วันอังคาร, ตุลาคม 28, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Training

8 ท่าดริล เพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

thip by thip
25/10/2025
in Training
0
ท่าดริล สำหรับนักวิ่ง ช่วยเพิ่มความเร็ว

image by freepik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

งานวิจัยในปี 2009 พบว่าการฝึก “ท่าดริล” การฝึกความคล่องตัว การระเบิดพลังกล้ามเนื้อ จะสามารถนำไปสู่การเพิ่มสมรรถนะที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเพื่อนๆที่ยังไม่เคยฝึกท่าเหล่านี้มาก่อนก็ควรพิจารณาเริ่มนำไปฝึกเพื่อเพิ่มความเร็วกัน

ปริมาณการฝึกและการฟื้นร่างกาย

ควรเลือกปริมาณการฝึกให้เหมาะสมกับระดับความฟิตของร่างกาย ยิ่งเป็นนักวิ่งมือใหม่ยิ่งต้องฝึกน้อยๆไปก่อน เพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการปรับตัวได้ทัน แต่ในกรณีที่เป็นนักวิ่งที่มีการฝึกต่อเนื่องมานานแล้วก็ควรที่จะฝึกเยอะหน่อย เพื่อช่วยเพิ่มสมรรถนะและความเร็วในการวิ่ง

การฟื้นตัวระหว่างเซ็ตให้ทำดังนี้ แต่ถ้าหากต้องการระยะเวลาในการฟื้นตัวที่มากกว่านี้ก็ให้ทำตามสมควรได้เลย

  1. ต้องมีการพักระหว่างเซ็ต 1-3 นาที
  2. หากมีการฝึกวนลูป (กลับไปเริ่มฝึกตั้งแต่ท่า 1 อีกรอบ) ก็ควรพักเพิ่มอีก 10-30 วินาที

8 ท่าดริล เพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

ท่าที่ 1. Skipping

ท่านี้เหมาะจะใช้ในการวอร์มอัพ จึงแนะนำให้ฝึกเป็นท่าแรกก่อน แล้วค่อยตามด้วยการฝึกท่าต่อไป

  1. ก้าวเท้าขวาไปด้านหน้าแล้วใช้เท้าเด้งเหมือนดีดสปริงขึ้นมาในแนวตรง และลงพื้นด้วยเท้าขวาในจังหวะนุ่มนวล
  2. ก้าวเท้าซ้ายไปด้านหน้าแล้วดีดสปริงขึ้นตรงๆ และทุกครั้งที่ลงพื้นให้เด้งกลับขึ้นมาทันที
  3. ก้าวเท้าสลับกันไปเรื่อยๆ
  4. หลังจากฝึกเสร็จแล้วให้วิ่งจ๊อกกิ้งกลับไปยังจุดเริ่มต้น แล้วฝึกวิ่ง Stride โดยใช้ความเข้มข้นระดับ 90% (วิ่งในระยะทางเท่าเดิมกับที่ตอนฝึกท่า Skipping) จากนั้นเดินกลับมายังจุดเริ่มต้น

ท่าที่ 2. High Skipping

ท่านี้จะช่วยให้เราฝึกออกแรงในแนวตั้งและจะเน้นไปที่การฝึกยกน่องและยกเข่า เราจะลอยอยู่กลางอากาศนานว่าท่าแรก

  1. ก้าวเท้าขวามาด้านหน้าแล้วใช้ฝ่าเท้าเด้งสปริงขึ้นมาในแนวตรง แกว่งแขนขวาเป็นเส้นโค้ง (ทำตามในคลิปเลย) แล้วในขณะเดียวกันก็ยกเข่าซ้ายลอยตามขึ้นมา
  2. ลงพื้นด้วยเท้าขวา ก้าวเท้าไปด้านหน้าด้วยเท้าซ้าย แกว่งแขนซ้ายเป็นเส้นโค้ง (ทำตามในคลิปเลย) แล้วในขณะเดียวกันก็ยกเข่าขวาลอยตามขึ้นมา
  3. ลงพื้นด้วยเท้าซ้าย ก้าวเท้าขวาไปด้านหน้า ทำแบบเดิมสลับกันไปเรื่อยๆ
  4. หลังจากฝึกเสร็จแล้วให้วิ่งจ๊อกกิ้งกลับไปยังจุดเริ่มต้น แล้วฝึกวิ่ง Stride โดยใช้ความเข้มข้นระดับ 90% (วิ่งในระยะทางเท่าเดิมกับที่ตอนฝึกท่า Skipping) จากนั้นเดินกลับมายังจุดเริ่มต้น

ท่าที่ 3. Flat-Footed Marching

ท่าเดินยกเข่านี้จะเน้นไปที่เรานำเท้ากระแทกพื้นลงมา โดยจะต้องมีการเร่งความเร็วตอนนำเท้าลงพื้น  เพราะกุญแจสำคัญในการฝึกคือการนำเท้าลงพื้นอย่างรวดเร็ว ท่านี้จะช่วยฝึกกล้ามเข่าและสะโพกให้ทำงานได้ดีขึ้น

  1. เดินไปข้างหน้าแล้วยกเข่าขวาให้สูงระดับเอวหรือสูงกว่านั้น ข้อเท้าต้องทำมุม 90 องศาตลอด ระวังอย่าชี้เท้า
  2. จังหวะที่นำเท้าขวาตรงให้เร่งความเร็วลงมา (แต่ไม่กระแทกแตะพื้น) คือตอนเอาเท้าลงให้เร่งความเร็วลงมาแต่ในจังหวะเท้าแตะพื้นเราจะลดความเร็วลงพื้นอย่างนุ่มนวล จากนั้นให้ฝึกซ้ำด้วยการก้าวซ้ายขวาสลับกันต่อไป
  3. ตอนเดินอย่าลืมยกแขนสลับกัน (แบบเดียวกับในคลิป)
  4. หลังจากฝึกเสร็จแล้วให้วิ่งจ๊อกกิ้งกลับไปยังจุดเริ่มต้น แล้วฝึกวิ่ง Stride โดยใช้ความเข้มข้นระดับ 90% (วิ่งในระยะทางเท่าเดิมกับที่ตอนฝึกท่า Skipping) จากนั้นเดินกลับมายังจุดเริ่มต้น

ท่าที่ 4. High Knees

ท่านี้เน้นฝึกระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ตอนฝึกให้ยกอกขึ้นตลอดเวลา รักษาความลื่นไหลของการเคลื่อนไหวและรักษาความเร็วให้คงที่

  1. เริ่มจากการวิ่งจ๊อกกิ้งก่อน หลังจากที่วิ่งจ๊อกกิ้งไปซักสองสามก้าวก็ให้เรายกเข่าซ้ายขึ้นมา
  2. วางเท้าลงจนส้นเท้าเกือบถึงพื้นแล้วเด้งกลับขึ้นมา
  3. จังหวะเด้งกลับขึ้นมาให้ยกเข่าขึ้นสูงเท่าเอวหรือสูงกว่า ให้สับขาสลับข้างกันต่อไปเรื่อยๆจนได้จำนวนที่ต้องการ
  4. หลังจากฝึกเสร็จแล้วให้วิ่งจ๊อกกิ้งกลับไปยังจุดเริ่มต้น แล้วฝึกวิ่ง Stride โดยใช้ความเข้มข้นระดับ 90% (วิ่งในระยะทางเท่าเดิมกับที่ตอนฝึกท่า Skipping) จากนั้นเดินกลับมายังจุดเริ่มต้น

ท่าที่ 5. Quick Feet

ท่าที่มีประโยชน์สองอย่างคือ 1.ช่วยฝึกลดระยะเวลาที่เท้าสัมผัสพื้น 2.ฝึกความเร็วเท้าเพื่อความคล่องตัว จึงทำให้เราสามารถใช้งานกล้ามเนื้อหน้าแข้งด้านหน้าและด้านนอกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และถ้าฝึกอย่างถูกวิธีจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ด้วย

  1. ยืนกางขาวางตำแหน่งเท้าเท่าสะโพก งอข้อศอก 90 องศา วางศอกไว้ด้านข้างลำตัวแบบหลวมๆ ไม่ต้องเกร็ง
  2. ยกเท้าขวาก้าวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วเอาซัก 2-3 นิ้ว พื้นรองเท้าไม่ควรยกสูงจากพื้นเกิน 1-3 นิ้ว
  3. ยกเท้าสลับข้างต่อเนื่อง ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ 20-30 เมตร
  4. หลังจากฝึกเสร็จแล้วให้วิ่งจ๊อกกิ้งกลับไปยังจุดเริ่มต้น แล้วฝึกวิ่ง Stride โดยใช้ความเข้มข้นระดับ 90% (วิ่งในระยะทางเท่าเดิมกับที่ตอนฝึกท่า Skipping) จากนั้นเดินกลับมายังจุดเริ่มต้น

ท่าที่ 6. Quick Hops

นี่คือท่าออกกำลังกายแบบ Plyometric ที่จะช่วยฝึกแรงยกทั้งในแนวตั้งและแนวนอนซึ่งต้องใช้ความเร็วสูงสุดในการฝึก จึงมีบางคนตั้งชื่อท่านี้ว่า “บันนี่ฮอปส์” ซึ่งแปลว่ากระต่ายกระโดด ถึงแม้ว่าชื่อมันจะน่ารัก แต่ท่านี้ทำให้กล้ามเนื้อขาเผาผลาญพลังงานอย่างมากเลยทีเดียว หากพบว่าในระหว่างการฝึกมีการเสียฟอร์มฝึกผิดท่วงท่า ให้หยุดแล้วเริ่มใหม่

  1. ยืนกางขาวางตำแหน่งเท้าเท่าสะโพก งอข้อศอก 90 องศา วางศอกไว้ด้านข้างลำตัวแบบหลวมๆไม่ต้องเกร็ง
  2. เอาเท้าโดดไปด้านหน้าและด้านหลัง อันนี้จะเป็นท่า Quick Hops เวอร์ชั่นโดดหน้าหลัง (คลิปประกอบที่ 1)
  3. อีกท่าจะเป็นกระโดดด้านข้าง (คลิปประกอบที่ 2) หากฝึกเริ่มฝึกจะฝึกเวอร์ชั่น 1 ไปก่อนก็ได้ อย่าลืมว่าเมื่อเอาเท้าลงพื้นแล้วให้กระโดดกลับไปทันที
  4. หลังจากฝึกเสร็จแล้วให้วิ่งจ๊อกกิ้ง แล้วฝึกวิ่ง Stride โดยใช้ความเข้มข้นระดับ 90% (วิ่งในระยะทางเท่าเดิมกับที่ตอนฝึกท่า Skipping) จากนั้นเดินกลับมายังจุดเริ่มต้น

ท่าที่ 7. Butt Kicks

หากฝึกด้วยความเร็วสูงสุด ส้นเท้าของเราจะยกเข้าหาก้นโดยอาศัยการเคลื่อนไหวคล้ายบานพับที่หัวเข่า ซึ่งจะเกิดการรีเฟล็กซ์ที่ช่วยเหวี่ยงขากลับไปด้านล่างได้ ท่านี้จะช่วยเพิ่มช่วงระยะทางการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าและเพิ่มความพร้อมต่อการใช้งานกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า

  1. ยืนตัวตรง ต้นขาตั้งฉากกับพื้น จากนั้นยกส้นเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาเตะก้นอย่างรวดเร็วหรือยกขึ้นมาให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้
  2. สับแขนสับขาอย่างต่อเนื่อง
  3. หลังจากฝึกเสร็จแล้วให้วิ่งจ๊อกกิ้ง แล้วฝึกวิ่ง Stride โดยใช้ความเข้มข้นระดับ 90% (วิ่งในระยะทางเท่าเดิมกับที่ตอนฝึกท่า Skipping) จากนั้นเดินกลับมายังจุดเริ่มต้น

ท่าที่ 8. Straight-Leg Bounding

ท่านี้จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อก้นและกล้ามเนื้อแฮมสตริงได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่เหล่านักวิ่งเร็วระยะสั้นจะให้ความสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อควอทอีกด้วย

  1. ให้เริ่มด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งไปก่อน
  2. จากนั้นให้เปลี่ยนเป็นการวิ่งโดดเตะเท้าไปด้านหน้า ขาจะต้องเป็นเส้นตรงตลอดเวลา
  3. เวลาเอาเท้าลงฟื้นให้เอาฝ่าเท้าลงพื้น อย่าใช้ส้นเท้านะ
  4. หลังจากฝึกเสร็จแล้วให้วิ่งจ๊อกกิ้ง แล้วฝึกวิ่ง Stride โดยใช้ความเข้มข้นระดับ 90% (วิ่งในระยะทางเท่าเดิมกับที่ตอนฝึกท่า Skipping) จากนั้นเดินกลับมายังจุดเริ่มต้น

แหล่งที่มา : http://bit.ly/42BdOHe


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Running #Training
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: Exerciserunner guideworkoutคำแนะนำนักวิ่งท่าออกกำลังกาย
Previous Post

6 ท่าออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางนักวิ่ง

Next Post

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่ ฝึกตามได้ วิ่งถึงเส้นชัยแน่นอน

thip

thip

Related Posts

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่ ฝึกตามได้ วิ่งถึงเส้นชัยแน่นอน

27/10/2025
ท่าออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางนักวิ่ง

6 ท่าออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางนักวิ่ง

24/10/2025
โปรแกรมฝึกวิ่ง 10k สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10k สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์

13/10/2025
กลศาสตร์ของความเร็ว วิธีพัฒนาฟอร์มการวิ่ง

กลศาสตร์ของความเร็ว : ทำไมฟอร์มการวิ่งถึงส่งผลต่อเพซของเรา

12/10/2025
ตัวอย่างการฝึกวิ่ง Interval รวมข้อมูลทุกเรื่องที่ผู้ฝึกจำเป็นต้องรู้

ตัวอย่างการฝึกวิ่ง Interval รวมข้อมูลทุกเรื่องที่ผู้ฝึกจำเป็นต้องรู้

11/10/2025
ท่า Plyometric Exercises สำหรับนักวิ่ง เพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

7 ท่า Plyometric Exercises เพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

10/10/2025
Next Post
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่ ฝึกตามได้ วิ่งถึงเส้นชัยแน่นอน

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 42.6k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

Garmin เปิดตัว Lily สมาร์ทวอทช์สำหรับผู้หญิง

Garmin เปิดตัว Lily สมาร์ทวอทช์สำหรับผู้หญิง ไซส์เล็กสุดที่เคยมี มาพร้อมฟีเจอร์สุขภาพเพื่อจุดประกายในชีวิตสาวๆ โดยเฉพาะ

by VRUN VRIDE
07/02/2021

โปรแกรมฝึกวิ่ง ฮาล์ฟมาราธอน เพื่อทำเวลาให้ได้ภายใน 2 ชั่วโมง

โปรแกรมฝึกวิ่ง ฮาล์ฟมาราธอน เพื่อทำเวลาให้ได้ภายใน 2 ชั่วโมง

by thip
29/02/2024

อาหาร 5 อย่างที่ดีที่สุดสำหรับนักวิ่ง (ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว)

อาหาร 5 อย่างที่ดีที่สุดสำหรับนักวิ่ง (ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว)

by thip
06/05/2020

ประวัติของไตรกีฬา ว่าย ปั่น วิ่ง

ประวัติของไตรกีฬา ว่าย ปั่น วิ่ง

by FatxRun
17/12/2018

เผยโฉมคอลเลคชั่นใหม่ Nike Free Running 2019

เผยโฉมคอลเลคชั่นใหม่ Nike Free Running 2019

by thip
21/03/2019

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (173)
  • Fitness & Health (377)
  • News (896)
  • Review (126)
  • Running (958)
  • Stories (201)
  • Training (481)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี