7 ผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ของวิตามิน C
วิตามิน C เป็นหนึ่งในบรรดาวิตามินที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุด เป็นสารอาหารยอดนิยมสำหรับการส่งเสริมภูมิคุ้มกัน แต่การที่มันทำให้ระยะเวลาในการเป็นหวัดของเราน้อยลง ก็ยังไม่สามารถเทียบกับผลลัพธ์อื่นที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย
ร่างกายเราไม่สามารถสังเคราะห์สารต้านอนุมูลอิสระนี้ขี้นเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น ซึ่งเราก็มักจะพบได้ในพริกหวานสีเขียวหรือสีแดง , ในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว , กีวี่ , บล็อคโคลี่ , มะเขือเทศและกระหล่ำดาว
ผู้หญิงวัยกลางคนควรได้รับวิตามิน C จำนวน 75 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนผู้ชายควรได้รับ 90 มิลลิกรัมต่อวัน และจากนี้ไปจะขอกล่าวถึงประโยชน์ที่เราได้รับจากวิตามินชนิดนี้ 7 ผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ของวิตามิน C มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน
ร่างกายต้องใช้วิตามิน C ในการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งพบได้ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทั่วร่างกาย สถาบันสุขภาพแห่งชาติของประเทศอเมริการะบุว่า การได้รับวิตามิน C อย่างเพียงพอสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจน
คอลลาเจน คือ โปรตีนที่พบได้มากที่สุดในร่างกายและมีบทบาทสำคัญต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งพบได้ในอวัยวะภายใน รวมไปถึงเส้นผม ผิวหนัง และในเล็บของเรา

เพื่อนๆ คงรู้จักคอลลาเจนในฐานะตัวช่วยลดความเหี่ยวย่นของผิวหนัง ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามเคยบอกพวกเรา การวิจัยในปี ค.ศ.2005 พบว่าการทาผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามิน C บนผิวหนังเป็นประจำ สามารถช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนและทำให้ผิวดูอ่อนวัยขึ้นได้ การสังเคราะห์คอลลาเจนได้มากขึ้นหมายความว่า วิตามิน C ช่วยในการสมานแผลได้ด้วยซึ่งนี่เป็นข้อมูลจากมหาวิทยาลัยรัฐโอเรกอน
2. วิตามิน C ช่วยให้ดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
อีกหนึ่งความสามารถของวิตามิน C คือ เมื่อมันไปรวมกับวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ธาตุเหล็ก จะทำให้สามารถดูดซึมได้ดีขึ้น ธาตุเหล็กมีส่วนในการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย ช่วยขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย และช่วยในการผลิตฮอร์โมนบางชนิด ธาตุเหล็กประเภท Nonheme iron ซึ่งพบได้ในพืชมักจะดูดซึมได้ยาก แต่เมื่อมารวมกับวิตามิน C ก็จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้มากกว่าเดิม
3. มีบทบาทในการส่งเสริมระบบการทำงานของสมอง

วิตามิน C มีบทบาทในการการสังเคราะห์สารสื่อประสาทและการทำงานในแบบความรู้ความเข้าใจ (cognitive function) สารสื่อประสาทมีความสำคัญต่อการส่งสัญญาณจากสมองไปยังส่วนอื่นของร่างกาย และการได้รับวิตามิน C มากขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองที่ดีขึ้น การวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Nutrients เมื่อปี ค.ศ.2017 ระบุว่าพวกอาสาสมัครที่สติปัญญายังปกติดีอยู่ จะมีปริมาณวิตามิน C ในร่างกายมากกว่าพวกอาสาสมัครที่มีความรู้ความเข้าใจบกพร่อง
4. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเราจากโรคเรื้อรัง
ประโยชน์หลายอย่างของวิตามิน C เกิดขึ้นจากการที่มันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระนี่ล่ะ มันจะคอยต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะคอยทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์และเนื้อเยื่อ สารต้านอนุมูลอิสระสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจได้ ถึงแม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเรื่องนี้กับร่างกายคนอีก แต่ก็มั่นใจได้ว่ามันจะช่วยในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
5. วิตามิน C ทำให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้น

คุณประโยชน์ที่คนรู้จักมากที่สุดของวิตามิน C ก็คือ ผลลัพธ์ด้านบวกที่มีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Nutrients เมื่อปี ค.ศ.2017 ระบุว่า วิตามิน C จะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันด้วยการคอยต่อต้านภาวะเครียดออกซิเดชั่น (Oxidative stress) , คอยช่วยฆ่าจุลินทรีย์ และลดความสามารถในการสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ การขาดวิตามิน C จะเพิ่มอัตราการติดเชื้อ การทานวิตามิน C หลังจากเป็นหวัดไปเรียบร้อยแล้วจะไม่ช่วยแก้หวัด แต่จะช่วยลดระยะเวลาในการเป็นหวัดลง
6. วิตามิน C อาจจะเป็นตัวช่วยสนับสนุนการรักษามะเร็ง
การทานอาหารที่มีวิตามิน C สูง สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งบางชนิด แต่การวิจัยยังไม่แน่ชัดว่า เกิดจากตัววิตามิน C หรือเกิดจากการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพกันแน่ โดยรวมแล้วการวิจัยยังสรุปไม่ได้ว่าวิตามิน C ช่วยป้องกันมะเร็งได้หรือไม่ ผลการวิจัยในวารสาร Korean Journal of Family Medicine เมื่อปี ค.ศ.2015 ก็ยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างอาหารเสริมวิตามิน C กับการป้องกันโรคมะเร็ง
แต่ดูเหมือนว่าวิตามิน C จะช่วยให้การฉายรังสีและเคมีบำบัดได้ผลดีขึ้น เมื่อได้รับเข้าไปในปริมาณมาก ผลการวิจัยของเมื่อปี ค.ศ.2019 พบว่าการได้รับวิตามิน C จำนวนมากสามารถช่วยในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็งเต้านมเมื่อใช้ร่วมกับยาต่อต้านมะเร็ง โดยพวกอาสาสมัครจะได้รับวิตามิน C ในจำนวนมาก ซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถหาเองได้จากการทานอาหารหรืออาหารเสริมที่บ้าน แต่อย่างไรก็ตามมันก็ช่วยได้กับมะเร็งแค่บางชนิดและขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายโดยรวมด้วย
7. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องดวงตา

สมาคมทัศนมาตรศาสตร์ของประเทศอเมริการะบุว่า วิตามิน C สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจก แถมยังช่วยชะลอการเกิดอาการจอประสาทตาเสื่อมของดวงตาซึ่งจะเกิดขึ้นตามอายุที่มากขึ้น โดยจะใช้ได้ผลกับคนที่ได้รับวิตามิน C วันละ 500 มิลลิกรัม นั่นเป็นเพราะคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของมันนั่นเอง และแน่นอนว่าเราควรที่จะไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องตาก่อนตัดสินใจทานอาหารเสริมวิตามิน C ในระยะยาว
ที่มา : https://bit.ly/3q0Qi0a
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming