มันจะทำให้เราเร็วขึ้นรึเปล่า? ในบางผลการวิจัยมีการพบว่า Intermittent Fasting ช่วยเพิ่มพละกำลัง , เผาผลาญไขมันและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย Intermittent Fasting (IF) มันไม่ใช่การอดอาหารแต่มันเป็นการรับประทานอาหารเฉพาะในช่วงเวลาที่จำกัดเอาไว้ การ (IF) แบบพื้นฐานนั้นเราจะต้องมีระยะเวลาในการ (IF) อย่างน้อย 12 ชั่วโมง คือมีช่วงเวลาที่ทานอาหารได้ 12 ชั่วโมงและอีก 12 ชั่วโมงห้ามทานอะไรที่มีแคลอรี่ แต่ ดร.Satchin Panda ศาสตราจารย์ของสถาบันการศึกษาทางชีวภาพ Salk แนะนำว่าเราควรทำ IF วันละ 14-16 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด เพราะมันจะช่วยเพิ่มความอดทนให้แก่กล้ามเนื้อ
ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน
การออกกำลังกายในช่วงที่เรากำลัง Fasting อยู่นั้น เป็นการบังคับร่างกายให้เอาพลังงานมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายสะสมเอาไว้จะเริ่มหมดไปหลังจากที่เรา Fasting ไปได้ประมาณ 12-16 ชั่วโมง การ Fasting ทำให้ร่างการเปิดการทำงานของระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System-SNS) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการตอบสนองว่าจะสู้หรือหนี เมื่อระบบ SNS ถูกเปิดใช้งาน หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น , การย่อยอาหารจะช้าลง , และมีความตึงเครียดในกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าเราออกกำลังกายในช่วงที่กำลัง Fasting ก็จะไปเพิ่มการย่อยสลายไขมันเอามาเป็นพลังงานอัตราการเผาผลาญไขมันของเราจะเพิ่มขึ้นนานถึง 24 ชั่วโมงหลังจากการออกกำลังกายในช่วงเวลาที่เรา Fasting และการทำ IF นั้นจะทำให้ร่างกายเอาไขมันมาใช้เป็นพลังงานได้ดีขึ้นแทนที่จะเน้นใช้คาร์โบไฮเดรตเหมือนแต่ก่อน
ช่วยลดความต้านทานอินซูลิน
นักวิ่งหลายคนทานอาหารหรือขนมในปริมาณที่น้อยในทุกช่วงเวลา 2-3 ชั่วโมง เพื่อเติมพลังงานเข้าร่างกายตลอดทั้งวัน แต่นั่นก็ทำให้ร่างกายหลั่งอินซูลินออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดในร่างกายและที่แย่ก็คือเมื่ออินซูลินยังคงอยู่ในกระแสเลือดเป็นเวลานาน ร่างการจะเริ่มสร้างความต้านทานต่ออินซูลินขึ้นมาซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเบาหวาน
วิธีรวมการทำ Intermittent Fasting (IF) เข้ากับการฝึกของเรา
การออกกำลังกายในขณะ Fasting นั้นไม่จำเป็นต้องมีความเข้มข้นมาก การออกกำลังกายแบบเบาๆจะเห็นผลมากกว่าด้วยซ้ำ การออกกำลังกายแบบแอโรบิคในช่วงที่ร่างกายมีไกลโคเจนน้อย ควรเป็นการเดิน 30 นาที , การว่ายน้ำแบบเบาๆ , หรือเป็นแค่การเข้าไปใช้ซาวน่า – กุญแจสำคัญเลยก็คือการออกกำลังกายให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างน้อย 20-30 นาที การออกกำลังกายแบบ HIIT จะยากขึ้นในขณะที่เรากำลังอยู่ในช่วง Fasting เพราะว่าการออกกำลังกายแบบนี้จะทำให้อัตราการเต้นหัวใจเพิ่มมากกว่า 70% และมีความต้องการใช้ไกลโคเจนมาเป็นพลังงานมากขึ้น การออกกำลังกายแบบ HIIT ในขณะที่กำลัง Fasting จึงเห็นผลลัพธ์ได้น้อย และสิ่งสำคัญเลยคืออย่าลืมเติมพลังงานเข้าร่างกายหลังจากที่ออกกำลังกายไปแล้วในตอนเช้า ร่างกายจะสามารถดูดซึม คาร์โบไฮเดรต , ไขมัน , โปรตีน และสารอาหารอื่นๆได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายในช่วงระยะเวลา 1-2 ชั่วโมง หลังจากที่มีการออกกำลังกายในช่วง Fasting
วิธีการทำ Intermittent Fasting (IF)
โดยทั่วไปแล้วในขณะที่เรากำลัง Fasting จะอนุญาตให้เราดื่มน้ำเปล่าได้ หมายความว่าเราจะไม่ได้รับแคลอรี่จากอย่างอื่นเช่น เครื่องปรุงรส , เกลือ , น้ำตาล และอื่นๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ยังบอกว่าเรายังสามารถดื่มกาแฟเปล่าๆที่ไม่ได้มีการใส่ นม , ครีม และ น้ำตาล หรือเติมอะไรที่มีแคลอรี่ลงไปได้อยู่ เราจะประสบความสำเร็จในการทำ Intermittent Fasting เพื่อเพิ่มความทนทานในการออกกำลังกายก็ต่อเมื่อเราพบช่วงเวลาในการรับประทานอาหารที่เหมาะกับตัวเรา บางคนอาจจะเป็นตอนเที่ยงพอดี-สามทุ่ม และที่เหลืออีก 15 ชั่วโมงเป็นการ Fasting หรือบางคนอาจจะเป็นช่วง 9 โมงเช้า-6 โมงเย็น และอีก 15 ชั่วโมงที่เหลือจะเป็นการ Fasting ก็ให้เพื่อนๆไปลองหาเวลาที่เหมาะสมกับตัวเองดูนะครับ
แหล่งที่มา : bit.ly/2BwhnC1
.
[AD]
?บัตรเครดิต KTC ตัวจริงเรื่องกีฬา
แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 15% พร้อมแบ่งชำระ 0%
นานสูงสุด 10 เดือน ที่ Supersports ทุกสาขา
? bit.ly/CRCSPORTShttp://bit.ly/P000389
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming