วันจันทร์, มิถุนายน 16, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

25 กฎทองสำหรับการวิ่งระยะไกล (Long Distance Running)

thip by thip
09/03/2019
in Running
0
25 กฎทองสำหรับการวิ่งระยะไกล (Long Distance Running)
  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

25 กฎทองสำหรับการวิ่งระยะไกล (Long Distance Running)


กฎการวิ่ง
 คือสิ่งที่มาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจากการวิ่ง และเป็นกฎสากลที่ได้รับความเชื่อถือในหมู่นักวิ่ง
เริ่มต้นจากการบอกต่อจากเพื่อนนักวิ่งด้วยกัน ต่อมาก็เริ่มแพร่หลายจนพวกโค้ชสอนวิ่งต้องลองเอาไปพิสูจน์
และต่อมาพวกนักวิทยาศาสตร์การกีฬาก็เริ่มให้ความสนใจกับกฏพวกนี้
เป็นการพัฒนาจากไอเดียเป็นทฤษฎี และกลายเป็นความรู้ที่ได้รับการยอมรับในที่สุด

บทความนี้มีกฎการวิ่งทั้งหมด 25 ข้อมาฝากเพื่อนนักวิ่งที่สนใจการวิ่งระยะไกล
มาอ่านทำความเข้าใจ เผื่อมีข้อไหนน่าสนใจจะได้นำไปลองใช้กันค่ะ

1. กฎแห่งความจำเพาะ (The Specificity Rule)

กฎระบุว่า : การฝึกซ้อมที่ได้ผลที่สุด คือการฝึกซ้อมที่เหมือนกับการแข่งจริงในรายการวิ่งที่เราจะเข้าร่วม

ถ้าหากว่าเราจะเข้าร่วมการวิ่งแข่ง 10k โดยใช้เพซ 11 กม./ชั่วโมง เราก็ควรซ้อมวิ่งโดยใช้เพซระดับนี้
“นักวิ่งจะวิ่งได้ดีที่สุดเมื่อซ้อมวิ่งในระดับเดียวกับเป้าหมายและสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับการแข่งขันจริง”

ข้อยกเว้น :
การฝึกซ้อมในสภาพแวดล้อมที่เหมือนจริงเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก โดยเฉพาะในระยะทางที่ไกลกว่าการแข่ง
เพราะมันจะทำให้เราต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวมากขึ้น ดังนั้นในการฝึกซ้อมควรมีระยะทางที่สั้นกว่าการแข่งจริง
หรือให้วิ่งแบบ interval ด้วยเพซที่ใช้ในการแข่ง

2. กฎ 10% (The 10% Rule)

กฎระบุว่า : ให้เพิ่มระยะทางในการซ้อมวิ่งไม่เกิน 10% ในแต่ละสัปดาห์

เพราะนักวิ่งส่วนใหญ่ที่เพิ่มระยะทางในการซ้อมวิ่งมากเกินไปมักจะมีอาการบาดเจ็บ
สาเหตุของอาการบาดเจ็บที่เกิดกับนักวิ่ง ส่วนมากมีสาเหตุมาจากการซ้อมหนักเกินไป

ข้อยกเว้น :
ยกเว้นการเพิ่มระยะทางหลังจากการหยุดซ้อมวิ่งไปพักใหญ่
จึงจะให้เพิ่มระยะมากกว่า 10% จนกระทั่งถึงระยะทางที่เป็นการวิ่งปกติของเรา

3. กฎ 2 ชั่วโมง (The 2-hour Rules)

กฎระบุว่า : หลังทานอาหารให้รอครบ 2 ชั่วโมงก่อนจึงค่อยออกไปวิ่ง

ระยะเวลา 2 ชั่วโมงเป็นช่วงเวลาพอดีที่อาหารจะเริ่มถูกย่อยจนหมด โดยเฉพาะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง
ถ้าหากเราไม่รอสัก 2 ชั่วโมง ก็อาจจะทำให้อาเจียนระหว่างซ้อมวิ่งได้

ข้อยกเว้น :
ถ้าเป็นอาหารมื้อเบาๆ เราอาจจะรอแค่ 90 นาทีก็พอแล้ว
แต่ถ้าเป็นอาหารมื้อใหญ่ที่เป็นพวกเนื้อสัตว์และไขมัน ก็ควรรอให้ครบ 3 ชั่วโมง
หรือถ้าเป็นการทานขนมที่มีไขมันและโปรตีนต่ำ ก็อาจจะใช้เวลารอแค่ 15-60 นาที

4. กฎ 10 นาที (The 10-Minute Rule)

กฎระบุว่า : ให้เริ่มการซ้อมโดยการวอร์มอัพด้วยการเดินและวิ่งช้าๆสัก 10 นาที
และจบการซ้อมโดยการคูลดาวน์ด้วยการเดินและวิ่งช้าๆ 10 นาทีเช่นกัน

การวอร์มอัพจะช่วยเตรียมร่างกายโดยการเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และเพิ่มอุณหภูมิให้กับกล้ามเนื้อแกนกลาง
ส่วนการคูลดาวน์ก็สำคัญมาก เพราะการหยุดออกกำลังกายแบบกระทันหัน อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บตามมา
เช่น ปวดขา คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ หรือเป็นลมได้

ข้อยกเว้น :
ในวันที่อากาศร้อน จะวอร์มอัพน้อยกว่า 10 นาทีก็ได้

5. กฎ 2 วัน (The 2-Day Rules)

กฎระบุว่า : หากมีอาการบาดเจ็บที่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งนานติดต่อกัน 2 วัน ให้พักซ้อม 2 วัน

การรู้สึกเจ็บสองวันติดต่อกัน คือสัญญาณของอาการที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บ
แต่ถึงแม้ว่าเราจะพักซ้อม 5 วันติดกัน จะเริ่มส่งผลต่อระดับความฟิตนิดหน่อยแล้วล่ะ

ข้อยกเว้น :
ถ้ามีส่วนไหนของร่างกายมีอาการบาดเจ็บเกินสองสัปดาห์ ควรต้องไปหาหมอ

6. ให้กินเฉพาะอาหารที่คุ้นเคย (The Familiar-Food Rule)

กฎระบุว่า : อย่าทานอะไรแปลกๆหรืออะไรที่ไม่เคยทานในช่วงก่อนการแข่งขัน หากเป็นอะไรไปขึ้นมามันไม่คุ้ม

ข้อยกเว้น :
หากมีอาการหน้ามืดจากอาการหิวจัด การกินอะไรแปลกๆที่ไม่เคยกินก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย

7. กฏในการพักฟื้น (The Race-Rocovery Rule)

กฎระบุว่า : ในทุกระยะทาง 1 ไมล์ (1.6 กม.) ที่เราได้วิ่งไป ให้เราพัก 1 วันเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
หลังจากการซ้อมอย่างหนักหรือหลังจากเข้าแข่งขันมาราธอน

หมายความว่า หลังจากลงแข่งวิ่ง 10k จะไม่มีการฝึกซ้อมวิ่งเร็ว (Speed Workouts) เป็นเวลา 6 วัน
หรือหลังจากลงแข่งมาราธอน จะไม่มีการฝึกซ้อมเป็นเวลา 26 วัน

ข้อยกเว้น :
ถ้าหากตอนแข่งไม่ได้วิ่งแบบเอาจริงเอาจัง ก็อาจจะใช้เวลาพักน้อยลงกว่าที่กฎบอกไว้ได้

8. การดูทิศทางลม (The Heads-Beats-Tails Rule)

กฎระบุว่า : การวิ่งทวนลมจะทำให้เราวิ่งช้าลง และในทางตรงกันข้ามการวิ่งตามกระแสลมจะทำให้เราวิ่งเร็วขึ้น

ข้อยกเว้น :
ถ้าวิ่งจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งและเป็นการวิ่งตามกระแสลม จะทำให้เราวิ่งได้เร็วกว่าปกติ

9. ต้องวิ่งในความเร็วที่ใช้ในการพูดคุยได้ (The Conversation Rule)

กฎระบุว่า : ความเร็วที่ดีคือความเร็วในระดับที่ทำให้ขณะที่เรากำลังวิ่งอยู่ เราสามารถพูดคุยกับผู้อื่นไปด้วยได้

การวิจัยค้นพบว่า นักวิ่งที่กำลังหายใจอยู่ในโซนแอโรบิค จะสามารถพูดคุยในขณะวิ่งได้อย่างสบาย
แต่ถ้าใครวิ่งไปด้วย พูดไปด้วยไม่ได้ แสดงว่ากำลังวิ่งเร็วเกินไป

ข้อยกเว้น :
แต่ถ้าเป็นการวิ่งแบบอื่นๆ เช่น Hard Runs,  Speed Work หรือการลงวิ่งแข่ง ก็ไม่ควรวิ่งในระดับที่วิ่งไปคุยไป

10. กฏ 20 ไมล์ (The 20-Mile Rule)

กฎระบุว่า : เราควรจะวิ่งให้ได้ 20 ไมล์ (32 กม.) ก่อนที่จะไปลงแข่งวิ่งมาราธอน

การวิ่งระยะไกลก็เหมือนกับการจำลองการวิ่งมาราธอน และการรู้ตัวว่าสามารถวิ่งได้ถึง 32 กม.
ก็จะทำให้เรารู้สึกสบายๆกับการวิ่งมาราธอนในระยะ 42.195 กม.

ข้อยกเว้น :
โค้ชบางคนคิดว่าใครวิ่งได้ 16-18 ไมล์ (25.7-28.9 กม.) ก็น่าจะพอแล้ว
ที่จะไปลงแข่งวิ่งมาราธอน ในขณะที่บางคนแนะนำว่าควรวิ่งให้ได้ 24 ไมล์ (38.6 กม.)

11. โหลดคาร์ปก่อนการวิ่งระยะไกล (The Carbs Rule)

กฎระบุว่า : ในช่วงไม่กี่วันก่อนการลงแข่ง ให้เน้นทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงๆ

การโหลดคาร์ปเป็นสิ่งที่นักวิ่งมาราธอนนิยมทำกัน ตั้งแต่มีผลการวิจัยออกมาในปี ค.ศ.1967
ที่แนะนำให้โหลดคาร์ปหลังช่วงเวลาที่นักวิ่งมีการสูญเสียคาร์โบไฮเดรต แต่ในปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญ
แนะนำว่าให้เน้นทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตในช่วงไม่กี่วันก่อนวันลงแข่ง ร่างกายจำเป็นที่จะต้อง
เติมพลังงานในระหว่างการวิ่งฝึกซ้อม เพื่อสะสมเป็นพลังงานตุนไว้ให้กล้ามเนื้อ
โดยให้ทาน 30-60 กรัมต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นในการวิ่งและขนาดตัวของเรา

ข้อยกเว้น :
ในการซ้อมวิ่งทั่วไปและการแข่งวิ่งระยะใกล้ ไม่จำเป็นต้องโหลดคาร์ป

12. กฏ 7 ปี (The Seven-Year Rule)

กฎระบุว่า : เราจะเก่งขึ้นภายใน 7 ปี

นักวิ่งส่วนใหญ่มักจะเริ่มทำสถิติที่ดีที่สุดของตัวเองได้ภายในปีที่ 7

ข้อยกเว้น :
นักวิ่งที่มีระยะทางการวิ่งสะสมน้อยอาจจะต้องยืดเวลาจาก 7 ปี ไปเป็น 10 ปี

13. ให้วิ่งสวนทางกับรถที่สัญจรไปมาเสมอ

กฎระบุว่า : ให้วิ่งสวนทางกับรถที่วิ่งบนถนน ถ้าเป็นประเทศไทยก็ให้วิ่งชิดขวาจะได้เห็นรถที่วิ่งสวนมา

ข้อยกเว้น :
นอกเสียจากว่าเรากำลังจะเจอกับทางโค้ง ซึ่งการวิ่งสวนทางจะทำให้รถที่วิ่งสวนมามองไม่เห็นเรา

14. การวิ่งขึ้นลงเนิน (The Up-Beats-Down Rule)

กฎระบุว่า : การวิ่งขึ้นเนินจะทำให้เราวิ่งช้าลง ส่วนการวิ่งลงเนินจะทำให้เราวิ่งเร็วขึ้น

ข้อยกเว้น :
แต่ถ้าหากเป็นการวิ่งจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งที่มีระดับความชันลดลง เพซโดยเฉลี่ยของเราจะเร็วขึ้น

15. กฎการนอน (The Sleep Rule)

กฎระบุว่า : ให้เรานอนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม 1 นาที ต่อระยะทางการวิ่ง 1 ไมล์ (1.6 กม.)
จากระยะทางทั้งหมดใน 1 สัปดาห์

สมมุติว่าวิ่งสัปดาห์ละ 30 ไมล์ (48.2 กม.) เราควรเพิ่มเวลานอนให้นานขึ้นวันละ 30 นาที
การอดนอนส่งผลเสียต่อการฝึกซ้อม โดยศูนย์ความผิดปกติของการนอนหลับ
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแนะนำว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนทั่วไปต้องการการนอนหลับ
วันละ 7-8 ชั่วโมง และควรเพิ่มเวลานอนตามระยะทางการวิ่งด้วย

ข้อยกเว้น :
สำหรับใครที่เป็นคนมี Energy สูง อาจไม่จำเป็นต้องเพิ่มเวลานอน

16. การเติมพลังงาน (The Refueling Rule)

กฎระบุว่า : ให้เติมพลังงานด้วยอาหารที่มีทั้งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต รวมไปถึงเครื่องดื่มด้วย
โดยภายในช่วงเวลา 30-60 นาทีหลังจบการแข่งวิ่ง, Speed Workout หรือการวิ่งระยะไกล
ให้เราทานอาหารเพื่อเติมพลังงานให้ร่างกายด้วย

ร่างกายเราต้องการคาร์โบไฮเดรตไปทดแทนไกลโคเจนของกล้ามเนื้อที่สูญเสียไป
รวมไปถึงต้องการได้รับโปรตีน เพื่อใช้ซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อด้วย

ข้อยกเว้น :
ในวันที่วิ่งแบบง่ายๆ เราอาจต้องการแค่ขนมขบเคี้ยวที่ไม่ต้องมีแคลอรี่หรือโปรตีนเยอะมาก

17. อย่าวิ่งเพียงอย่างเดียว (The Don’t-Just-Run Rule)

กฎระบุว่า : นักวิ่งที่เอาแต่ซ้อมวิ่งอย่างเดียว ไม่ออกกำลังกายอย่างอื่นเลย มีแนวโน้วที่จะได้รับบาดเจ็บ

การฝึกแบบ CrossTraining และ Weight Training จะทำให้เราเป็นนักวิ่งที่แข็งแกร่ง
และสุขภาพดีมากขึ้น การออกกำลังกายแบบที่มีแรงกระแทกน้อย เช่น การปั่นจักรยานและการว่ายน้ำ
จะช่วยสนับสนุนกล้ามเนื้อส่วนที่ต้องใช้ในการวิ่ง แถมยังทำให้กล้ามเนื้อหลักที่ใช้ในการวิ่งได้พักอีกด้วย

ข้อยกเว้น :
ถ้ามีเวลาน้อยเราก็ควรโฟกัสไปที่การฝึกวิ่งเพียงอย่างเดียว

18. ใช้เพซเท่าเดิมตลอดเส้นทางการวิ่ง (The Even-Pace Rule)

กฎระบุว่า : วิธีการทำสถิติการวิ่งที่ดีที่สุด คือการรักษาเพซให้คงที่ตลอดการวิ่งตั้งแต่ต้นจนจบ

นักวิ่ง 10,000 เมตร กับนักวิ่งมาราธอนเจ้าของสถิติโลกในช่วงเวลาทศวรรษที่ผ่านมาบอกว่า
ถ้าเราวิ่งเร็วเกินไปในช่วงเริ่มการแข่งขัน เราจะได้เจอกฏแห่งกรรมในช่วงท้ายของการวิ่ง
พูดง่ายๆก็คือ โหมแรงไปช่วงแรกมากเท่าไร ช่วงปลายก็จะแผ่วเบามากเท่านั้นหล่ะค่ะ

ข้อยกเว้น :
กฎนี้ไม่สามารถใช้กับการแข่งวิ่งขึ้นเนิน หรือการแข่งวิ่งที่ต้องเจอลมแรงๆ

19. ถึงเวลาก็ต้องซื้อรองเท้าใหม่ (The New-Shoes Rule)

กฎระบุว่า : ให้เปลี่ยนรองเท้าหลังจากใช้วิ่งไปแล้ว 400-500 ไมล์ หรือประมาณ 600-800 กม.

เมื่อใช้งานไปได้ระยะทางจำนวนหนึ่ง รองเท้าก็จะเริ่มสึกหรอและเสื่อมสภาพ ทำให้สมรรถนะใน
การวิ่งของเราอาจจะถดถอยลงไปด้วย เพราะการสวมใส่รองเท้าที่ดี จะช่วยในเรื่องความคล่องตัว
ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บได้ เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยน ก็ควรต้องเปลี่ยนค่ะ

ข้อยกเว้น :
ระยะเวลาในการเสื่อมสภาพของรองเท้าแต่ละคู่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับประเภทรองเท้า
น้ำหนักและขนาดตัวของผู้ใส่ รูปแบบการก้าวเท้าของผู้ใส่ และสภาพพื้นผิวที่ใช้ในการวิ่ง

20. ซ้อมหนักสลับกับซ้อมเบา (The Hard/Easy Rule)

กฎระบุว่า : ให้ซ้อมวิ่งแบบ Easy อย่างน้อย 1 วันหลังจากวันที่เป็นวันซ้อมหนัก

การซ้อมแบบ Easy หมายถึงการวิ่งแบบช้าๆหรือสั้นๆ
ส่วนการซ้อมแบบ Hard นั้นจะหมายถึง Long Run, Tempo และ Speed Workout
เราควรให้ร่างกายได้พักบ้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การวิ่งแบบ Hard ในครั้งถัดไป

ข้อยกเว้น :
ถ้าหากว่าเหนื่อยมากจากการวิ่งระยะไกลหรือ Speed Workout
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรามีอายุ 40 ปีขึ้นไป
ก็ควรเว้นช่วง 2-3 วันก่อนที่จะกลับมาซ้อมหนักอีกครั้ง

21. ใส่เสื้อผ้าให้เย็นสบายขึ้น 10 องศา (The 10-Degree Rule)

กฎระบุว่า : ให้ดูอุณหูมิในวันที่เราจะออกวิ่ง และเลือกใส่เสื้อผ้าที่ช่วยระบายความร้อนได้มากขึ้น 10 องศา

ข้อยกเว้น :
ระวังอย่าแต่งตัวน้อยชิ้นเกินไป อาจเป็นอันตรายได้ ให้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบาและสีอ่อนๆ

22. กฎการวิ่งเร็ว (The Speedwork-Pace Rule)

กฎระบุว่า : เพซที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับการฝึก VO2 Max Interval คือ
pace ที่เร็วกว่าที่เราใช้แข่งระยะ 5k ประมาณ 20 วินาที/ไมล์ (1.6 กม.)

ข้อยกเว้น :
สำหรับนักวิ่งที่วิ่งเร็ว อาจใช้ระดับความเร็วที่เร็วกว่าเพซที่ใช้แข่งวิ่ง 5k ประมาณ 10 วินาที/ไมล์
และสำหรับนักวิ่งที่วิ่งช้า อาจใช้ที่ 30 วินาที/ไมล์ได้

23. กฏการวิ่งเทมโป (The Tempo-Pace Rule)

กฎระบุว่า : การใช้เพซเทมโป คือเพซที่เราสามารถรักษาระดับความเร็วได้อย่างต่อเนื่องในเวลาเป็นชั่วโมง

เพซนี้จะช้ากว่าเพซสำหรับวิ่ง 10K เป็นเวลา 10 วินาที/ไมล์ (1.6 กม.)
หรือช้ากว่าเพซวิ่ง 5k เป็นเวลา 30 วินาที/ไมล์
เพซนี้จะมีความเร็วมากพอที่จะช่วยเพิ่มระดับความทนทานต่อกรดแลคติก
สำหรับการวิ่งที่ต้องใช้ความอดทนสูงได้ และก็ช้าพอที่จะไม่ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักจนไป

ข้อยกเว้น :
สำหรับนักวิ่งที่วิ่งเร็ว อาจใช้ระดับความเร็วที่ช้ากว่าเพซที่ใช้แข่งวิ่ง 10k ประมาณ 20 วินาที/ไมล์
และสำหรับนักวิ่งที่วิ่งช้า อาจใช้ที่ 30 วินาที/ไมล์ได้

24. กฎการวิ่งระยะไกล (The Long-Run-Pace Rule)

กฎระบุว่า : ถ้าวิ่งระยะไกลให้เราวิ่งช้ากว่าเพซที่เราใช้วิ่ง 5k ประมาณ 3 นาที/ไมล์ (1.6 กม.)

การวิ่งช้าไม่ก่อให้เกิดผลเสียใดต่อร่างกายเลย แต่ถ้าวิ่งเร็วเกินไปจะทำให้มีเวลาฟื้นตัวน้อยลง
และเพิ่มโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บด้วย

ข้อยกเว้น :
ถ้าเป็นวันที่อากาศร้อนก็ควรวิ่งช้าให้กว่านี้อีก

25. กฎเวลาจบการแข่งขัน (The Finishing-Time Rule)

กฎระบุว่า : ยิ่งเป็นการวิ่งแข่งระยะไกล ก็ยิ่งต้องวิ่งให้ช้าเข้าไว้

ข้อยกเว้น :
วันลงแข่งจริงจะมีเงื่อนไขอื่นๆที่สามารถนำมาใช้พิจารณาปรับเปลี่ยน Finish Time ได้
เช่น สภาพพื้นที่ สภาพอากาศ หรือความรู้สึกของเราในวันแข่งจริง

 

แหล่งที่มา : https://bit.ly/2VkOBMr
ภาพประกอบจาก : www.runnersworld.com



ไม่พลาดทุกกิจกรรม วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา

กด #Seefirst และ #Following กันไว้ ที่
?facebook.com/wheretorunwhentoride

ค้นหางานแข่งวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ทั่วไทย
ง่าย สะดวก พร้อมบทความสาระดีๆ ที่
?www.vrunvride.com

อัพเดท Running, Cycling,
Triathlon, Gadget, Food ได้ที่
?instragram.com/vrunvride

มาซ้อม วิ่ง ?‍♂ปั่น ?‍♂ว่าย ?‍♂ให้สนุกกันที่
?strava.com/clubs/vrunvride

[AD]
?บัตรเครดิต KTC ตัวจริงเรื่องกีฬา
แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 15% พร้อมแบ่งชำระ 0%
นานสูงสุด 10 เดือน ที่ Supersports ทุกสาขา
? bit.ly/CRCSPORTS

#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: Long Distance RunningrunnerrunningRunning GuideRunning Rulesกฎการวิ่งการวิ่งนักวิ่งวิ่งวิ่งระยะไกล
Previous Post

การสร้างความแข็งแกร่งให้พื้นฐานการวิ่งด้วย Isometric Exercises

Next Post

ข้อได้เปรียบเสียเปรียบในการปั่นจักรยาน

thip

thip

Related Posts

เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

5 เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

14/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง นักวิ่ง

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง สำหรับนักวิ่ง

04/06/2025
5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

22/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

19/05/2025
ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

5 ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

16/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ในระยะเวลา 10 สัปดาห์

13/05/2025
Next Post
ข้อได้เปรียบเสียเปรียบในการปั่นจักรยาน

ข้อได้เปรียบเสียเปรียบในการปั่นจักรยาน

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 33.7k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

พาส่อง 4 ลุค จาก อาดิดาส สปอร์ตแวร์ แคปซูลคอลเลกชันใหม่สวมใส่สบาย จากแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ที่เลือกใช้ชีวิตแบบอิสระ

พาส่อง 4 ลุค จาก อาดิดาส สปอร์ตแวร์ แคปซูลคอลเลกชันใหม่สวมใส่สบาย จากแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ที่เลือกใช้ชีวิตแบบอิสระ

by VRUN VRIDE
04/07/2022

12 งานแข่งขันไตรกีฬาในเอเชียที่ดีที่สุดในปี ค.ศ.2018

12 งานแข่งขันไตรกีฬาในเอเชียที่ดีที่สุดในปี ค.ศ.2018

by FatxRun
23/12/2018

9 ประโยชน์ของการวิ่งจ๊อกกิ้งช้าๆ

9 ประโยชน์ของการวิ่งจ๊อกกิ้งช้าๆ

by thip
05/09/2022

“การ์มิน” เปิดตัว “FORERUNNER 955” สมาร์ทวอทช์สำหรับนักวิ่งรุ่นแรกของโลกที่มีนวัตกรรมโซลาร์เทคฯ พร้อมปล่อย “FORERUNNER 255 ซีรีย์”

ครั้งแรก “การ์มิน” เปิดตัว “GARMIN FORERUNNER 955” สมาร์ทวอทช์สำหรับนักวิ่งรุ่นแรกของโลกที่มีนวัตกรรมโซลาร์เทคฯ พร้อมปล่อย “FORERUNNER 255 ซีรีย์”

by VRUN VRIDE
02/07/2022

zone การเต้นของหัวใจกับออกกำลังกาย

Zone การเต้นของหัวใจกับออกกำลังกาย

by VRUN VRIDE
27/09/2018

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (370)
  • News (874)
  • Review (126)
  • Running (941)
  • Stories (201)
  • Training (462)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี