[Performance Review] Newton Running Fate II
รองเท้า ยี่ห้อ “ขาแรง” รุ่นที่จูนเครื่องมาให้ “คนทั่วไป” ใส่ได้
ยี่ห้อ: Newton Running
รุ่น: Fate II
หมวดหมู่: POP II (POP 2)
สภาพทดสอบ ระยะรวม 100 กม รวมถึง
1) interval 400/800 ม.
– พื้นผิว สังเคราะห์ ในสนามกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
– อากาศ ชื้น ไม่มีฝน อุณหภูมิ 35 องศา
2) tempo 5/10 กม
– พื้นลาดยาง ในสวนสาธารณะ
– อากาศชื้น ทั้งมีฝน และ ไม่มีฝน อุณหภูมิ 33 องศา
3) LSD (long slow distance) > 20 กม
– พื้นผิวลาดยาง รอบอ่างเก็บน้ำบางพระ อากาศชื้น ไม่มีฝน อุณหภูมิ 38-40 C
– พื้นผิวคอนกรีต รอบเซ็นทรัลพระราม9 อากาศแห้ง ไม่มีฝน อุณหภูมิ 32 องศา
หมายเหตุ: รองเท้าตัวอย่าง ที่ Newton Running Thailand ส่งให้มารีวิว
——
คน ส่วนใหญ่ จะรู้จัก Newton ในแง่
☑ รองเท้าที่ “ขาแรง” ใส่กัน ต้องซอยขายิก
☑ รองเท้าที่ พอลงหน้าเท้า แล้ว เด้งสุดๆ
☑ รองเท้าที่ “ครูดิน” ใส่
รู้ไหม เค้ามีรุ่น ของ คนทั่วไป ด้วย !!
ใช่ !! รุ่นสำหรับ คนทั่วไป เราๆ ท่านๆ เนี่ยแหละ ไม่ต้องเป็นขาแรง
ให้ดูรุ่นที่ เป็น POP II กับ POP III มันจะดีดกำลังดี (ของ “ขาแรง” จะเป็น POP I)
☑ ชอบคอนเซ็ปที่เน้น “ท่าวิ่ง” เป็นหลัก แล้วค่อยให้ “รองเท้า” เป็นตัวช่วย ตัวเสริม
– ในขณะที่ตลาดหลักยังขาดการ”เน้นย้ำ”ส่วนนี้ และทำให้นักวิ่ง (ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจของแบรนด์ หรือการขาดความรู้ของนักวิ่งโดยเฉพาะมือใหม่) มักใช้รองเท้าเป็นการแก้ไขปัญหาการวิ่งของตัวเองโดยเฉพาะอาการบาดเจ็บ ก่อนที่จะหันมาดูเรื่องท่าวิ่งตัวเอง
☑ ที่ชอบส่วนตัวกับเทคโนโลยี action / reaction ของ Newton คือ มีปุ่มที่ใต้หน้าเท้า เวลาลงที่กลางเท้า/หน้าเท้า (midfoot/ forefoot) แล้วจะเด้งมาก
– นึกภาพ ยี่ห้ออื้นจะเด้งแบบ “ฟูกที่นอน” ส่วน Newton จะเด้งแบบ “trampoline”
– เน้นให้รักษารอบขาสูง (high cadence) และ ground contact time น้อย เพื่อให้ แรงกระแทกต่ำ (low impact)
– ออกแนว responsive คือให้ feedback ได้ดี ใครหารองเท้านุ่มๆ ยวบๆ จะไม่ใช่แนวนี้
☑ อยากแนะนำให้ดู tutorial เรื่องท่าวิ่งอันนี้ จาก Newton Running (ภาษาอังกฤษ)
https://youtu.be/Gty7rFrsnBg
☑ รุ่นนี้ Fate II ยังมีข้อดี Newton ยังอยู่ครบ และลงตัว
– น้ำหนักเบา
– เนื้อผ้าโปร่ง
– ใส่กระชับสบาย คล่องตัว
– โครงสร้างมากกำลังดี รักษาเท้าไม่โยกเยก
– ทรงเท้า แนวกลางๆ ระหว่าง training กับ racing (ไม่แคบไปเหมือนพวก racing จัดๆ)
– ลงหน้าเท้า แล้วเด้ง เด้งมาก แม้จะไม่เท่ารุ่นที่เป็น POP I อย่าง Gravity หรือ Motion
– เด้งที่ช่วยมาก เด้งส่งเวลาอยากเร่ง กับ ตอนกล้ามเนื้อหมดแล้ว รองเท้าเด้งคืนให้ เรามีหน้าที่ซอยขาให้ทัน
– เผลอลงส้นบ้าง ก็ไม่กระด้าง
– low heel drop (4.5 mm)
– ส้นเท้า กระชับ ไม่มีวิ่งแล้วส้นจะหลุด (heel slip) แม้ไม่ได้ผูกเชือกที่ runners loop
☑ คู่นี้ เป็น Newton รุ่นที่วิ่งง่ายที่สุด ปรับตัวน้อยที่สุดตั้งแต่เคยใส่มา
– ใครเคยอ่านเรื่องการปรับตัวให้เข้ารองเท้าที่ zero/low drop ที่ OUT RUN เคยเขียนไว้ที่โพสต์นี้ ( https://goo.gl/KBCmrR ) จะเห็นว่า รองเท้าแนววิ่งธรรมชาติมักต้องมีช่วงการปรับตัวให้กล้ามเนื้อคุ้น
☑ ส่วนตัวด้วยความที่ลงหน้าเท้า ผสมกลางเท้า คู่นี้ปรับตัวน้อยมาก (ยังไงก็ควรสังเกตเองด้วย)
– heel drop 4.5 mm ของคู่นี้ ที่จริงๆถือว่าไม่สูง ค่อนมาทางต่ำด้วยซ้ำ ในช่วงที่ลองก็วนใส่กับอีกหลายคู่ที่ heel drop 4-10 mm โดยไม่มีอุปสรรคอะไร (เทียบกับรุ่นในกลุ่ม POP I ที่ heel drop 3 mm หรือ รองเท้าอื่นที่ zero drop ที่เวลานานๆ วนมาใส่ที ที่ต้องวอร์มให้ถึง สังเกตและระวังมากหน่อย โดยเฉพาะน่องและเอ็นร้อยหวาย
☑ ทางเลือกที่ดี สำหรับคนเริ่มปรับมา สาย natural running / minimal หรือ ปรับท่าวิ่งให้ลง กลางเท้า / หน้าเท้า (midfoot / forefoot)
☑ ความรู้สึก ว่ามีปุ่มอยู่ใต้หน้าเท้า (ที่บางคนไม่ชอบ) น้อยลงมาก ใส่เดินก็คล่องขึ้น ด้วยความที่ปุ่มมันโค้งมน หน่อย
☑ เด้งกำลังดี และ ไม่กระด้างมาก แม้เวลาลงเท้าไม่เป๊ะ
– POP I นี่ พอลงเท้าแม่นโดนปุ่ม เด้งกระจายเลย (บางคนไม่ชอบก็มีนะ) พอลงไม่เต็มปุ่ม จะรู้สึกถึงความเหลี่ยมของปุ่มชัดอยู่ ในแง่นึง ก็ดีนะได้ feedback ดีว่าเราลงเท้าแบบปลายเท้าชี้ลงพื้น (มักเกิดจาก ข้อเท้าไม่แข็งแรง)
– POP II อย่างรุ่นนี้ ปุ่มโค้งมน เวลาลงขนานกับพื้น ก็ยังเด้ง เด้งกำลังดี เวลาลงไม่เต็ม มันก็ยังพอเด้ง และ ไม่รู้สึกความกระด้างของปุ่มมาก
– อีกข้อดีหนึ่งคือ ช่วงระหว่างยังปรับมาวิ่งลงกลางเท้าหน้า/เท้าไม่ได้ ก็วิ่งแบบลงส้นได้
– คือ ลงส้น —> ถ่ายน้ำหนักไปกลางเท้า/หน้าเท้า —> ถีบส่งออกตัว
– ถ้าเป็น POP I การถ่ายน้ำหนัก (foot transition) จากส้นไปหน้าเท้า จะไม่ต่อเนื่องเท่า ด้วนความที่ “ปุ่ม” สูง
☑ วิ่งช้าได้
– ลอง เพซ 7 / 8 / 9 นาทีต่อกม ด้วยการยกเท้าต่ำแค่ข้อเท้า (ankling) แล้วซอยขาถี่หน่อย (high cadence)
– ผ่อนเพซ ปล่อยไหลไปได้เรื่อยๆ เนิบๆ ยาวๆ ฝึกหัวใจโซน 2
☑ วิ่งเร็วได้
– DNA ของ Newton ยังอยู่
– เร่งขึ้น ยังเด้งมัน
☑ Wide foot friendly
– ทรงเท้าของ Newton จะกลางๆ
– แอบมีผ้ายืด ตรงด้านข้างของหน้าเท้า ที่ปรกติมักจะบีบคนเท้ากว้าง
– ทำให้คนเท้ากว้างก็ใส่ได้สบาย
– ผมเท้ากว้าง 2E & 4E เลือกไซส์ เป็น ซม ตรงตาม รองเท้าวิ่งที่ใส่อยู่ปัจจุบันได้เลย
– เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากความเด้งของปุ่ม แนะนำให้เลือกไซส์ที่ “ปุ่ม” อยู่ใต้ “จมูกเท้า” (metatarsal head) พอดี
☑ วิ่งระยะไหนได้บ้าง
– หลังจาก”ปรับตัวได้”แล้วเรื่องกล้ามเนื้อ ระยะที่ใช้เวลา ไม่เกิน 3 ชม ได้สบาย (ระยะเท่าไร แล้วแต่เพซแต่ละคน)
– ระยะที่ใช้เวลานานกว่านั้น วิ่งพื้นแข็ง เช่น ถนนคอนกรีต ต่อเนื่อง เริ่มรู้สึกว่า ระบม”จมูกเท้า” (ถนนลาดยางไม่เป็น)
– ส่วนตัวคือระยะ ก็คือ ระยะ 10-20 กม กำลังดี
– หลายคนใส่ Newton ได้ถึงระยะ 42 กม เวลาเพิ่มระยะก็ลองสังเกตร่างกายดู
☑ ราคา น่าลอง
– POP II ราคาน่าลอง ถูกกว่า POP I พอตัว (ทั้งเมืองนอกและเมืองไทย)
– ตัดสินใจง่ายขึ้น
– รุ่นนี้เป็นรุ่น ที่ออกมาสักพักแล้ว ลดราคา ยิ่งน่าลองเข้าไปใหญ่
– – – – –
รองเท้าวิ่ง Fate II จุดลงตัวของ Newton
☑ คนที่ไม่เคยใช้ Newton มาก่อน
☑ อยากหัด วิ่งลงกลางเท้า/หน้าเท้า หรือ natural running
☑ วิ่งผ่อนได้ เร่งขึ้น
☑ ราคาถูกกว่า รุ่นพวก POP I
☑ ตรงไซส์ เท้ากว้างใส่ได้
หมายเหตุ
1) ผู้ทดสอบรองเท้ากว้าง 2E/4E กว้างและ แบน
2) ปรกติ ใส่รองเท้าส่วนใหญ่ ตรงไซส์ คือ 9.5 US / 27.5 cm
3) รองเท้าในรูป เป็นรองเท้า sample ที่ Newton Running Thailand ส่งมาให้เราลอง
#feelnewton #newtonrunning #newtonrunningthailand #outrunTH