วันพุธ, ตุลาคม 15, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Fitness & Health

รวบรวมทุกเรื่องที่ควรรู้ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

thip by thip
06/09/2019
in Fitness & Health
0
รวบรวมทุกเรื่องที่ควรรู้ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

การลดน้ำหนักนั้นเป็นเรื่องปกติของใครหลายคน และเพื่อที่จะทำให้เพื่อนๆมีความรู้สึกคาดหวังที่สมเหตุสมผลตรงกับความเป็นจริง เราก็ควรที่จะรู้ว่าความเร็วในการลดน้ำหนัก “ในระดับที่ดีต่อสุขภาพ” นั้นคืออะไร และในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของปัจจัยที่จะส่งผลต่อระยะเวลาในการลดน้ำหนัก ตามไปอ่านกันเลยค่ะ

กระบวนการลดน้ำหนักเกิดขึ้นได้อย่างไร

การลดน้ำหนัก จะเกิดขึ้นเมื่อเราได้รับแคลอรี่น้อยกว่าปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายเผาผลาญได้ในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง คือติดต่อกันเป็นระยะเวลานานนั่นเอง ไม่ใช่แค่เพียงวันสองวันส่วนการเพิ่มน้ำหนักก็คือ การที่เราได้รับแคลอรี่มากกว่าที่ร่างกายเผาผลาญได้ในแต่ละวัน อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานนั่นเอง

การทานอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีแคลอรี่ จะถือว่าเป็นการรับแคลอรี่ในแต่ละวัน

ส่วนปริมาณการเผาผลาญแคลอรี่ของร่างกายในแต่ละวัน หรือที่ศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Calorie expenditure นั้นจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่า เพราะมีปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องถึง 3 ปัจจัยดังนี้

  1. Resting metabolic rate (RMR) – อัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายขณะพักผ่อน ร่างกายเราจะเอาพลังงานจากแคลอรี่ไปใช้ในการควบคุมระบบต่างๆ เช่น การหายใจและการสูบฉีดโลหิต เป็นต้น
  2. Thermic effect of food (TEF) – คือการที่ร่างกายต้องใช้แคลอรี่ในการย่อย , ดูดซึม และเผาผลาญอาหาร สรุปว่าจะมีแคลอรี่ที่ถูกดึงไปใช้ในกระบวนการนี้นั่นเอง
  3. Thermic effect of activity (TEA) – คือปริมาณการเผาผลาญแคลอรี่ในขณะที่เราออกกำลังกาย รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆที่ไม่ถูกเรียกว่าการออกกำลังกาย เช่น การทำงานบ้าน ไปจนถึงการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เช่น การเคาะนิ้วเล่นแก้เซ็ง

ถ้าหากว่าเรารับแคลอรี่เท่ากันกับปริมาณที่ร่างกายเผาผลาญได้ในแต่ละวัน เราก็จะสามารถรักษาน้ำหนักให้คงที่ได้

แต่ถ้าต้องการลดน้ำหนักเราก็ต้องสร้างการขาดดุลของแคลอรี่ขึ้นมาคือ ได้รับแคลอรี่น้อยกว่าที่ร่างกายจะสามารถเผาผลาญได้ หรือหาทางเพิ่มอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ด้วยการออกกำลังกายนั่นเอง

ปัจจัยส่งผลต่อการลดน้ำหนัก

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราความเร็วในการลดน้ำหนัก และมีอยู่หลายปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้

1.เพศ

อัตราส่วนระหว่างไขมัน-กล้ามเนื้อจะส่งผลต่อความสามารถในการลดน้ำหนักอย่างมาก

เพราะว่าผู้หญิงมีอัตราส่วนไขมัน-กล้ามเนื้อ ที่สูงกว่าผู้ชาย จึงทำให้มีอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายขณะพักผ่อนที่น้อยกว่าถึง 5-10% เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีส่วนสูงเท่ากัน

หมายความว่าในช่วงเวลาพักผ่อนผู้หญิงจะเผาผลาญพลังงานได้น้อบกว่าผู้ชาย 5-10%  ทำให้ผู้ชายลดน้ำหนักได้เร็วกว่าผู้หญิงถ้าหากว่าใช้แผนไดเอทเดียวกัน

ยกตัวอย่างเช่น เคยมีการวิจัยกับอาสาสมัคร 2000 คน โดยให้ได้รับแคลอรี่วันละ 800 แคล พบว่าผู้ชายลดน้ำหนักได้เร็วกว่าผู้หญิง 16%

แต่ถึงแม้ว่าผู้ชายจะลดน้ำหนักได้เร็วกว่า แต่การวิจัยก็ไม่พบว่าปัจจัยเรื่องเพศจะส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักแต่อย่างใด

2.อายุ

สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเรามีอายุมากขึ้นก็คือ การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของร่างกาย เมื่อมวลไขมันเพิ่มขึ้นก็จะทำให้มวลกล้ามเนื้อลดจำนวนลง นอกจากนี้อวัยวะภายในยังมีความต้องการใช้แคลอรี่ที่ลดลงอีกด้วย มันก็เลยทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายขณะพักผ่อนลดลง

ซึ่งผู้ใหญ่อายุ 70 ขึ้นไป จะมีอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายขณะพักผ่อนที่ลดลงไปได้ถึง 20-25% เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ที่มีอายุน้อยกว่า ทำให้ผู้สูงอายุลดน้ำหนักได้ยากมากขึ้น

3.น้ำหนักของเราในตอนที่เริ่มการลดน้ำหนัก

น้ำหนักของเรานี่แหละที่จะส่งผลต่อความเร็วในการลดน้ำหนัก

ปริมาณน้ำหนักที่เราลดได้โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกนั้น จะเป็นน้ำหนักที่มาจากสัดส่วนของน้ำหนักในร่างกายเรา ดังนั้นคนที่มีน้ำหนักมากกว่าจะสามารถลดน้ำหนักได้ไวกว่าคนที่มีน้ำหนักน้อยกว่า ทั้งๆที่มีอัตราความเร็วในการลดน้ำหนักที่เท่ากัน

ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีน้ำหนัก 136 กก. อาจจะลดน้ำหนัดได้ 4.5 กก. หลังจากที่มีการตัดแคลอรี่วันละ 500 แคลอรี่เป็นเวลา 2 สัปดาห์

ในทางตรงกันข้าม หากคนอีกคนหนึ่งที่มีเพศเดียวกันและมีอายุเท่ากัน แต่ว่ามีน้ำหนักเพียง 68 กก. เขาก็อาจจะลดน้ำหนักได้ 2.3 กก. โดยใช้เวลาสองสัปดาห์เท่ากัน

ถึงแม้ว่าคนที่มีน้ำหนักมากกว่าจะลดน้ำหนักได้มากกว่าเป็นสองเท่า แต่เมื่อเทียบกันเป็นอัตราส่วนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ มันก็ถือว่าทั้งสองคนลดน้ำหนักได้มากพอกัน

รวบรวมทุกเรื่องที่ควรรู้ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

4.การขาดดุลของแคลอรี่

เราจะต้องมีการลดแคลอรี่เพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งมันจะเป็นตัวกำหนดความเร็วในการลดน้ำหนักของเรา

ยกตัวอย่างเช่น การได้รับแคลอรี่น้อยลงวันละ 500 แคล เป็นเวลา 8 สัปดาห์ก็จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้มากกว่าได้รับแคลอรี่น้อยลงวันละ 200 แคล

อย่างไรก็ตามเราไม่ควรลดแคลอรี่มากเกินไป เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร และจะทำให้เราลดน้ำหนักได้เพราะการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ แทนที่จะสูญเสียมวลไขมัน

5.การนอนหลับ

คุณภาพการนอนหลับเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามทั้งที่เป็นปัจจัยสำคัญในการลดน้ำหนัก การอดนอนสามารถขัดขวางการลดน้ำหนัก และลดความเร็วในการลดน้ำหนักได้จนเห็นได้ชัด

การวิจัยพบว่าการนอนไม่พอเพียงแค่คืนเดียว สามารถทำให้เราอยากได้รับแคลอรี่มากขึ้น , มีความรู้สึกอยากทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น คุ้กกี้ , เค้ก , เครื่องดื่มมีน้ำตาล และแผ่นมันฝรั่ง

มีการวิจัยเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยแบ่งอาสาสมัครเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกนอนคืนละ 5.5 ชั่วโมง กลุ่มที่สองนอนคืนละ 8.5 ชั่วโมง โดยทั้งสองกลุ่มมีการลดน้ำหนักด้วยการคุมแคลอรี่

พบว่ากลุ่มแรกลดมวลไขมันได้น้อยกว่ากลุ่มที่สองถึง 55% และมีปริมาณกล้ามเนื้อลีนมากกว่ากลุ่มที่สองถึง 60%

นอกจากนี้การอดนอนยังมีความเชื่อมโยงกับโรคเบาหวานประเภทที่สอง , โรคอ้วน , โรคหัวใจ และมะเร็งอีกหลายชนิด

ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายปัจจัยดังนี้

การใช้ยา : ยาหลายชนิด เช่น ยาต้านอาการซึมเศร้า และยาที่ชนิดอื่นที่เกี่ยวข้องกับโรคทางจิตเวช สามารถทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและขัดขวางการลดน้ำหนักได้

อาการเจ็บป่วย : อาการเจ็บป่วย เช่น การเป็นโรคซึมเศร้า , โรคไฮโปไทรอยด์ ซึ่งจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนในการควบคุมการเผาผลาญพลังงานน้อยลง จะสามารถทำให้เราลดน้ำหนักได้ช้าลงหรืออาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้

ประวัติครอบครัวและพันธุกรรม : มันจะมีองค์ประกอบทางพันธุกรรมบางอย่างที่มีความเกี่ยวข้องกับคนที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน และมันจะส่งผลต่อการลดน้ำหนัก

การไดเอทที่ทำให้เกิดโยโย่เอฟเฟค : โยโย่เอฟเฟคจะทำให้เราลดน้ำหนักได้ยากขึ้นเพราะมันจะทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายขณะพักผ่อนลดลง

รูปแบบการไดเอทที่ดีที่สุดสำหรับการลดน้ำหนัก

รวบรวมทุกเรื่องที่ควรรู้ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

ปัจจุบันมีรูปแบบการไดเอทเพื่อลดน้ำหนักเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่สร้างความรู้สึกมีความหวังในการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วกันทั้งนั้น มันก็อาจจะดูสับสนสักหน่อยกว่าจะได้รู้จริงๆว่าวิธีไหนได้ผลที่สุด

จริงๆแล้วถึงแม้ว่าบรรดาผู้ที่คิดค้นวิธีไอเดททั้งหลาย จะเคลมว่าวิธีของตัวเองดีกว่าวิธีอื่นก็ตาม แต่จริงๆแล้ววิธีไดเอทที่ดีที่สุดมันไม่มีหรอก

ยกตัวอย่างเช่น การทานอาหารแบบคีโต ซึ่งสามารถช่วยให้ลดน้ำหนักได้มากขึ้นในช่วงแรกนั้น ก็มีการวิจัยออกมาว่ามันไม่มีข้อแตกต่างอะไรที่สังเกตได้ชัดเจนเมื่อทำในระยะยาว

สิ่งสำคัญจริงๆคือ ความสามารถในการที่เราจะมีรูปแบบการลดแคลอรี่ที่ดีต่อสุขภาพได้ในระยะยาว แต่อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายคน จึงทำให้ไม่สามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จ

เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสในการลดน้ำหนักให้สำเร็จ จึงควรมีการลดแคลอรี่แบบพอประมาณ เลือกวิธีการไดเอทที่เหมาะสมกับสุขภาพของเรา หรืออยู่ในการดูแลของนักโภชนาการ

ให้เราใช้วิธีไดเอทร่วมกันกับการออกกำลังกาย โดยมีทั้งการออกกำลังกายแบบแอโรบิกและการออกกำลังกายแบบ Resistance training เพื่อที่จะลดไขมันให้มากที่สุดและป้องกันหรือลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ

ให้เราเลิกทานอาหารผ่านการแปรรูปมากเป็นพิเศษ และทานอาหารสุขภาพและ whole foods ให้มากขึ้น เช่น ผักผลไม้ , โฮลเกรน (Whole Grains) , ไขมันดี และโปรตีน จะช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้ต่อเนื่องและดีต่อสุขภาพโดยรวม

ระดับความเร็วในการลดน้ำหนักที่ปลอดภัย

ในขณะที่คนส่วนใหญ่อยากจะลดน้ำหนักให้เร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ เราก็ไม่ควรลดน้ำหนักเร็วจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดโรคนิ่ว , ภาวะขาดน้ำ และการขาดสารอาหาร

นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการลดน้ำหนักเร็วเกินไปดังนี้

– ปวดหัว
– อาการหงุดหงิดฉุนเฉียว
– อาการปวดเมื่อย
– ท้องผูก
– ผมร่วง
– ความผิดปกติของประจำเดือน
– การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ

ถึงแม้ว่าการลดน้ำหนักมันจะลดได้เร็วในช่วงแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรลดน้ำหนักสัปดาห์ละ 0.45–1.36 กิโลกรัม เท่านั้น หรือประมาณแค่ 1% ของน้ำหนักตัวเรา

และจำไว้ว่าผลลัพธ์ของการลดน้ำหนักในแต่ละสัปดาห์มันจะไม่เท่ากัน บางสัปดาห์ลดได้มากและบางสัปดาห์ก็จะน้อยกว่า หรืออาจจะไม่ลดเลยก็ได้ ดังนั้นอย่าไปใส่ใจถ้าหากบางวันลดได้น้อยหรือไม่ลดเลย

ควรมีการเขียนไดอารี่บันทึกว่าเราทานอะไรไปบ้าง และควรที่จะชั่งน้ำหนักเป็นประจำ เพราะมันจะช่วยให้เราไม่ล้มเลิกการลดน้ำหนัก

การวิจัยพบว่ากลุ่มผู้คนลดน้ำหนักที่มีการจดบันทึกตรวจสอบตัวเองอยู่ตลอด  เช่น การบันทึกชื่อเมนูอาหารและบันทึกน้ำหนัก จะมีโอกาสลดน้ำหนักได้สำเร็จและมีความพยายามลดน้ำหนักที่นานกว่าคนที่ไม่จดบันทึกอะไรเลย

บทสรุปส่งท้าย

  • การลดน้ำหนักจะเกิดขึ้นได้เมื่อเรารับแคลอรี่เข้าไปน้อยกว่าที่ร่างกายจะสามารถเผาผลาญได้
  • มีปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่อความเร็วการลดน้ำหนัก เช่น เพศ , อายุ , น้ำหนักตัวตอนที่เริ่มทำการลดน้ำหนัก , คุณภาพการนอนหลับ , และการใช้แคลอรี่ที่มากขึ้น
  • ให้ตั้งเป้าลดน้ำหนักให้ได้ประมาณ 0.45–1.36 กก. ต่อสัปดาห์ แบบนี้ถือว่าปลอดภัยและมีความยั่งยืนในการที่จะไปถึงเป้าหมาย

ที่มา : https://bit.ly/2KGe4O0


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
[AD]
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC คลิก bit.ly/ฺBNC122
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: Burn FatDietHealthLoss Weightweight lossลดความอ้วนลดน้ำหนักสุขภาพไดเอท
Previous Post

ตารางซ้อมวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับลงแข่งครั้งแรก

Next Post

ฟิตกายใจให้พร้อม! เตรียมวิ่งกับพี่ตูนในโครงการ “ก้าวคนละก้าวภาคใต้”

thip

thip

Related Posts

การทํา ICSI คือทางเลือกที่เป็นความหวังของคู่รัก 35 ปีขึ้นไป

การทํา ICSI คือทางเลือกที่เป็นความหวังของคู่รัก 35 ปีขึ้นไป

22/08/2025
รวมข้อควรรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มครั้งแรก ฟิลเลอร์ร่องแก้มคืออะไร

รวมข้อควรรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มครั้งแรก

28/07/2025
เบี้ยประกันสุขภาพรายปีควรอยู่ที่กี่เปอร์เซนต์ของรายรับ ?

เบี้ยประกันสุขภาพรายปี ควรอยู่ที่กี่เปอร์เซนต์ของรายรับ ?

05/07/2025
5 เคล็ดลับการใช้สเปรย์น้ำแร่ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

5 เคล็ดลับการใช้สเปรย์น้ำแร่ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

05/07/2025
วางแผนชีวิตผู้หญิงยุคใหม่ด้วยแพ็กเกจแช่แข็งไข่ !

วางแผนชีวิตผู้หญิงยุคใหม่ด้วยแพ็กเกจแช่แข็งไข่ !

27/06/2025
5 ประโยชน์ของการจัดเรียงไขมันใต้ตา เพื่อดวงตาที่สดใส

5 ประโยชน์ของการจัดเรียงไขมันใต้ตา เพื่อดวงตาที่สดใส

27/06/2025
Next Post
ฟิตกายใจให้พร้อม! เตรียมวิ่งกับพี่ตูนในโครงการ “ก้าวคนละก้าวภาคใต้”

ฟิตกายใจให้พร้อม! เตรียมวิ่งกับพี่ตูนในโครงการ “ก้าวคนละก้าวภาคใต้”

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 42k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

10 เคล็ดลับคลายกล้ามเนื้อง่ายๆสไตล์ธรรมชาติ

10 อาหารคลายกล้ามเนื้อสไตล์ธรรมชาติ

by VRUN VRIDE
16/04/2019

HOKA เปิดตัวรองเท้า daily training รุ่นใหม่ล่าสุด HOKA MACH X 2

HOKA เปิดตัวรองเท้า daily training รุ่นใหม่ล่าสุด HOKA MACH X 2

by VRUN VRIDE
02/09/2024

สปาร์ตันเปิดตัว SPARTAN TRAIL

สปาร์ตันเปิดตัว SPARTAN TRAIL การแข่งขันวิ่งผจญภัยรูปแบบใหม่ที่ไทยอาจเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้เข้าร่วม

by thip
19/04/2020

รีวิว Mizuno Wave Rider 24 “Smoothest Rider Ever”

พรีวิว Mizuno Wave Rider 24 “Smoothest Rider Ever”

by VRUN VRIDE
21/07/2020

Nike Air Zoom Structure 23

Nike Air Zoom Structure 23 รองเท้าเทรนนิ่ง ดีไซน์แปลกใหม่ สดใสรับซัมเมอร์

by thip
08/04/2021

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (173)
  • Fitness & Health (377)
  • News (895)
  • Review (126)
  • Running (957)
  • Stories (201)
  • Training (478)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี