วันอังคาร, พฤศจิกายน 11, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน เพื่อทำเวลาในการวิ่ง 4 ชั่วโมง

thip by thip
29/02/2024
in Running, Training
0
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน เพื่อทำเวลาในการวิ่ง 4 ชั่วโมง

Image by onlyyouqj on Freepik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

การวิ่งมาราธอนให้ถึงเส้นชัยได้ภายใน 4 ชั่วโมง หมายความว่าเราต้องรักษาระดับความเร็วในการวิ่งให้ได้ 5 นาที 40 วินาที ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร และคนที่จะใช้โปรแกรมฝึกนี้ได้ ควรเป็นคนที่สามารถทำเวลาในการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนได้ใน 1 ชั่วโมง 50 นาที

สำหรับในช่วง 4 สัปดาห์แรก เราจะฝึกกันในวันอังคาร วันพฤหัส และวันอาทิตย์ และในสัปดาห์ที่เหลือเราจะฝึกกันในวันพุธ วันเสาร์ และวันอาทิตย์

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน Sub-4 12 สัปดาห์

Image by onlyyouqj on Freepik

สัปดาห์ที่ 1

  • วันอังคาร : เราจะฝึกวิ่ง 1 ชั่วโมงแบบต่อเนื่อง ให้วิ่งในระดับที่สามารถพูดไปวิ่งไปได้โดยไม่หอบ หากว่าจำเป็นก็ให้วิ่งช้าลงอีก หากมีนาฬิกาออกกำลังกายก็ให้พยายามวิ่งโดยใช้ Max Heart Rate 70% และอย่าให้เกิน 75%
  • วันพฤหัส : วิ่งจ็อกกิ้ง 1 ชั่วโมงในเส้นทางลาดชัน มันจะช่วยให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรงขึ้น แถมยังเพิ่มสีสันในการฝึกป้องกันไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย หากจำเป็นต้องลดความเร็วในการวิ่งก็ทำได้ ส่วน Max Heart Rate  ก็เอาให้ได้ในช่วง 70% ถึง 75% เหมือนเดิม
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 1 ชั่วโมง 30 นาที ให้วิ่งในระดับที่สามารถพูดไปวิ่งไปได้โดยไม่หอบ ส่วน Max Heart Rate ก็เหมือนเดิม สำหรับการวิ่งระยะไกลควรมีการจิบน้ำทุก 20 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายมีอาการขาดน้ำ และถ้าหากจำเป็นต้องลดความเร็วในการวิ่งก็ทำไปเลย 

สัปดาห์ที่ 2

  • วันอังคาร : วิ่งจ๊อกกิ้งในเล้นทางลาดชัน 1 ชั่วโมง วิ่งสบายๆ ในระดับที่พูดไปวิ่งไปได้ ส่วน Max Heart Rate ก็อยู่ในระดับ 70-75%
  • วันพฤหัส : วิ่ง 2 กิโลเมตร 3 รอบ เริ่มต้นด้วยการวิ่งจ็อกกิ้ง 40 นาที แล้วจึงฝึกวิ่ง 2 กิโลเมตร 3 รอบ โดยใช้เพซ 5 นาที 35 วินาทีต่อ 1 กิโลเมตร  หรือใช้เพซ 10.75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (หลังการวิ่งแต่ละรอบให้วิ่งเบาๆ 4 นาทีเป็นการพัก) ฝึกเสร็จแล้วอย่าลืมดื่มน้ำแล้วก็ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ ด้วย
  • วันอาทิตย์ : ฝึกวิ่งระยะไกลบนถนน 1 ชั่วโมง 45 นาที ให้วิ่งในระดับที่สามารถวิ่งไปคุยไปได้ ควรจิบน้ำทุก 20 นาที ฝึกวิ่งในชุดวิ่งมาราธอนไปด้วยเลยยิ่งดี ส่วน Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 65-70% หลังการฝึกอย่าลืมดื่มน้ำและยืดกล้ามเนื้อเบาๆ

สัปดาห์ที่ 3

  • วันอังคาร :  วันนี้ให้วิ่งจ็อกกิ้ง 1 ชั่วโมง 15 นาที ในระดับที่วิ่งไปคุยไปได้ และถ้าเป็นไปได้ให้เลือกเส้นทางที่ต้องวิ่งขึ้นเนินเพื่อโทนกล้ามเนื้อขา หากจำเป็นต้องลดความเร็วลงอีกก็ทำได้เลย Max Heart Rate จะอยู่ที่ 70-75%
  • วันพฤหัส : วันนี้วิ่ง 3 กิโลเมตร 3 รอบ วิ่งโดยใช้เพซ 10.75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 4 นาที และปิดท้ายการฝึกด้วยการวิ่งคูลดาวน์ 5 นาที
  • วันอาทิตย์ :  วันนี้ฝึกวิ่ง 2 ชั่วโมงในระดับที่สามารถวิ่งไปคุยไปได้โดยไม่หอบ จะต้องมีการจิบน้ำทุก 20 นาที ส่วน Max Heart Rate จะอยู่ที่ 65-70%ในวันนี้ก็ให้ทดลองใช้อุปกรณ์การวิ่งต่างๆ ไปเลย และถ้าจะเป็นต้องลดความเร็วในการวิ่งก็ทำได้เลย หลังการฝึกวิ่งระยะไกลอย่าลืมดื่มน้ำแล้วก็ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ

สัปดาห์ที่ 4

  • วันอังคาร : วิ่งจ็อกกิ้ง 1 ชั่วโมงบนถนนราบเรียบ วิ่งในระดับสบายๆ ระดับที่วิ่งไปพูดคุยไปด้วยได้ สำหรับ ส่วน Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 70-75%
  • วันพฤหัส : วันนี้พักร่างกาย ไม่ต้องทำอะไรเลย
  • วันอาทิตย์ : วิ่งจ็อกกิ้งในเส้นทางขึ้นเนิน 1 ชั่วโมง ส่วน Max Heart Rate   70-75% 

สัปดาห์ที่ 5

  • วันพุธ : วิ่ง 1 ชั่วโมง 30 นาที บนเส้นทางขึ้นเนิน ให้วิ่งในระดับที่พูดไปวิ่งไปได้ Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 70-75% ระหว่างการวิ่งระยะไกลควรจิบน้ำทุก 20 นาที
  • วันเสาร์ : เริ่มต้นด้วยการวิ่งวอร์มอัพเบาๆ 30 นาที  จากนั้นให้ฝึกวิ่ง 2 กิโลเมตร 5 รอบ ใช้เพซ 10.75 กม./ชั่วโมง หลังการวิ่งแต่ละรอบให้วิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ 3 นาที  พอฝึกครบ 5 รอบแล้วให้วิ่งเบาๆ ต่ออีก 5 นาทีเป็นการคูลดาวน์
  • วันอาทิตย์ : วิ่งบนถนน 1 ชั่วโมง 40 นาที Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 65-70% อย่าลืมจิบน้ำทุก 20 นาทีด้วย และเมื่อจบการฝึกในแต่ละวันอย่าลืมเติมน้ำเข้าร่างกายกันด้วย

สัปดาห์ที่ 6

  • วันพุธ : วิ่ง 1 ชั่วโมง 30 นาที บนเส้นทางขึ้นเนิน ให้วิ่งในระดับที่พูดไปวิ่งไปได้ และอย่าลืมจิบน้ำทุก 20 นาที
  • วันเสาร์ : เริ่มต้นด้วยการวิ่งวอร์มอัพเบาๆ 20 นาที จากนั้นให้ฝึก วิ่ง 4 กิโลเมตร 3 รอบ ใช้เพซ 10.75 กม./ชั่วโมง หลังการวิ่งแต่ละรอบให้วิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ 4 นาที  พอฝึกครบ 3 รอบแล้วให้วิ่งเบาๆ ต่ออีก 5 นาทีเป็นการคูลดาวน์
  • วันอาทิตย์ : วิ่งบนถนน 1 ชั่วโมง 50 นาที Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 65-70% อย่าลืมจิบน้ำทุก 20 นาที และถ้าเหนื่อยก็ให้ลดความเร็วลง
Image by onlyyouqj on Freepik

สัปดาห์ที่ 7 

  • วันพุธ : วิ่ง 1 ชั่วโมง 30 นาที บนเส้นทางขึ้นเนิน ให้วิ่งในระดับที่พูดไปวิ่งไปได้ และอย่าลืมจิบน้ำทุก 20 นาที วิ่งโดยใช้ Max Heart Rate ที่ 70-75%
  • วันเสาร์ : เริ่มต้นด้วยการวิ่งวอร์มอัพเบาๆ 20 นาที จากนั้นให้ฝึก วิ่ง 5 กิโลเมตร 3 รอบ ใช้เพซ 10.75 กม./ชั่วโมง หลังการวิ่งแต่ละรอบให้วิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ 5 นาที  พอฝึกครบ 5 รอบแล้วให้วิ่งเบาๆ ต่ออีก 5 นาทีเป็นการคูลดาวน์
  • วันอาทิตย์ : วิ่งบนถนน 2 ชั่วโมง 15 นาที Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 65-70% อย่าลืมจิบน้ำทุก 20 นาที และถ้าเหนื่อยก็ให้ลดความเร็วลง ไหนๆ ก็ฝึกวิ่งระยะไกลแล้วก็อย่าลืมทดสอบอุปกรณ์การวิ่งในวันนี้ไปด้วยเลย

สัปดาห์ที่ 8

ในสัปดาห์นี้จะลดความยากในการฝึกลงเพื่อฟื้นร่างกาย

  • วันพุธ : วิ่งจ็อกกิ้ง 1 ชั่วโมง 15 นาที Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 70-75% 
  • วันเสาร์ : พัก วันนี้ห้ามทำอะไรทั้งนั้น
  • วันอาทิตย์ :วิ่งจ็อกกิ้ง 1 ชั่วโมง 15 นาที Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 70-75% 

สัปดาห์ที่ 9 

วันไหนวิ่งนานเป็นชั่วโมงอย่าลืมจิบน้ำทุก 20 นาที

  • วันพุธ : วิ่ง 1 ชั่วโมง 30 นาที บนเส้นทางขึ้นเนิน ให้วิ่งในระดับที่พูดไปวิ่งไปได้ Max Heart Rate จะอยู่ที่ 70-75%
  • วันเสาร์ : เริ่มต้นด้วยการวิ่งวอร์มอัพเบาๆ 20 นาที จากนั้นให้ฝึก วิ่ง 3 กิโลเมตร 4 รอบ ใช้เพซ 10.75 กม./ชั่วโมง หรือ 5 นาที 35 วินาที/ชั่วโมง หลังการวิ่งแต่ละรอบให้วิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ 4 นาที  พอฝึกครบ 4 รอบแล้วให้วิ่งเบาๆ ต่ออีก 5 นาทีเป็นการคูลดาวน์
  • วันอาทิตย์ : วิ่งบนถนน 2 ชั่วโมง 15 นาที Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 65-70% 

สัปดาห์ที่ 10

วันไหนวิ่งนานเป็นชั่วโมงอย่าลืมจิบน้ำทุก 20 นาที

  • วันพุธ : วิ่งวอร์มอัพ 20 นาที จากนั้นวิ่งเร็ว 5 กิโลเมตร แต่วิ่งในระดับที่ไม่ทำให้หอบ (Max Heart Rate จะอยู่ที่ 65-70%) ให้วิ่งโดยใช้เพซ 5 กิโลบเมตร/ชั่วโมง และให้จบการฝึกด้วยการวิ่งสบายๆ 15 นาที
  • วันเสาร์ : เริ่มต้นด้วยการวิ่งวอร์มอัพเบาๆ 20 นาที จากนั้นให้ฝึก วิ่ง 4 กิโลเมตร 2 รอบ ใช้เพซ 10.75 กม./ชั่วโมง หรือ5 นาที 35 วินาที/ชั่วโมง  หลังการวิ่งแต่ละรอบให้วิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ 3 นาที  พอฝึกครบ 2 รอบแล้วให้วิ่งเบาๆต่ออีก 5 นาทีเป็นการคูลดาวน์
  • วันอาทิตย์ : วิ่งบนถนน 1 ชั่วโมง 30 นาที Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 70-75% 

สัปดาห์ที่ 11

  • วันพุธ : วิ่งจ็อกกิ้ง 1 ชั่วโมง ในระดับที่หายใจสบายๆ  Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 70-75%
  • วันเสาร์ : เริ่มต้นด้วยการวิ่งวอร์มอัพเบาๆ 20 นาที จากนั้นให้ฝึก วิ่ง 3 กิโลเมตร 2 รอบ ใช้เพซ 10.75 กม./ชั่วโมง หรือ5 นาที 35 วินาที/ชั่วโมง  หลังการวิ่งแต่ละรอบให้วิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ 3 นาที  พอฝึกครบ 2 รอบแล้วให้วิ่งเบาๆต่ออีก 5 นาทีเป็นการคูลดาวน์
  • วันอาทิตย์ : วิ่งจ็อกกิ้ง 1 ชั่วโมง ในระดับที่หายใจสบายๆ  Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 70-75%

สัปดาห์ที่ 12

  • วันพุธ : วิ่งจ็อกกิ้ง 1 ชั่วโมง ในระดับที่หายใจสบายๆ  Max Heart Rate ในวันนี้จะอยู่ที่ 70-75%
  • วันเสาร์ : พัก
  • วันอาทิตย์ : วันลงแข่งจริงขอให้ทุกคนโชคดี พยายามไปให้ถึงก่อนเริ่มการแข่งประมาณ 10-15 นาที

ในช่วงพึ่งเริ่มการแข่งให้วอร์มอัพ 10 นาทีด้วยการเดินเร็วสลับกับการวิ่งช้าไปเรื่อยๆ ระหว่างการแข่งอย่าวิ่งเร็วเกินไป เพราะอาจทำให้หมดแรงในช่วงปลายทาง ให้ออมแรงไว้ก่อนรอให้ถึงช่วง 5 กิโลเมตรสุดท้ายแล้วค่อยเร่งความเร็ว

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3UgJsqk


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: MarathonMarathon PlanMarathon Training PlanrunningRunning PlanRunning ProgramRunning Training Planตารางซ้อมวิ่งตารางซ้อมวิ่งมาราธอนตารางฝึกวิ่งตารางวิ่งมาราธอนวิ่งแผนซ้อมวิ่งแผนซ้อมวิ่งมาราธอนแผนฝึกวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอนโปรแกรมฝึกวิ่ง
Previous Post

โปรแกรมฝึกวิ่ง ฮาล์ฟมาราธอน เพื่อทำเวลาให้ได้ภายใน 2 ชั่วโมง

Next Post

อาดิดาสยึดจอ Digital Billboard ทั่วกรุงเทพ ส่งต่อแรงบันดาลใจจากเหล่านักกีฬาระดับโลก พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนเอาชนะความกดดันและสนุกไปกับการเล่นกีฬา

thip

thip

Related Posts

4 รูปแบบการฝึก Speed Workouts เพิ่มความเร็วในการวิ่งสำหรับนักวิ่งทุกระดับ

4 รูปแบบการฝึก Speed Workouts เพิ่มความเร็วในการวิ่งสำหรับนักวิ่งทุกระดับ

09/11/2025
คู่มือฝึกวิ่งเทมโป (Tempo Run) ฉบับสมบูรณ์ | เทคนิคฝึกวิ่งเร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

คู่มือฝึกวิ่งเทมโป (Tempo Run) ฉบับสมบูรณ์ | เทคนิคฝึกวิ่งเร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

02/11/2025
โปรแกรมฝึก Speed Workout สำหรับนักวิ่ง

7 โปรแกรมฝึก Speed Workout สำหรับนักวิ่ง เพิ่มความเร็ว วิ่งไวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

31/10/2025
6 ท่าออกกำลังกายด้วยกล่องกระโดด PLYO BOX เพิ่มพลังขา เสริมความฟิตสำหรับนักวิ่ง

6 ท่าออกกำลังกายด้วยกล่องกระโดด PLYO BOX เพิ่มพลังขา เสริมความฟิตสำหรับนักวิ่ง

29/10/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่ ฝึกตามได้ วิ่งถึงเส้นชัยแน่นอน

27/10/2025
ท่าดริล สำหรับนักวิ่ง ช่วยเพิ่มความเร็ว

8 ท่าดริล เพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

25/10/2025
Next Post
อาดิดาสยึดจอ Digital Billboard ทั่วกรุงเทพ ส่งต่อแรงบันดาลใจจากเหล่านักกีฬาระดับโลก

อาดิดาสยึดจอ Digital Billboard ทั่วกรุงเทพ ส่งต่อแรงบันดาลใจจากเหล่านักกีฬาระดับโลก พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนเอาชนะความกดดันและสนุกไปกับการเล่นกีฬา

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 43.6k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

กาแฟ ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันได้หรือไม่?

กาแฟ ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันได้หรือไม่?

by thip
06/06/2019

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10k ภายใน 6 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10k ภายใน 6 สัปดาห์ และ 7 เคล็ดลับจากมืออาชีพ

by thip
31/12/2023

10 อันดับ จักรยานยอดนิยม ปี 2021 (อัปเดตล่าสุด มกราคม)

10 อันดับ จักรยานยอดนิยม ปี 2021 (อัปเดตล่าสุด มกราคม)

by thip
18/01/2021

[รีวิว] adidas Pure Boost ZG Prime Knit

[รีวิว] adidas Pure Boost ZG Prime Knit

by OUTRUN
06/07/2018

ASICS NOVABLAST มาแล้ว 8 สี พร้อมโฟมรุ่นใหม่ FLYTEFOAM BLAST

ASICS NOVABLAST มาแล้ว 8 สี พร้อมโฟมรุ่นใหม่ FLYTEFOAM BLAST

by thip
29/02/2020

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (173)
  • Fitness & Health (377)
  • News (897)
  • Review (126)
  • Running (961)
  • Stories (201)
  • Training (482)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี