วันจันทร์, มิถุนายน 16, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

วิธีเพิ่มความทรหดและความทนทานในการวิ่ง

thip by thip
27/06/2021
in Running
0
วิธีเพิ่มความทรหดและความทนทานในการวิ่ง
  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

วิธีเพิ่มความทรหดและความทนทานในการวิ่ง

ในอนาคตเพื่อนๆ อาจจะรู้สึกว่าระยะทางที่ตัวเองเคยวิ่งอยู่มันง่าย นั่นหมายความว่าเรามีความทรหดในการวิ่งเพิ่มขึ้นแล้ว เราไม่ได้บอกว่าการวิ่งมาราธอนมันง่ายนะ แต่เราจะรู้สึกว่าการวิ่งครั้งก่อนมันง่ายกว่าเดิมจริงๆ การเพิ่มความทรหดในการวิ่งเกิดขึ้นจากการฝึกอย่างต่อเนื่อง มีการฝึกหลายวันต่อสัปดาห์และฝึกต่อเนื่องหลายสัปดาห์ มันไม่มีทางลัดสำหรับการฝึกเพื่อเพิ่มความทรหด ยังไงก็ต้องใช้เวลา 10 วัน ถึง 4 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะได้ เราจะต้องฝึกนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับประเภทของการวิ่ง และจะมีการเร่งความเร็วในช่วงระยะทางช่วงท้ายด้วย

ก่อนที่จะเริ่มมีการฝึกวิ่งเพื่อเพิ่มความทรหดก็ควรจะฝึกพื้นฐานให้ดีก่อน ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเป็นนักวิ่งที่กำลังจะลองวิ่ง 5k เป็นครั้งแรก หรือเป็นนักวิ่งที่มีประสบการณ์ซึ่งกำลังหาทางเพิ่มความทรหดเอาไว้วิ่งมาราธอนและเพื่อเพิ่มความเก่ง ยังไงก็ต้องระวังไว้ว่าอย่าฝึกซ้อมมากเกินไปโดยไม่รอให้ร่างกายปรับตัวเสียก่อน เพราะมีแต่จะทำให้ได้รับบาดเจ็บได้

7 เคล็ดลับในการสร้างความทรหดสำหรับการวิ่ง

1. ฝึกอย่างต่อเนื่อง

เพื่อที่จะเพิ่มความทรหดให้สามารถวิ่งได้ไกลมากขึ้น เราจะต้องมีการฝึกวิ่งอย่างต่อเนื่อง มันจะช่วยสร้างพื้นฐานทางด้านแอโรบิค , ช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้ออกซิเจนหรือแอโรบิค (Aerobic capacity) และเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เมื่อเราเริ่มต้นเพิ่มการฝึกวิ่งในทุกสัปดาห์ควรเริ่มอย่างง่ายๆ และค่อยเป็นค่อยไป ให้ตั้งเป้าฝึกวิ่ง 3-4 วันต่อสัปดาห์โดยใช้เวลา 30 นาทีหรือมากกว่านั้น และต้องมี 1 วันที่จะเป็นวันวิ่งระยะไกล

วิธีเพิ่มความทรหดและความทนทานในการวิ่ง

2. การฝึกวิ่งระยะไกล

เพื่อที่จะวิ่งได้ไกลกว่าเดิม ให้เลือกเอาระหว่างการเพิ่มระยะเวลาในการวิ่งระยะไกลครั้งละ 5-10 นาที หรือไม่ก็ให้เพิ่มระยะทาง 0.8-1.6 กม. (0.5-1 ไมล์) มันอาจจะดูน้อยแต่เมื่อเวลาผ่านไปมันจะรวมกันได้เยอะเอง เมื่อเราต้องซ้อมวิ่งด้วยระยะทางที่มากขึ้น เช่น การซ้อมวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ระยะทางในการซ้อมวิ่งระยะไกลควรเป็น 30-50% ของระยะทางการวิ่งทั้งหมดในสัปดาห์ ให้เราวิ่งช้าและใช้เพซคงที่ มีคนจำนวนมากที่พยายามวิ่งเร็วแล้วก็ลงเอยด้วยการต้องลากสังขารไปจนถึงเส้นชัย ดังนั้นจึงควรวิ่งช้าและเน้นจำนวนระยะทาง จำไว้ว่า “ฝึกจนเพิ่มความทรหดให้ได้เสียก่อน ส่วนเรื่องความเร็วเอาไว้ทีหลัง”

3. การวิ่งเทมโป

โดยปกติแล้วเป็นการวิ่งในระยะทางที่สั้นลงแต่จะใช้เพซเร็วกว่าปกติ การฝึกวิ่งเทมโปจะช่วยฝึกร่างกายในการสลายกรดแลคติกในกระแสเลือดให้เร็วขึ้น ทำให้เราวิ่งได้ไกลขึ้นก่อนที่จะเริ่มมีอาการเมื่อยล้า และเริ่มมีจำนวนกรดแลคติกเพิ่มขึ้นจนทำให้เราวิ่งช้าลง แถมยังทำให้เราวิ่งโดยใช้เพซ Easy ได้สบายขึ้น การฝึกนี้เป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มความเร็ว การฝึกวิ่งเทมโปควรฝึกในระดับความเข้มข้น “ที่เป็นความยากในระดับล่างๆ” และควรฝึก 20-40 นาที และ 60 นาทีสำหรับคนที่เก่งแล้ว และไม่ควรวิ่งเต็มเหนี่ยวจนเหนื่อยหอบ ให้วิ่งด้วยเพซที่ท้าทายและสามารถรักษาความเร็วไว้ได้นาน

4. ทานอาหารเพื่อเพิ่มความทรหด

นักวิ่งควรได้รับคาร์โบไฮเดรต 55-65% จากแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวัน ไม่จำเป็นต้องกินเยอะมากก็ได้ แค่จำไว้ว่ามันสำคัญกับการฝึกวิ่งก็พอ ก่อนวิ่งเราควรทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เพื่อมั่นใจว่าเราจะมีพลังงานสำหรับการวิ่งตลอดทาง หากพบว่าตัวเองเหนื่อย , อารมณ์ไม่ดีหรือไม่สามารถวิ่งตามที่วางแผนไว้ ก็ควรทานคาร์โบไฮเดรตให้มากขึ้น ควรเลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (Complex carbohydrate) เช่น ธัญพืช , ข้าวกล้องและข้าวโอ๊ต แทนที่จะทานคาร์บโฮเดรตขัดสีและน้ำตาล ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

5. การพักฟื้นร่างกาย

ยิ่งวิ่งมากก็ต้องยิ่งต้องมีการพักฟื้นร่างกาย การฟื้นตัวที่ดีจะต้องมีการทานอาหารที่ดี , มีการยืดกล้ามเนื้อ และได้รับการนอนหลับอย่างเพียงพอ ให้ตั้งเป้าว่าเราจะได้รับอาหารที่มีคุณภาพหรือได้กินของทานเล่นที่มีทั้งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตภายในช่วงเวลา 30 นาทีหลังจากการวิ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารเพื่อใช้ในการฟื้นตัว หากทำได้อย่างนี้ก็จะช่วยให้เราฟื้นร่างกายได้ทันและรู้สึกว่าวิ่งได้ดีขึ้น

6. ปรับปรุงการวิ่งประหยัดพลังงาน (Running Economy)

การปรับปรุงเทคนิคการวิ่งจะทำให้เรามีประสิทธิภาพในการวิ่งมากขึ้น เราจะวิ่งได้ไกลขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยแถมยังใช้พลังงานน้อยลง เทคนิคที่ดีนั้นมาจากการวิ่งตัวตรง เอาเท้าแตะพื้นให้ตรงกับจุดศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง และสับขาให้ได้ถึง 170-180 ครั้งต่อนาที การลดน้ำหนักยังทำให้เราวิ่งได้ดีขึ้นอีกด้วย

7. ที่เหลือเป็นเรื่องของใจ ต้องหาทางหลอกล่อตัวเองบ้าง

การต้องวิ่งไกลขึ้นนั้นอาจทำให้เรากลัว จึงต้องมีการเตรียมใจก่อนที่จะถึงวันวิ่งระยะไกล เราอาจจะใช้วิ่งแบ่งการวิ่งเป็นช่วงละ 1 ไมล์ (1.6 กม.) หรือแบ่งระยะทางออกเป็นสองช่วง หรือวิ่งทีเดียวจบโดยวิ่งให้ไกลขึ้นเล็กน้อย หรือมีการลดความเร็วในช่วงสุดท้าย เช่น 10 กม. แรกวิ่งตามปกติ และอีก 3 กม. ที่เหลือให้ลดความเร็ว เป็นต้น

ที่มา : https://bit.ly/3z3Ez6W


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: runningRunning Tipsวิ่งเคล็ดลับการวิ่ง
Previous Post

แมกนีเซียม มีความสำคัญต่อนักกีฬาอย่างไร

Next Post

10 อันดับ จักรยานยอดนิยม ปี 2021 (อัปเดตล่าสุด มิถุนายน)

thip

thip

Related Posts

เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

5 เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

14/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง นักวิ่ง

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง สำหรับนักวิ่ง

04/06/2025
5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

22/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

19/05/2025
ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

5 ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

16/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ในระยะเวลา 10 สัปดาห์

13/05/2025
Next Post
10 อันดับ จักรยานยอดนิยม ปี 2021 (อัปเดตล่าสุด มิถุนายน)

10 อันดับ จักรยานยอดนิยม ปี 2021 (อัปเดตล่าสุด มิถุนายน)

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 33.7k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

ASICS เอซิคส์เปิดทุกสัมผัสการวิ่งไปกับ.. GEL KAYANO 25

ASICS ชวนเหล่าไอคอนนักวิ่ง สัมผัส GEL KAYANO 25 ในธีม THE BLACK OUT TRACK

by VRUN VRIDE
02/09/2018

โปรแกรมการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 14 สัปดาห์

โปรแกรมการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 14 สัปดาห์

by thip
20/09/2019

goodr sunglasses  แว่นตากันแดดสัญชาติอเมริกันที่มาพร้อมสีสันสุดสนุก สำหรับนักวิ่งทุกสายพันธุ์

goodr sunglasses  แว่นตากันแดดสัญชาติอเมริกันที่มาพร้อมสีสันสุดสนุก สำหรับนักวิ่งทุกสายพันธุ์

by VRUN VRIDE
02/12/2022

โปรแกรมการซ้อมวิ่ง 10k เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์

โปรแกรมการซ้อมวิ่ง 10k เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์

by thip
23/03/2021

Nike Air Zoom Structure 23

Nike Air Zoom Structure 23 รองเท้าเทรนนิ่ง ดีไซน์แปลกใหม่ สดใสรับซัมเมอร์

by thip
08/04/2021

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (370)
  • News (874)
  • Review (126)
  • Running (941)
  • Stories (201)
  • Training (462)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี