วันอังคาร, มีนาคม 28, 2023
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

วิธีทำเวลาวิ่งระยะทาง 10K ให้ได้ภายในเวลา 55 นาที

Thip by Thip
29/01/2023
in Running, Training
0
วิธีทำเวลาวิ่งระยะทาง 10K ให้ได้ภายในเวลา 55 นาที
  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

ระยะทางการวิ่ง 10K นั้นเป็นระยะทางยอดนิยมของนักวิ่งหลายคน เพราะเป็นระยะทางไกลมากพอที่จะสร้างความรู้สึกประสบความสำเร็จได้ และยังเป็นระยะทางที่สั้นมากพอสำหรับคนที่มีเวลาฝึกน้อยด้วยเช่นกัน หากเพื่อนๆกำลังต้องการทำเวลาในการวิ่งระยะทาง 10K ให้ได้ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ก็ขอให้ลองฝึกวิ่งตามคำแนะนำต่อไปนี้ได้เลย

เพซในการวิ่ง 10K ให้ได้ภายใน 55 นาที

เพื่อทำเวลาในการวิ่ง 10 กิโลเมตรให้สำเร็จภายใน 55 นาที เพื่อนๆจะต้องทำเวลาในการวิ่งให้ได้ 5 นาที 30 วินาที ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร หรืออาจวิ่งเร็วกว่านั้นเล็กน้อย แต่ถ้าหากฝึกวิ่งในสนามกีฬาให้ใช้ความเร็ว 2 นาที 13 วินาที ต่อระยะทาง 400 เมตร และ 4 นาที 26 วินาทีต่อระยะทาง 800 เมตร และถ้าฝึกบนลู่วิ่งไฟฟ้าให้ใช้ความเร็ว 6.7 mph หรือ 10.9 กิโลเมตร/ชั่วโมง

วิธีการฝึกวิ่ง

หากเพื่อนๆต้องการทำเวลาในการวิ่ง 10K ให้ได้ภายใน 55 นาทีล่ะก็ อย่างน้อยควรสามารถทำเวลาให้ได้ 1 ชั่วโมงก่อน และในกรณีที่เป็นการลงแข่ง 10K เป็นครั้งแรก อย่างน้อยควรทำเวลาในการวิ่ง 5K ให้ได้ใน 27 นาที หรือใช้เวลาในการวิ่งระยะทาง 1 ไมล์ (แปลงเป็น 1.6 กม.) ภายใน 8 นาที 50 วินาที (หรืออย่างน้อยก็สามารถวิ่งระยะทาง 1 กม.ได้ภายใน 5 นาที 30 วินาที) แล้วก็ให้ใช้เพซนี้แหละ เอามาใช้ตอนวิ่ง 10K

องค์ประกอบที่จะช่วยให้เราทำเวลาได้ภายใน 55 นาที

เราจะต้องมีการฝึกวิ่ง 4-5 วันต่อสัปดาห์ และต้องมีวันพักอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ เพื่อนๆจะต้องสามารถวิ่งต่อเนื่องเป็นระยะทาง 8 – 9.6 กม. โดยไม่หยุดพัก และต้องมีเวลา 6-12 ชั่วโมงให้กับการฝึกแต่ละสัปดาห์ด้วย

รูปแบบการฝึกจะมีดังนี้

วิธีทำเวลาวิ่งระยะทาง 10K ให้ได้ภายในเวลา 55 นาที

การวิ่ง Easy

การวิ่ง Easy จะช่วยเสริมสร้างความสามารถด้านแอโรบิก และเป็นการฝึกที่ไม่สร้างภาระให้กับเท้าของเราด้วย ในการวิ่ง Easy เราควรที่จะวิ่งในระดับที่สามารถวิ่งไปคุยไปได้โดยไม่หอบ ถ้าคิดเป็นคะแนนความยากแบบเต็ม 10 ก็จะอยู่ที่ 5-6 คะแนน

การฝึกวิ่งระยะไกล

การวิ่งระยะไกลเป็นการฝึกเพื่อเพิ่มระดับความทรหดให้ร่างกาย เพิ่มขยายขีดจำกัดในด้านแอโรบิก ความทนทานของกล้ามเนื้อ และความอดทนของจิตใจ

การวิ่งระยะไกลจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของไมโทคอนเดรีย ทำให้กล้ามเนื้อสามารถเผาผลาญไขมันและผลิตพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ข้อต่อ กระดูกและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน รวมไปถึงหัวใจและปอดด้วย

โดยปกติแล้วจะมีการฝึกวิ่งระยะไกลเพียงแค่ 1 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น และจะค่อยๆเพิ่มระยะทางเมื่อมีระดับความฟิตมากขึ้น

การฝึกวิ่งเร็ว Speed Workouts

เป็นการฝึกที่จะมีการกำหนดระยะทางและเพซมาแบบเฉพาะเจาะจง โดยปกติแล้วจะเหมาะกับการฝึกในสนามกีฬา โดยการฝึกวิ่งเร็วส่วนใหญ่มักใช้เพซเดียวกันกับตอนลงแข่งจริง ใช้เพซ VO2 MAX หรือเร็วกว่า

และเพื่อที่จะทำเวลาในการวิ่ง 10K ให้ได้ใน 55 นาที หมายความว่าควรฝึกวิ่งเร็วให้ได้ 2 นาที 13 วินาทีต่อระยะทาง 400 เมตร การฝึกนี้จะช่วยให้ร่างกายเคยชินกับการวิ่งเร็ว ทำให้มีความทนทานมากขึ้น

Threshold Workouts และการวิ่งเทมโป

การฝึก Threshold จะช่วยทำให้ร่างกายรับมือกับการวิ่งเร็วขึ้นก่อนที่จะไปถึงขีดจำกัดที่จะทำไหว เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อฝึกร่างกายให้ทนต่อกรดแลคติก ซึ่งก็คือจุดที่ร่างกายถึงขีดจำกัดไม่สามารถย่อยกรดแลคติกในกล้ามเนื้อได้ทัน จนทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าขาหนักในตอนวิ่งนั่นเอง

เวลาฝึกวิ่ง Threshold ให้วิ่งที่ 83-88% ของ VO2 MAX หรือใช้เพซยากๆในระดับที่สามารถวิ่งรักษาความเร็วต่อเนื่องได้นานเป็นชั่วโมง

แต่สำหรับนักวิ่งทั่วไปแล้ว เพซ Threshold จะช้ากว่าเพซ 10K ประมาณ 10 วินาที ดังนั้นหากต้องการฝึกวิ่งเพื่อทำเวลาการวิ่ง 10K ให้ได้ใน 55 นาที ก็ควรฝึกด้วยความเร็ว 5 นาที 36 วินาที ต่อ 1 กิโลเมตร หรือ 5 นาที 40 วินาทีต่อ 1 กิโลเมตร

Hill repeats

มันคือการฝึกวิ่งขึ้นเนินหลายรอบซ้ำๆโดยใช้เพซ Threshold  หรือฝึกวิ่งขึ้นเนินในช่วงสั้นๆโดยใช้ความเร็วสูงสุด ซึ่งการฝึกวิ่งขึ้นเนินมันจะช่วยเพิ่มความเร็ว พละพลังและความแข็งแกร่งให้กับเรา ทั้งยังช่วยเพิ่มความเร็วในการสับขาวิ่ง และส่งเสริมฟอร์มการวิ่งอีกด้วย

การวิ่ง Strides

การฝึกนี้จะช่วยปรับสภาพระบบประสาทและกล้ามเนื้อให้สามารถรับมือกับการวิ่งเร็ว โดยปกติแล้วจะเป็นการซ้อมวิ่งเร็ว 50-150 เมตร หรือวิ่งโดยใช้ความเร็วเกือบสูงสุดของเรา หรือมีการเร่งความเร็วสุงสุดในช่วงสุดท้ายของเส้นทาง

Cross Training

เป็นการฝึกกีฬาอื่นที่ไม่ใช่การวิ่ง และต้องเป็นการออกกำลังกายที่ไม่มีแรงกระแทกมาก เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน การใช้โฟมโรลลิ่ง การเล่นโยคะ รวมไปถึงการฝึก Strength Training มันจะช่วยให้เราได้ออกกำลังกายโดยไม่ต้องพบกับแรงกระแทก ช่วยให้เราได้มีการฝึกกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆและลดโอกาสในการได้รับบาดเจ็บ

วันพัก

การฝึกวิ่งจะทำให้เกิดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ ในวันพักเราก็ควรที่จะพักแบบไม่ต้องทำอะไรเลย เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาฟื้นฟูและพัฒนากล้ามเนื้อได้ทันนั่นเอง

การฝึก Strength Training

การลงแข่งวิ่ง 10K จำเป็นต้องใช้ความทรหดของร่างกาย รวมไปถึงข้อต่อ กระดูก และอื่นๆ ซึ่งการฝึก Strength Training นี่แหละที่จะช่วยเราได้

โปรแกรมการฝึกวิ่ง 10K โดยทำเวลาในการวิ่งให้ได้ภายใน 55 นาที

วิธีทำเวลาวิ่งระยะทาง 10K ให้ได้ภายในเวลา 55 นาที

เป็นโปรแกรมการฝึก 6 สัปดาห์จะช่วยให้เราสามารถทำเวลาได้ใน 55 นาที อย่าลืมส่งเสริมร่างกายด้วยการหาเวลามาฝึก Strength Training ให้ได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

  • ระยะทาง 1 ไมล์เท่ากับ 1 กิโลเมตร ในแผนการฝึกนี้เราจะแปลงหน่อยเป็นกิโลเมตรมาให้แล้ว
  • ส่วนความเร็วในการวิ่งทำเวลาที่เขียนตัวเลขคล้ายๆแบบนี้ เช่น 8:42 ก็จะหมายถึง 8 นาที 42 วินาที

สัปดาห์ที่ 1

  • วันจันทร์ : พัก หรือฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันอังคาร :  เริ่มด้วยการวิ่งวอร์มอัพ 1.6 กม. ต่อจากนั้นจะตามด้วยการฝึกสองแบบ
    แบบที่ 1 : วิ่ง 800เมตร 4 รอบ ทำเวลาให้ได้รอบละ 4 นาที 26 วินาที ในแต่ละรอบให้พักฟื้นตัวด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 200 เมตร
    แบบที่ 2 : เป็นการวิ่ง 400 เมตร จำนวน 8 ถึง 10 รอบ โดยต้องทำเวลาให้ได้รอบละ 2นาที 13 วินาที ในแต่ละรอบให้พักฟื้นตัวด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 200 เมตร
    ปิดท้ายด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 1.6 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง Easy 4.82 กม.
  • วันพฤหัส : พัก
  • วันศุกร์ : วอร์มอัพ 3.2 กม. จากนั้นให้วิ่ง 100 เมตร 10 รอบ หรือไปฝึกวิ่งขึ้นเนิน 30-45 นาที ปิดท้ายด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 1.6 รอบ
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 4.82-6.43 กม.
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 8 กม.

สัปดาห์ที่ 2

  • วันจันทร์ : พัก หรือฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันอังคาร :  เริ่มด้วยการวิ่งวอร์มอัพ 1.6 กม. ต่อจากนั้นจะตามด้วยการฝึกสองแบบ
    แบบที่ 1 : วิ่ง 1000เมตร 8-10 รอบ ทำเวลาให้ได้รอบละ 5 นาที 28 วินาทีถึง 5 นาที 30 วินาที ในแต่ละรอบให้พักฟื้นตัวด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 200 เมตร
    แบบที่ 2 : เป็นการวิ่ง 400 เมตร จำนวน 8 ถึง 10 รอบ โดยต้องทำเวลาให้ได้รอบละ 2นาที 13 วินาที ในแต่ละรอบให้พักฟื้นตัวด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 200 เมตร
    ปิดท้ายด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 1.6 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง Easy 6.4 กม.
  • วันพฤหัส : พัก
  • วันศุกร์ : วอร์มอัพ 1.6 กม. จากนั้นจะมีการฝึกอีก 2 แบบ
    แบบที่1 ให้วิ่ง 15 นาที 2 รอบ โดยใช้ความเร็ว  9:07-9:12 นาที ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที
    แบบที่ 2 ให้วิ่งเร็ว 30 วินาที 4 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 30 วินาที
    ปิดท้ายด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 1.6 รอบ
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 4.82-6.43 กม.
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 9.65 กม.

สัปดาห์ที่ 3

  • วันจันทร์ : พัก หรือฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันอังคาร :  เริ่มด้วยการวิ่งวอร์มอัพ 1.6 กม. ต่อจากนั้น วิ่ง 1.6 กม. 6 รอบ โดยใช้ความเร็ว 8:45-8:52  แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 200 เมตร ปิดท้ายด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 1.6 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง Easy 4.82-6.43 กม.
  • วันพฤหัส : พัก
  • วันศุกร์ : วอร์มอัพ 1.6 กม. จากนั้นจะมีการฝึกอีก 2 แบบ
    แบบที่1 ให้วิ่ง 20 นาที 2 รอบ โดยใช้ความเร็ว  9:07-9:12นาที หรือใช้ความเร็ว 5:35 ต่อ 1 กม.  ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที
    แบบที่ 2 ให้วิ่งเร็ว 30 วินาที 4 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก ด้วยการจ๊อกกิ้ง 30 วินาที
    ปิดท้ายด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 1.6 รอบ
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 4.82-6.43 กม.
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 11.26 กม.

สัปดาห์ที่ 4

  • วันจันทร์ : พัก หรือฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันอังคาร :  วิ่งวอร์มอัพ 1.6 กม. จากนั้นจะให้ฝึกวิ่งอีก 3 แบบ
    แบบที่ 1 วิ่ง 3.2 กม. 2 รอบ โดยใช้ความเร็ว 17:34 – 17:40 แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 200 เมตร
    แบบที่ 2 : วิ่ง 1.6 กม. โดยใช้ความเร็ว 8:44-8:49 นาที
    แบบที่ 3 : วิ่ง 400 เมตร 4 รอบ โดยใช้ความเร็ว 2:08-2:12 แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 90 วินาที
    ปิดท้ายด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 1.6 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง Easy 6.43-8 กม.
  • วันพฤหัส : พัก
  • วันศุกร์ : วิ่ง 100-200 เมตร เป็นจำนวน 10-12 รอบ หรือฝึกวิ่งขึ้นเนิน 30-45 วินาที
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 6.43-8 กม. และฝึกวิ่ง Stride 50-75 เมตร จำนวน 4 รอบ
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 12.87 กม.

สัปดาห์ที่ 5

  • วันจันทร์ : พัก หรือฝึก Cross Training 45-60 นาที
  • วันอังคาร :  วิ่งวอร์มอัพ 1.6 กม. จากนั้นจะให้ฝึกวิ่งอีก 2 แบบ
    แบบที่ 1 วิ่ง 3.2 กม. 1 รอบ โดยใช้ความเร็ว 17:30 – 17:40 แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 200 เมตร
    แบบที่ 2 : วิ่ง 1000 เมตร อีก 5 รอบ โดยใช้ความเร็ว 5:20-5:25 นาที แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 60 วินาที
    ปิดท้ายด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 1.6 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง Easy 8-9.65 กม.
  • วันพฤหัส : พัก
  • วันศุกร์ : วอร์มอัพ 1.6 กม. จากนั้นให้วิ่ง Threshold 40 นาที ใช้เพซ 9:05-9:10 นาที หรือ 5:35 นาทีต่อ 1 กิโลเมตร
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 6.43-8 กม. และฝึกวิ่ง Stride 50-75 เมตร จำนวน 4 รอบ
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 9.65 กม.

สัปดาห์ที่ 6

  • วันจันทร์ : พัก หรือฝึก Cross Training 45 นาที
  • วันอังคาร :  วิ่งวอร์มอัพ 1.6 กม. จากนั้นจะให้ฝึกวิ่งอีก 2 แบบ
    แบบที่ 1 วิ่ง 1000 เมตร 10 รอบ โดยใช้ความเร็ว 5:27 – 5:30 แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 200 เมตร
    แบบที่ 2 : วิ่ง 200 เมตร อีก 4 รอบ วิ่งด้วยความเร็วสำหรับการฟื้นตัว
    ปิดท้ายด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 1.6 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง Easy 6.43-8 กม.
  • วันพฤหัส : พัก
  • วันศุกร์ : วิ่งจ๊อกกิ้งง่ายๆ 20 นาที
  • วันเสาร์ : วันลงแข่งจริงขอให้ทุกคนโชคดี
  • วันอาทิตย์ : พักหรือทำกิจกรรมฟื้นตัว ฝึกอะไรก็ได้เบาๆไม่มีแรงกระแทก

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3Xfyqjn


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

Related

Tags: 10krunningRunning GuideRunning PlanRunning ProgramRunning Training Planการวิ่งตารางซ้อมวิ่งตารางฝึกวิ่งวิ่งแผนซ้อมวิ่งแผนฝึกวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งโปรแกรมฝึกวิ่ง
Previous Post

น้ำตาลทำให้เราเสพติดได้หรือไม่

Next Post

ทำไมการออกกำลังกายทำให้เรามีความสุข

Thip

Thip

Related Posts

โปรแกรมการฝึกวิ่งมาราธอน 22 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่

โปรแกรมการฝึกวิ่งมาราธอน 22 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่

21/03/2023
เปลี่ยนการจัดตำแหน่งข้อความ Displays more block tools 6 เหตุผลที่นักวิ่งควรจะมีการฝึก Cross Training

6 เหตุผลที่นักวิ่งควรจะมีการฝึก Cross Training

20/03/2023
10 ท่าฝึก Strength Training ที่จะช่วยส่งเสริมสมรรถนะในการวิ่ง

10 ท่าฝึก Strength Training ที่จะช่วยส่งเสริมสมรรถนะในการวิ่ง

19/03/2023
คู่มือการฝึก Cross Training สำหรับนักวิ่ง

คู่มือการฝึก Cross Training สำหรับนักวิ่ง

18/03/2023
โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนสำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์แล้ว

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนสำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์แล้ว

17/03/2023
วิธีฝึก ท่า Crunch และการฝึกในเวอร์ชันต่างๆ

วิธีฝึก ท่า Crunch และการฝึกในเวอร์ชันต่างๆ

16/03/2023
Next Post
ทำไมการออกกำลังกายทำให้เรามีความสุข

ทำไมการออกกำลังกายทำให้เรามีความสุข

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 12.4k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

อาดิดาส เปิดตัวคอลเลคชันพิเศษ “adidas X JAMES BOND”

อาดิดาส เปิดตัวคอลเลคชันพิเศษ “adidas X JAMES BOND” ต้อนรับภาพยนตร์ภาคใหม่ “NO TIME TO DIE”

by VRUN VRIDE
16/09/2021

โปรแกรมการฝึกปั่นจักรยาน 100 ไมล์ (160 กม.) ภายใน 8 สัปดาห์

โปรแกรมการฝึกปั่นจักรยาน 100 ไมล์ (160 กม.) ภายใน 8 สัปดาห์

by Thip
12/09/2020

Nike ZoomX Vaporfly Next% 2 “Fast Family”

Nike ZoomX Vaporfly Next% 2 “Fast Family”

by VRUN VRIDE
03/10/2021

อาดิดาส (ประเทศไทย) จัดกิจกรรม Run for the Oceans

อาดิดาส (ประเทศไทย) จัดกิจกรรม Run for the Oceans “ล้อมวงสะกิดทะเลไทยในยุคโควิด” สานต่อการปกป้องมหาสมุทรจากขยะพลาสติกกับเหล่านักอนุรักษ์ผ่านเสวนาออนไลน์

by VRUN VRIDE
31/05/2021

แคสเตอร์ เซเมนยา นักวิ่งสาว ผู้เอาชนะคำครหาในเรื่องความผิดปกติของร่างกาย

แคสเตอร์ เซเมนยา นักวิ่งสาว ผู้เอาชนะคำครหาในเรื่องความผิดปกติของร่างกาย

by VRUN VRIDE
16/04/2019

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercises Fun Run Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan Smart watch SmartWatch workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง จักรยาน ตารางซ้อมวิ่ง ท่าออกกำลังกาย นักปั่น นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง ลดน้ำหนัก วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โภชนาการ ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (171)
  • Fitness & Health (346)
  • News (739)
  • Review (126)
  • Running (830)
  • Stories (201)
  • Training (336)
  • Triathlon (109)
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...