หากพูดถึงการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง หรือ วิธีเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง หลายคนมักจะกล่าวถึงคุณสมบัติและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของรองเท้าเสียมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก นั่นคือเรื่อง “ขนาดของรองเท้าวิ่ง”
การที่รองเท้าวิ่งมีความยาว ความกว้าง และมีรูปร่างเข้ากับรูปเท้าของนักวิ่งแต่ละคนนั้น มีความสำคัญพอๆ กับคุณสมบัติในการลดแรงกระแทกใต้ฝ่าเท้าเลยทีเดียว
ใส่รองเท้าวิ่งผิดไซส์ จะเกิดผลเสียอย่างไรบ้าง
การใส่รองเท้าวิ่งผิดขนาดหรือไม่พอดีกับเท้านั้น โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่ สวมรองเท้าวิ่งสั้นเกินไป หรือ สวมรองเท้าวิ่งยาวเกินไป ทั้งสองแบบนี้จะมีผลเสียต่อนักวิ่งที่แตกต่างกัน ดังนี้
สวมรองเท้าวิ่งสั้นเกินไป
หากนักวิ่งสวมรองเท้าที่มีขนาดสั้นเกินไป (คับ) ขณะวิ่งจะทำให้นิ้วเท้าเคลื่อนไหวไปชนกับขอบด้านในของปลายรองเท้าได้ ซึ่งผลที่ตามมาคือ “เล็บดำ” หรือยิ่งไปกว่านั้นคือเล็บหลุด
แรงกระแทกที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เป็นระยะเวลานาน สามารถทำลายเอ็นนิ้วเท้าและกระดูกฝ่าเท้า จนทำให้เกิดภาวะนิ้วหงิกงอผิดปกติ (hammer toes) หรืออาจทำให้กระดูกฝ่าเท้าแตกหักได้
ขณะวิ่งนิ้วเท้าจะถูกบีบเข้าหากันแน่นเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อเท้าอยู่ในรูปแบบที่ไม่ถูกต้องตามสรีระของเท้าตามธรรมชาติ ผลคืออาการเมื่อยล้าที่เท้า และมีอาการปวดที่บริเวณส่วนโค้งหรือปวดบริเวณนิ้วโป้งเท้าได้
นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าของข้อเท้า จะมีเส้นประสาท เส้นเอ็น และหลอดเลือด รวมตัวกันอยู่หลายมัด การใส่รองเท้าที่รัดแน่นเกินไปจะไปกดทับเส้นประสาทเหล่านี้ได้ ทำให้เกิดอาการปวด ชา หรือรู้สึกเสียวแปล๊บตรงจุดด้านบนของเท้าได้

สวมรองเท้าวิ่งยาวเกินไป
หากนักวิ่งสวมรองเท้าวิ่งที่มีขนาดยาวเกินไป (หลวม) ในขณะวิ่งเท้าจะขยับไปมาอยู่ตลอด และไม่ถูกล็อกเข้ากับกระดูกข้อเท้า จะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างรองเท้ากับผิวหนัง จนเกิดแผลพุพองได้ และเมื่อนิ้วเท้าเลื่อนไปชนขอบรองเท้าด้านหน้า เกิดการกระแทกซ้ำๆ ก็จะทำให้เกิดอาการช้ำที่บริเวณนิ้วเท้าและเล็บเท้าได้
สรุปได้ว่า การสวมรองเท้าวิ่งที่มีขนาดไม่พอดีกับเท้า เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บในนักวิ่งที่พบได้บ่อยหลายอย่างเลยทีเดียว
แต่เนื่องจากรองเท้าวิ่งที่วางขายในปัจจุบัน มีหลายประเภท หลายแบรนด์และหลายรุ่น รองเท้าวิ่งแต่ละคู่จึงมีรายละเอียดที่แตกต่างกันหลายอย่างมาก ปัญหาคือ “เราจะรู้ได้อย่างไร ว่ารองเท้าวิ่งคู่ไหน มีขนาดพอดีกับเท้าของเรามากที่สุด”
ต่อไปนี้เป็น “วิธีทดสอบขนาดรองเท้าวิ่ง” เพื่อดูว่าพอดีกับเท้าของเราหรือไม่
วิธีทดสอบขนาดรองเท้าวิ่ง

ขั้นตอนที่ 1 เทียบกับแผ่นรองเท้า
ถอดแผ่นรองรองเท้าด้านใน (insole) นำออกมาวางนอกรองเท้า จากนั้นยืนเอาเท้าวางทาบลงไปบนแผ่นรองรองเท้า ขนาดและรูปร่างของแผ่นรองรองเท้า ควรตรงกับขนาดและรูปร่างเท้าของนักวิ่ง โดยที่นิ้วเท้าหรือเท้าทั้งหมดไม่เกินไปทางด้านหน้าหรือด้านข้าง
ขั้นตอนที่ 2 ทดสอบความแน่นของเชือก
ใส่แผ่นรองรองเท้ากลับเข้าไปในรองเท้า จากนั้นสวมรองเท้าและผูกเชือกให้แน่นพอที่จะล็อกเท้าไว้กับกระดูกข้อเท้าได้อย่างพอดี แต่ไม่แน่นจนบีบรัดเส้นประสาท อธิบายง่ายๆ คือดึงเชือกจนรองเท้าแตะชนกับผิวหนังส่วนบนสุดที่เป็นส่วนโค้งหลังเท้า โดยที่ยังสามารถสอดนิ้วระหว่างปมเชือกกับตัวรองเท้าได้อยู่
ขั้นตอนที่ 3 เช็กความพอดีของนิ้วเท้า
ยืนขึ้นและตรวจสอบความพอดีโดยวัดจากความรู้สึก อันดับแรกตรวจสอบความยาว ระหว่างนิ้วเท้าที่ยาวที่สุดกับด้านหน้ารองเท้า พอดีหรือไม่ อันดับสองตรวจสอบความกว้าง ต้องไม่มีแรงกดทับบริเวณนิ้วก้อยและนิ้วโป้ง วัดความรู้สึกคล้ายๆ กับระดับความหลวมเวลาที่เราสวมใส่นาฬิกาข้อมือ

ขั้นตอนที่ 4 ลองเดินและวิ่ง
ลองเดินและวิ่ง ตรวจสอบว่าส้นเท้าไม่ลื่น ไม่มีแรงบีบรัดหรือเสียดสีกับข้อเท้า และควรตรวจสอบความยืดหยุ่นของเนื้อผ้าอัปเปอร์ของรองเท้าขณะสวมใส่ใช้งานด้วย
นอกจากนี้ ควรพิจารณาเรื่องการสวมใส่ถุงเท้า ความหนาบางของถุงเท้า และการขยายของเท้าระหว่างและหลังออกกำลังกาย อันเนื่องมาจากการบวมและการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นด้วย
บทสรุป
การสวมใส่รองเท้าวิ่งที่มีขนาดพอดีกับเท้า ไม่เพียงแค่ทำให้นักวิ่งรู้สึกสบายเท่านั้น แต่มีผลการวิจัยบางชิ้นระบุว่า รองเท้าวิ่งที่พอดีกับเท้าของนักวิ่ง สามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่งได้เป็นอย่างดี อย่าลืมนำ วิธีเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง และ วิธีทดสอบขนาดรองเท้าวิ่ง ที่แนะนำไว้ไปลองใช้กันดูนะ
แหล่งที่มา : https://bit.ly/3zbxQue
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming