู่เฉยๆ นอกจากนี้ยังมีการวิจัยที่ระบุว่าการออกกำลังกายที่มีระดับความเข้มข้นสูงมากจะช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญได้ทั้งวันอีกด้วย

3. ช่วยโทนกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น

การวิ่งจะช่วยฝึกกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นในขาและร่างกายส่วนล่าง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง , ความยืดหยุ่นและให้ประโยชน์ทางด้านคาร์ดิโอ เป็นที่รู้กันดีว่านักวิ่งจะมีร่างกายที่โทน ไร้ไขมัน หากเป้าหมายของเพื่อนๆคือการลดน้ำหนักล่ะก็ มันจะดีหากเรามีการฝึกวิ่งควบคู่ไปกับการฝึก Strength Training ไปด้วย เคยมีการวิจัยค้นพบว่าในหมู่คนที่มีน้ำหนักเกินหากฝึกวิ่งควบคู่กับการฝึก Strength Training จะสามารถลดไขมันได้อย่างรวดเร็ว เร็วมากกว่าคนที่ออกกำลังกายแบบแอโรบิกเพียงอย่างเดียว

4. ให้สร้างกิจวัตรในการฝึกวิ่งขึ้นมาเพื่อช่วยลดน้ำหนัก

การตั้งเป้าเพื่อทำให้สำเร็จนั้นสำคัญ แค่เรามีโปรแกรมการฝึกวิ่งยังไม่พอ แต่เราควรมีการปกป้องตัวเองจากการรู้สึกเสียกำลังใจ , อาการบาดเจ็บทางกาย และเรื่องไม่คาดคิดอื่นๆ

5. ตั้งเป้าหมายให้สมเหตุสมผลตามความเป็นจริง

หากเพื่อนๆเป็นคนที่พึ่งเริ่มต้นออกกำลังกายก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี แต่มีข้อควรระวังคือคนที่พึ่งเริ่มการฝึกนั้นร่างกายยังปรับตัวไม่ทันจึงไม่ควรที่จะหักโหมในการฝึกมากเกินไป และการตั้งเป้าหมายเว่อร์เกินไปก็จะทำให้เกิดความรู้สึกด้านลบขึ้นมาได้ ดังนั้นควรเริ่มต้นด้วยเป้าหมายเล็กก่อนจึงจะดีต่อสุขภาพร่างกาย การหักโหมมีแต่จะทำให้ได้รับบาดเจ็บ

6. ออกแบบโปรแกรมการวิ่งที่ค่อยๆเพิ่มระดับความยาก

การค่อยๆเพิ่มระดับความยากในการฝึกคือการตั้งเป้าหมายแบบสมเหตุสมผล โดยในช่วงแรกเราจะเริ่มจากเดินเปลี่ยนไปเป็นวิ่ง เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้ทัน จะได้ไม่มีอาการบาดเจ็บตามมา 

7. การจัดลำดับความสำคัญ

เราควรมีการฝึกวิ่งระยะไกลและการฝึกเป็นประจำ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องวิ่งหรือเดินตามระยะทางที่กำหนดไว้ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าระยะทางก็คือการรักษาความเร็วในการวิ่งให้คงที่ และการค่อยๆเสริมสร้างความต้องการออกกำลังกายจนเป็นกิจวัตร และการปรับร่างกายให้เข้ากับการวิ่งเสียก่อน 

หากจะให้วิ่งสัปดาห์ละ 5 วันมันก็เกินไปหน่อยและคนส่วนมากมักจะไม่ไหว ดังนั้นในช่วงแรกก็ให้วิ่งวันเว้นวันจะดีกว่า เว้นเสียแต่จะเป็นคนที่ฝึกวิ่งมาอย่างต่อเนื่องจึงจะสามารถทำได้

อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือการฝึกอย่างต่อเนื่อง เมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวและสร้างนิสัยฝึกวิ่งเป็นกิจวัตรได้แล้วมันจะง่ายขึ้นเอง

8. ต้องได้รับสารอาหารอย่างถูกต้อง

การวิ่งเพื่อลดน้ำหนักนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่หากเราทานอาหารจนได้รับแคลอรี่เยอะเกินกว่าที่ร่างกายจะเผาผลาญได้ มันก็จะไม่เกิดการขาดดุลของแคลอรี่และไม่สามารถลดน้ำหนักได้ ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องมีการคำนวนแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวันด้วย

โปรแกรมการวิ่งลดน้ำหนักสำหรับมือใหม่

โปรแกรมการวิ่งลดน้ำหนักสำหรับมือใหม่

สัปดาห์ที่ 1 

  • วันที่ 1 :  เดิน 20 นาที
  • วันที่ 2 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 20 นาที (ฝึกอะไรก็ได้ที่ไม่สร้างแรงกระแทกให้ร่างกายเช่นว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน)
  • วันที่ 3 : เดิน 25 นาที
  • วันที่ 4 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 20 นาที 
  • วันที่ 5 : วิ่งสลับเดิน 4 รอบ (เดิน 4 นาที/วิ่ง 1 นาที)
  • วันที่ 6 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 20 นาที 
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 2

  • วันที่ 1 :  วิ่งสลับเดิน 5 รอบ (เดิน 4 นาที/วิ่ง 1 นาที)
  • วันที่ 2 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 25 นาที (ฝึกอะไรก็ได้ที่ไม่สร้างแรงกระแทกให้ร่างกายเช่นว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน)
  • วันที่ 3 : วิ่งสลับเดิน 6 รอบ (เดิน3 นาที/วิ่ง 1 นาที)
  • วันที่ 4 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 25 นาที 
  • วันที่ 5 : วิ่งสลับเดิน 7 รอบ (เดิน 3 นาที/วิ่ง 1 นาที)
  • วันที่ 6 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 25 นาที 
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 3

  • วันที่ 1 :  วิ่งสลับเดิน 7 รอบ (เดิน 3 นาที/วิ่ง 1 นาที)
  • วันที่ 2 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 30 นาที (ฝึกอะไรก็ได้ที่ไม่สร้างแรงกระแทกให้ร่างกายเช่นว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน)
  • วันที่ 3 : วิ่งสลับเดิน 9 รอบ (เดิน 1 นาที/วิ่ง 2 นาที)
  • วันที่ 4 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 30 นาที 
  • วันที่ 5 : วิ่งสลับเดิน 7 รอบ (เดิน 3 นาที/วิ่ง 1 นาที)
  • วันที่ 6 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 30 นาที 
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 4

  • วันที่ 1 :  วิ่งสลับเดิน 6 รอบ (เดิน 1 นาที/วิ่ง 1 นาที)
  • วันที่ 2 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 30 นาที (ฝึกอะไรก็ได้ที่ไม่สร้างแรงกระแทกให้ร่างกายเช่นว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน)
  • วันที่ 3 : เดิน 5 นาที วิ่ง 20 นาที เดิน 5 นาที
  • วันที่ 4 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 30 นาที 
  • วันที่ 5 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 6 : พัก หรือไม่ก็ฝึก Cross Training 30 นาที 
  • วันที่ 7 : พัก

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3sHKOhV


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: runningRunning PlanRunning ProgramRunning Training Planweight lossตารางซ้อมวิ่งตารางฝึกวิ่งลดน้ำหนักวิ่งแผนซ้อมวิ่งแผนฝึกวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งโปรแกรมฝึกวิ่ง
Previous Post

อาดิดาส ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จแคมเปญ Project PB พานักวิ่ง 300 คน พิชิตสถิติใหม่ใน ADIZERO. MADE TO WIN. 10K หลังเทรนเข้มกับโค้ชทีมชาติ 1 เดือนเต็ม

Next Post

10 เคล็ดลับการฝึก Strength Training สำหรับนักวิ่ง

thip

thip

Related Posts

เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

5 เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

14/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ป้องกันการบาดเจ็บ

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง เพื่อลดโอกาสบาดเจ็บ

11/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง นักวิ่ง

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง สำหรับนักวิ่ง

04/06/2025
5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

22/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

19/05/2025
ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

5 ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

16/05/2025
Next Post
10 เคล็ดลับการฝึก Strength Training สำหรับนักวิ่ง

10 เคล็ดลับการฝึก Strength Training สำหรับนักวิ่ง

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 33.7k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

Salomon Index.01 รองเท้าผ้าใบสำหรับใส่วิ่ง

Salomon Index.01 รองเท้าผ้าใบสำหรับใส่วิ่ง ดูดีจริงๆ แถมรีไซเคิลได้ด้วย

by thip
06/09/2020

Newton Running Newton Running Fate IV “Special Edition”

Newton Running Fate IV “Special Edition”

by OUTRUN
04/12/2018

Huami Amazfit Pop

Huami Amazfit Pop สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่สีสันสดใสน้ำหนักเบา เตรียมเปิดตัวช่วงโปรฯ 11-11

by thip
18/10/2020

5 ประโยชน์ของวิตามินบีรวมที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

5 ประโยชน์ของวิตามินบีรวมที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

by FatxRun
25/12/2018

#ความผิดพลาดของนักวิ่งเวลาซื้อรองเท้า

#ความผิดพลาดของนักวิ่งเวลาซื้อรองเท้า

by VRUN VRIDE
16/02/2019

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (370)
  • News (874)
  • Review (126)
  • Running (941)
  • Stories (201)
  • Training (462)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี