วันอาทิตย์, มิถุนายน 15, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

11 ท่าฝึกความคล่องตัวสำหรับนักวิ่ง

thip by thip
04/12/2022
in Running, Training
0
11 ท่าฝึกความคล่องตัวสำหรับนักวิ่ง
  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

การฝึกกล้ามเนื้อจนทำให้ข้อต่อมีระยะการเคลื่อนที่มากขึ้น จะทำให้เราวิ่งโดยมีอาการตึงน้อยลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง เพราะร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้นโดยไม่ต้องพยายามหนักกว่าเดิม

ในบทความนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องความคล่องตัวว่าคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ทำไมจึงสำคัญต่อนักวิ่ง และมีชื่อท่าที่ควรฝึกมาให้ ซึ่งก็สามารถฝึกได้ทั้งในบ้านหรือจะนำไปฝึกที่โรงยิมก็ได้

ในบทความนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องดังต่อไปนี้

  1. ความคล่องตัวคืออะไร?
  2. มีประโยชน์ต่อนักวิ่งอย่างไร?
  3. ท่าที่ควรฝึก

ความคล่องตัวคืออะไร?

อ้างอิงจากพจนานุกรมของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ “ความคล่องตัว คือความสามารถในการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระหรือโดยง่าย”

หากเรามีระดับความคล่องตัวที่ดีก็จะเคลื่อนไหวได้ดี หมายความว่าข้อต่อของเราควรขยับได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีอาการเจ็บหรือฝืด

การฝึกความคล่องตัวสำหรับนักวิ่ง โดยปกติแล้วจะโฟกัสไปที่ส่วนสะโพก , เข่า , ข้อเท้า แต่อย่างไรก็ตาม การมีความคล่องตัวในข้อต่อทุกส่วนจะมีประโยชน์มากกว่า ซึ่งจะรวมไปถึงบริเวณหัวไหล่ คอ และกระดูกสันหลังส่วนอก

บางคนถามว่าความยืดหยุ่นกับความคล่องตัวใช่สิ่งเดียวหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าไม่ เพราะความคล่องตัวนั้นจะเน้นไปที่บริเวณข้อต่อในร่างกาย

ประโยชน์ที่นักวิ่งจะได้รับจากความคล่องตัว

  1. เพิ่มระยะทางการเคลื่อนไหวของข้อต่อ
  2. การวิ่งจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะระยะทางการเคลื่อนไหวของสะโพกเพิ่มขึ้น และการสร้างแรงจากหัวเข่าจะเพิ่มขึ้น
  3. ปกป้องเราจากอาการบาดเจ็บซึ่งเกิดจากการมีชีวิกลศาสตร์ที่ไม่ดี
  4. ส่งเสริมการก้าวขาในการวิ่ง
  5. แก้ไขความไม่สมดุลซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บ
  6. ทำให้เราวิ่งได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
  7. ลดอาการฝืดและเมื่อยล้าไปตลอดทั้งวัน

เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่า จะใส่การฝึกเพื่อเพิ่มความคล่องตัวลงไปในตารางการฝึกอย่างไรดี? หากเพื่อนๆต้องรักษาเวลาก็ให้ฝึกความคล่องตัวก่อนการฝึกวิ่ง ซึ่งช่วงเวลาก่อนวิ่งก็ถือว่าสะดวกดี เพราะท่าพวกนี้สามารถใช้แทนการฝึกท่า Dynamic Stretch ได้อยู่เหมือนกัน คือใช้เป็นส่วนหนึ่งของการวอร์มอัพไปเลย แต่เวลาฝึกท่าเหล่านี้ก็ควรฝึกอย่างระวัง จัดท่าให้ดีและอย่ารีบร้อนในการฝึก และต้องมีการเคลื่อนไหวตามท่าต่างๆให้ถูกต้องด้วย

11 ท่าฝึกความคล่องตัวสำหรับนักวิ่ง

1. Runner’s Stretch

ท่านี้ดีมากตรงที่ได้บริหารข้อต่อหลายส่วนเลย ถ้าเพื่อนๆมีเวลาน้อยก็ควรจะเน้นฝึกท่านี้

  1. ให้เริ่มต้นด้วยการอยู่ในท่า Plank โดยให้มือ , ข้อต่อ , ข้อศอกและไหล่ชี้ตรงเป็นเส้นเดียวกัน ร่างกายต้องเป็นเส้นตรงตั้งแต่หัวถึงเท้า และทิ้งน้ำหนักไปที่มีและนิ้วเท้า
  2. เอาเท้าขวาก้าวมาข้างหน้า ให้เท้าซ้ายวางอยู่ด้านข้างมือซ้าย จัดเรียงตำแหน่งให้สามารถรักษาการทรงตัวได้ดี
  3. ดันเข่าซ้ายมาด้านหน้าในขณะที่เรายืดเท้าขวาไปด้านหลัง คือเคลื่อนไหวไปในทางตรงกันข้าม
  4. ยกแขนซ้ายชี้ขึ้นไปข้างบนเอียงลำตัวตามไปด้วย ชี้มือค้างไว้ซัก 1-2 วินาทีแล้วค่อยเอามือกลับลงมา
  5. หลังจากเอามือลงมาแล้วก็ให้ถอยเท้าซ้ายกลับไปสู่ที่เดิม ก็จะกลับไปสู่ท่าเริ่มต้น
  6. ทำซ้ำโดยเปลี่ยนข้าง โดยทำให้ได้ 4-6 ครั้งทั้งซ้ายและขวา

2. Goblet Squat

มีหลายเหตุผลในการฝึกท่านี้ แต่เหตุผลหลักๆคือเสริมสร้างความแข็งแรง แต่ในกรณีนี้เราจะฝึกเพื่อเพิ่มความคล่องตัว ให้โฟกัสไปที่การดันเข่าออกมาด้านหน้าในขณะที่เรากำลังย่อตัวลงมา

  1. ให้เริ่มต้นท่านี้ด้วยการยืนกางขาให้กว้างกว่าหัวไหล่เล็กน้อยและตำแหน่งนิ้วเท้าจะเอียงๆออกด้านข้างเล็กน้อย
  2. ประสานมือไว้ที่บริเวณหน้าอก หรือจะใช้วิธีถือดัมเบลก็ได้ , ดันไหล่ไปด้านหลัง , ยกอกขึ้นมา
  3. งอเข่าและสะโพกลงมา จนกระทั่งทั่งขาหลังขนานกับพื้น
  4. งอข้อศอกและดันเข่าออกมาด้านหน้าเล็กน้อย
  5. ยืดเข่าและสะโพกออกแรงดันยกตัวกลับไปสู่ท่าเริ่มต้น
  6. ทำซ้ำให้ได้ 10-12 ครั้ง

3. Walking Lunges With Overhead Reach

  1. ยืนตัวตรงกางขาพอๆกับหัวไหล่ยกแขนชี้ขึ้นตรงทั้งสองข้าง ข้อศอกอยู่เหนือศีรษะ
  2. เกร็งกล้ามเนื้อแกนกลาง ก้าวเท้าขวายาวๆมาด้านหน้า วางเท้าลงบนพื้นข้างหน้าเรา
  3. ในระหว่างการก้าวเท้า งอเข่าทั้งสองข้างลงมา 90 องศา เข่าซ้ายลอยเหนือพื้น ส่วนต้นขาหลังด้านขวาต้องขนานกับพื้น ทำแหน่งเข่าขวาจะต้องไม่ยื่นไปข้างหน้าเกินกว่านิ้วเท้าขวา
  4. ดันเท้าขวาแล้วเดินมาด้านหน้า โดยไม่ให้หยุดระหว่างทาง จากนั้นให้เริ่มต้นท่านี้ใหม่โดยใช้เท้าซ้ายก้าวมาด้านหน้าเลย
  5. ส่วนแขนทั้งสองข้างก็ยกสูงตั้งตรงไว้แบบนั้นตลอดการฝึกท่านี้เลย
  6. ทำสลับข้างไปเรื่อยๆให้ได้ 8-12 ครั้ง

4. Quad Hip Flexor Stretch

ท่านี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับสะโพกของเราและช่วยยืดกล้ามเนื้อควอทไปในตัวเลย

  1. วางกล่องไว้ด้านหลังเรา หรืออาจจะใช้ม้านั่งที่สูงกำลังดีก็ได้
  2. เริ่มด้วยการทำท่า Lunge ขาขวางอ 90 องศา ส่วนขาซ้ายงออยู่ด้านหลังวางปลายเท้าไว้บนกล่อง
  3. ออกแรงกล้ามเนื้อแกนกลาง หลังตั้งตรงวางมือไว้ที่สะโพก
  4. เอนตัวไปด้านหน้า ดันเข่าขวามาด้านหน้า หยุดอยู่กับที่สัก 1-2 วินาที
  5. เคลื่อนตัวกลับมาข้างหลัง จนกว่าก้นจะเข้าไกลส้นเท้าซ้ายแล้วหยุดอยู่กับที่ 1-2 วินาที
  6. ทำซ้ำจนกว่าจะได้ 8-12 ครั้ง
  7. เปลี่ยนข้างแล้วทำซ้ำจนได้ 8-12 ครั้งเช่นกัน

5. Abductor Mobility

  1. เริ่มต้นด้วยท่ายืน 4 ขา ตำแหน่งของไหล่ควรเป็นเส้นตรงอยู่เหนือข้อมือพอดี และตำแหน่งเข่าควรอยู่ใต้สะโพกพอดีด้วย
  2. ยื่นขาขวาไปด้านข้าง วางฝ่าเท้าแนบกับพื้น
  3. ยื่นแขนทั้งสองข้างไปด้านหน้าวางฝ่ามือแนบกับพื้น
  4. หลังต้องตรงตลอดเวลา ลำตัวจะต้องเอียงไปอยู่เหนือขาข้างซ้าย คอยๆดันตัวมานั่งบนส้นเท้าซ้าย ส่วนแขนก็ยื่นไปด้านหน้าให้ไกลกว่าเดิม
  5. เมื่อนั่งลงไปแล้วให้อยู่นิ่งๆสัก 1-2 วินาที
  6. กลับสู่ท่าเดิม ทำซ้ำให้ได้ 8-12 ครั้ง
  7. เปลี่ยนข้างแล้วทำให้ได้ 8-12 ครั้ง

6. Ankle Mobility

พวกเรานักวิ่งมักมีกล้ามเนื้อข้อเท้าแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่วิ่งเอาส้นเท้าลงพื้น การทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้คลายตัวก่อนการวิ่งจะช่วยส่งผลดีต่อความคล่องตัวในการวิ่ง และช่วยแก้ความตึงเครียดที่จะเกิดขึ้นกับส่วนหน้าแข้ง สำหรับท่านี้เราจะยกปลายเท้าขึ้นมานิดนึงให้หาอะไรมาใช้วางปลายเท้าก็ได้

  1. ยืนตัวตรงวางมือไว้ที่สะโพก
  2. ก้าวเท้าซ้ายมาด้านหน้า
  3. ดันเข่าซ้ายไปด้านหน้า เอนตัวตามไปด้านหน้าให้ไกลที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
  4. หยุดนิ่งกับที่สัก 1-2 วินาที
  5. กลับสู่ท่าเริ่มต้น
  6. ทำซ้ำ 8-12 ครั้งทั้งข้างซ้ายและขวาเลย

7. Full Plank Ankle Pump

เราจะฝึกกันต่อด้วยท่าบริหารข้อเท้า เป็นอีกหนึ่งท่าสำหรับเพิ่มความคล่องตัว ซึ่งจะช่วยเพิ่มระยะทางการเคลื่อนไหวในขณะที่ช่วยส่งเสริมท่วงท่าและฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางไปในตัว

  1. เริ่มต้นด้วยท่า Full Plank วางมือไว้กับพื้นยกตัวขึ้นมา มือ , ศอก , ไหล่ต้องเรียงกันตั้งเป็นเส้นตรง ร่างกายเป็นเส้นตรงตั้งแต่หัวจรดเท้า ทิ้งน้ำหนักตัวลงไปที่มือและนิ้วเท้า
  2. นำเท้าซ้ายไปวางที่หลังข้อเท้าขวา
  3. เอนตัวปล่อยน้ำหนักตัวไปด้านหน้าและกลับมาด้านหลัง โดยใช้ข้อเท้าช่วยในการขับเคลื่อน
  4. ทำซ้ำให้ได้ 8-12 ครั้งทั้งสองข้าง

8. Downward Dog Walk out

ท่านี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท่าโยคะ จะช่วยในการสร้างความคล่องตัวให้กับข้อเท้าและกระดูกสันหลังแล้วก็ช่วยยืดกล้ามเนื้อเนื้อและต้นขาหลังไปด้วย

  1. เริ่มต้นด้วยการยืนกางขาเกร็งกล้ามเนื้อแกนกลาง
  2. นำมือวางลงกับพื้นใช้มือเดินมาด้านหน้าจนเราอยู่ในท่า Full Plank 
  3. ดันก้นยกขึ้นมาจนกระทั่งเราทำตัวเป็นรูปตัว V คว่ำ ปล่อยศีรษะลงมาต่ำกว่าข้อศอก
  4. พยายามดันส้นเท้าเข้าหาพื้นเพื่อยืดกล้ามเนื้อน่อง โดยให้หยุดอยู่นิ่งๆ 1-2 วินาที
  5. กลับสู่ท่า Full Plank
  6. ใช้มือเดินถอยหลังกลับมาแล้วยกตัวขึ้นยืนกลับไปสู่ท่าเริ่มต้น
  7. ทำซ้ำ 8-12 ครั้ง

9. Squat to Stand

  1. ยืนตัวตรงกางขาให้กว้างเท้าหัวไหล่
  2. ก้มเอวลงมาเอามือจับใต้ปลายนิ้วเท้า ซึ่งจะทำให้เราต้องงอเข่าลงมา
  3. ใช้แขนดึงตัวเพื่อทำท่า Squat ลึกลงมา ยกอกขึ้น
  4. ยืดเข่า , มือจับปลายนิ้วเท้าไว้ , ก้มหัวลง , งอหลังเล็กน้อย
  5. ทำซ้ำให้ได้ 8-12 ครั้ง

10. Hip Rotation

  1. นอนหงายแล้วงอเข่า 90 องศา ขาส่วนล่างยกขึ้นมาให้ขนานกับพื้น
  2. ยื่นแขนออกด้านข้างจนกลายเป็นรูปตัว T
  3. วางหัวไหล่ติดพื้นตลอดเวลา หมุนลำตัวส่วนล่างตั้งแต่บริเวณสะโพกและเคลื่อนขาเข้าหาพื้น จนกระทั่งเกือบทำให้หัวไหล่ยกขึ้นจากพื้น
  4. เอนตัวกลับมาตรงกลางหมุนตัวไปอีกข้าง
  5. ทำซ้ำให้ได้ 8-12 ครั้ง

11. Shoulder Blade Squeezes

ท่านี้จะมีการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ และเป็นการฝึกท่า Wall Slide โดยไม่ต้องเอาตัวติดกำแพง เป็นท่าที่ดีต่อหัวไหล่ของนักวิ่ง

  1. วางเข่าลงบนพื้นยกหลังตรงยกอกขึ้น
  2. งอศอก 90 องศา ยกศอกออกไปด้านข้างลำตัว ในระดับความสูงเดียวกับหัวไหล่
  3. ดันหัวไหล่ทั้งสองข้างเข้าหากัน
  4. ค่อยๆยกแขนขึ้นมาเหนือศีรษะ ยกค้างไว้ 1-2 วินาที
  5. นำแขนกลับลงมาช้าๆ เกร็งหัวไหล่ตลอดเวลา พยายามดึงหัวไหล่เข้าหากัน
  6. ทำซ้ำ 8-12 ครั้ง

แหล่งที่มา :


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: Dynamic StretchExercisesstrength trainingworkoutท่าฝึกกล้ามเนื้อท่ายืดกล้ามเนื้อท่ายืดเหยียดท่าออกกำลังกาย
Previous Post

โปรแกรมการฝึกวิ่ง 10K สำหรับนักวิ่งมือใหม่

Next Post

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่

thip

thip

Related Posts

เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

5 เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

14/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ป้องกันการบาดเจ็บ

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง เพื่อลดโอกาสบาดเจ็บ

11/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง นักวิ่ง

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง สำหรับนักวิ่ง

04/06/2025
5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

22/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

19/05/2025
ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

5 ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

16/05/2025
Next Post
โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 33.7k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

เนินงูเขียว ตั้งชื่อตาม นักวิ่งสายอัลตร้า "พี่งูเขียว" 

เนินงูเขียว ตั้งชื่อตาม นักวิ่งสายอัลตร้า “พี่งูเขียว” ?

by VRUN VRIDE
09/12/2018

โปรแกรมการฝึกปั่นจักรยาน 100 กม. เป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์

โปรแกรมการฝึกปั่นจักรยาน 100 กม. เป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์

by thip
06/08/2020

เกาะติดเทรนด์รองเท้าวิ่งปี 2020

เกาะติดเทรนด์รองเท้าวิ่งปี 2020 ครบทุกแบรนด์ชั้นนำจากงาน The Running Event (TRE)

by thip
02/01/2020

ชีวิตในมุมนักวิ่งของ Ronnie O Sullivan

ชีวิตในมุมนักวิ่งของ Ronnie O Sullivan

by VRUN VRIDE
31/08/2019

คลิปสอนออกกำลังกาย วันละ 5 นาที สำหรับคนที่ Work From Home

คลิปสอนออกกำลังกาย วันละ 5 นาที สำหรับคนที่ Work From Home

by thip
26/01/2021

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (370)
  • News (874)
  • Review (126)
  • Running (941)
  • Stories (201)
  • Training (462)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี