ออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็น อันไหนดีต่อการลดน้ำหนักมากกว่ากัน

งานวิจัยใหม่พบว่า ช่วงเวลาในการออกกำลังกายอาจสร้างความแตกต่างในการลดน้ำหนักได้ สิ่งที่ยากสำหรับการลดน้ำหนัก คือการทำให้มันต่อเนื่อง และป้องกันการเกิดโยโย่เอฟเฟคซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ ผลการวิจัยที่ผ่านมาพบว่าการออกกำลังกายคือกุญแจหลักในการลดน้ำหนัก แต่ปัญหาคือผู้คนจะสามารถบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร?

และนั่นก็ทำให้นักวิจัยจากรัฐโคโลราโด จึงได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับกิจกรรมในแต่ละสัปดาห์ของกลุ่มคนที่สามารถบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องได้ และดูว่าช่วงเวลาไหนที่กลุ่มคนเหล่านี้ใช้เวลาออกกำลังกายมากที่สุด และพวกเขาก็ได้ค้นพบรูปแบบที่เหมาะสม พวกเขาพบว่าคนกลุ่มนี้มักออกกำลังกายในตอนเช้าและจะออกกำลังกายอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์

Seth Creasy จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด กล่าวว่า การวิจัยนี้ได้แสดงให้เห็นความสำคัญของการออกกำลังกายต่อการควบคุมน้ำหนัก เขาบอกว่าเมื่อเทียบ กลุ่มอาสาสมัครสองกลุ่มจะพบว่า กลุ่มที่ลดน้ำหนักได้จะมีช่วงเวลาที่ออกกำลังกายเกือบทุกวันในสัปดาห์ และเป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายมาก หมายความว่า ถึงแม้ว่าวันไหนพวกเขาจะติดตารางงานจนออกกำลังกายไม่ได้ พวกเขาก็จะหากิจกรรมอื่นที่จะทำให้ตัวเองต้องออกกำลังกายตลอดทั้งวันเพื่อชดเชย

“การวิจัยพบว่ากลุ่มคนที่ออกกำลังกายตอนเช้าจะเห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด”

Seth Creasy ได้ขึ้นพูดในงาน ObesityWeek ซึ่งเป็นงานที่ถูกจัดขึ้นปีละครั้ง เขารายงานกว่ากลุ่มอาสาสมัครที่มีการออกกำลังกายเป็นประจำจะเริ่มออกกำลังกายภายในช่วงเวลา 3 ชั่วโมงหลังตื่นตอน และจะมีกิจกรรมให้ตัวเองทำในช่วงวันหยุดด้วย

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงการวิจัยเล็กๆโดยมีกลุ่มอาสาสมัครที่เข้าร่วมเพียง 30 คน แต่เขาก็เชื่อว่าการออกกำลังกายตอนเช้าสร้างความสำเร็จให้กับกลุ่มคนที่กำลังลดน้ำหนักได้มากกว่าการออกกำลังกายตอนเย็น เป็นเพราะว่าในช่วงเช้าจะมีอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการออกกำลังกายน้อยมาก เช่น การมีนัดประชุม เป็นต้น

เขายังกล่าวอีกว่า สำหรับคนที่ไม่สามารถออกกำลังกายตอนเช้าได้นั้น ตราบใดที่ยังให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายทุกวัน และสร้างพฤติกรรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเอง ก็ยังสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จเช่นกัน