“ตูน บอดี้แสลม” และ “ไนกี้”
เตรียมความพร้อมสำหรับโปรเจค “ก้าว”
ก่อนเริ่มเดินทางไกล จากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ทางตอนใต้ของประเทศ
ไปจนถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายทางภาคเหนือของประเทศ ระะยะทาง 2,191 กิโลเมตร ในเวลา 55 วัน
“ตูน บอดี้แสลม” และ “ไนกี้”
เตรียมความพร้อมสำหรับโปรเจค “ก้าว” ในเรื่องอะไรกันบ้าง เรามาดูกัน
ตูน ออกเดินทางไปยัง รัฐโอรีกอน ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของไนกี้ เพื่อพบกับ ผู้เชี่ยวชาญ และทีมงาน Breaking 2 ของ Nike Sports Research Lab หรือ NSRL ที่เพิ่งเสร็จสิ้นโปรเจคการท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์ พังกำแพง วิ่งมาราธอนในเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมง (เสียดายที่ยังไม่สำเร็จ)
ทีมงานได้วิเคราะห์ร่างกายของตูน โดยจำลองสภาพอากาศจากประเทศไทย (ร้อนชื้น) รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ใส่ในการวิ่งจริงๆ เพื่อเก็บข้อมูล ทั้งความเร็วในการวิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาณน้ำ และแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการ รวมไปถึงการพักฟื้นซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
สิ่งที่ทีมงาน Breaking 2 ได้ค้นพบ และให้คำแนะนำแก่ตูน คือ
- ผู้เชี่ยวชาญ ด้านรองเท้าของไนกี้ แนะนำให้ตูน สลับใช้รองเท้าทั้งหมด 5 คู่ ไม่ว่าจะเป็น Nike Zoom Fly หรือ Nike Zoom Vaporfly 4% ตลอดการวิ่ง 55 วัน
- นักวิทยาศาสตร์ ได้สร้างแผนการวิ่ง โดยกำหนดว่าควรจะดื่มน้ำเมื่อไหร่ ปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด แต่ตอนนี้แผนอาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง
เนื่องจากมีประชาชนให้การต้อนรับตูนอย่างอบอุ่นตลอดเส้นทาง - เพื่อชดเชยพลังงานที่ใช้ในการวิ่งวันละ 50 กิโลเมตร ต่อเนื่อง 55 วัน
นักวิทยาศาสตร์ได้แนะนำ ให้รับประทานข้าวอบกรอบรสน้ำผึ้ง และแยมโรลชิ้นเล็กๆ ระหว่างการวิ่ง
นอกจากนี้ ชุดเซ็นเซอร์ที่ติดอยู่ตรงต้นแขนด้านขวาของตูน จะบันทึก พร้อมจัดส่งข้อมูลจากร่างกายของเขาในทุก ๆ ก้าว ทุกการตอบสนอง และจะนำมาวิเคราะห์กับตูนทุกๆ 2-3 สัปดาห์
“ความมุ่งมั่นของไนกี้ในการช่วยเพิ่มศักยภาพของผมในครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมพยายามมากขึ้นไปอีก” ตูนกล่าว
ไม่ได้มีอะไรรอเขาอยู่ที่เส้นชัย แต่เขาก็ไม่ได้วิ่งเพื่อตนเอง ตูน กำลังวิ่งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยด้วยการระดมทุนครั้งใหญ่ 700 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาล ศูนย์ทั้ง 11 แห่งในประเทศไทย
และวันที่ 25 ธันวาคม 2560 เราคงได้จารึก ชื่อของ “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” เป็นบันทึกอีก 1 บทของประวัติศาสตร์ไทย ไม่ใช่ในฐานะนักดนตรีชื่อดัง แต่เป็นฐานะของวีรบุรุษที่อุทิศ แรงกาย และแรงใจ ระดมเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยอีกนับล้านคน
ติดตามการเดินทางไกลของเขาต่อไปได้ที่ https://www.facebook.com/kaokonlakao/