วันอังคาร, มีนาคม 28, 2023
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Fitness & Health

คู่มือการฟาสติ้งแบบ 16/8

Thip by Thip
02/12/2022
in Fitness & Health
0
คู่มือการฟาสติ้งแบบ 16/8
  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

การฟาสติ้ง คือ การกำหนดช่วงเวลาสำหรับทานอาหาร และช่วงเวลาที่เราจะไม่ทานอะไร และมีการกำหนดสัดส่วนช่วงเวลาที่ต่างกันไปหลายแบบ ซึ่งรูปแบบการฟาสติ้งที่เราเห็นคนใช้กันมากก็คือ การฟาสติ้งแบบ 16/8 ในบทความนี้เราจะพาเพื่อนๆมารู้จักการฟาสติ้งแบบ 16/8 โดยเพื่อนๆสามารถใช้เป็นคู่มือในการฟาสติ้งแบบ 16/8 ได้เลย

  1. การฟาสติ้งแบบ 16/8 คืออะไร
  2. เราทานอะไรได้บ้างในระหว่างที่มีการฟาสติ้งแบบ 16/8
  3. ประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการฟาสติ้งแบบ 16/
  4. การฟาสติ้งช่วงส่งเสริมการลดน้ำหนักหรือไม่
  5. ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
  6. เคล็ดลับสำหรับการฟาสติ้งแบบ 16/8

การฟาสติ้งแบบ 16/8 คืออะไร

มันคือรูปแบบของการคุมช่วงเวลาโดยจะมีช่วงที่เราทานอาหาร และช่วงที่เราไม่ทานอะไรนอกจากดื่มน้ำเปล่า มีบางคนที่ฟาสติ้งด้วยการไม่ทานอะไร 1 วันเต็มๆ เป็นเวลา 1 วันหรือหลายครั้งต่อสัปดาห์ จากนั้นเขาก็จะกลับไปทานอาหารตามปกติในวันที่ไม่ได้ฟาส นี่ละคือตัวอย่างของการฟาสติ้ง

ส่วนการฟาสติ้งแบบ 16/8 คือในแต่ละวันเราจะมีช่วงเวลาสำหรับทานอาหาร 8 ชั่วโมง ส่วนอีก 16 ชั่วโมงที่เหลือเราจะไม่ทานอะไร โดยเราอาจจะงดอาหารเช้าเพื่อรอเวลาไปทานอาหารในช่วงกลางวัน และหลังจากที่ทานมื้อเย็นเรียบร้อยแล้วก็จะไม่มีการทานอะไรอีก จนกระทั่งถึงเวลากลางวันของวันถัดไป โดยในช่วงเช้าเราสามารถดื่มน้ำเปล่า , กาแฟดำที่ไม่ได้เติมอะไรที่มีแคลอรี่ก็ได้นะ

เราสามารถทานอะไรได้บ้าง ในช่วงที่ทำการฟาสติ้งแบบ 16/8

ความจริงแล้วมันไม่ได้มีกฎอะไรมาก ว่าอะไรทานได้หรือทานไม่ได้ ตราบใดที่เพื่อนๆยังคงมีช่วงเวลาที่ทานอาหารและงดทานอาหารอย่างเคร่งครัด

ในช่วง 16 ชั่วโมงที่ห้ามทานอะไร เราสามารถดื่มอะไรก็ได้ที่ไม่มีแคลอรี่ เช่น น้ำเปล่า หรือ ชาดำ แบบไม่เติมอะไรเลย ไม่เติมนมเติมครีมอะไรทั้งนั้น

ความจริงแล้วกาแฟดำมีแคลอรี่ประมาณ 3 แคล ซึ่งดื่มเข้าไปแล้วจะไม่ไปทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรกับกระบวนการเผาผลาญ แต่ถ้าอยากจะงดไปเลยอันนี้ก็ไม่ผิด

ประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการฟาสติ้ง 16/8

มีหลักฐานที่พบว่าการฟาสติ้งช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก และช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคเรื้องรังหลายโรค เช่น โรคหัวใจ , เบาหวานประเภทที่สอง , และอัลไซเมอร์ แต่มันช่วยป้องกันโรคเหล่านี้ได้อย่างไร มาดูข้อเท็จจริงกัน

การวิจัยพบว่าการฟาสติ้งที่มีการกำหนดช่วงเวลาที่เราจะไม่ทานอะไร เช่น การใช้สูตร 16/8 นั้น มันจะช่วยในการควบคุมกระบวนการเผาผลาญพลังงาน ถึง 3 วิธี ดังนี้

  1. ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยาของสิ่งมีชีวิต
  2. ปรับแต่งไมโครไบโอมที่อยู่ในลำไส้
  3. เกิดความเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ เช่น การนอนหลับ และการรับพลังงาน

ร่างกายของเรามีระบบนาฬิกาชีวภาพ (Circadian Clock) ที่ช่วยควบคุมช่วงเวลานอนของเรา , ควบคุมระบบการเผาผลาญ , รูปแบบการหลั่งฮอร์โมน ซึ่งทั้งหมดนี้รวมไปถึงการตอบสนองต่อการกินอาหารจะเกิดขึ้นจากระบบนาฬิกาชีวภาพ เช่น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลินมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อกลูโคสในกระแสเลือดมากขึ้นจากการทานอาหารผิดเวลา เช่น การทานอาหารกลางดึก เป็นต้น ซึ่งในระยะยาวจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม และทำให้มีความดื้อต่ออินซูลินมากขึ้น

ที่น่าสนใจก็คือพวกไมโครไบโอม (จุลินทรีย์) ที่อยู่ในลำไส้มันก็มีนาฬิกาชีวภาพของมันเหมือนกัน จากการวิจัยในสัตว์พบว่าการฟาสติ้งที่มีการรักษาเวลาอย่างเคร่งครัดจะช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้กับไมโครไบโอม แถมยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านองค์ประกอบให้มีการส่งเสริมกระบวนการลดน้ำหนัก แทนที่จะเพิ่มความอ้วน

และสุดท้ายนี้ การฟาสติ้งสามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเรื่องการนอนหลับและการรับพลังงาน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มันสามารถส่งผลอย่างชัดเจนต่อฮอร์โมนที่มีหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานและส่งผลต่อน้ำหนักตัว

คู่มือการฟาสติ้งแบบ 16/8

เนื่องมาจากการฟาสติ้งส่งผลต่อฮอร์โมนและกระบวนการเผาผลาญพลังงาน การฟาสติ้งแบบ 16/8 จึงมีประโยชน์ดังนี้

  • ช่วยลดไขมันบิรเวณหน้าท้อง
  • ลดการหลั่งอินซูลินและเพิ่มความไวต่ออินซูลิน
  • ลดภาวะเครียดออกซิเดชั่นและลดอาการอักเสบในร่างกาย
  • ช่วยเพิ่มการหลั่งโกรธฮอร์โมน
  • ส่งเสริมให้เกิดกลไกการกินตัวเองของเซลล์ (Autophagy)
  • ทำให้เซลล์มีสุขภาพดีขึ้น
  • ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น มะเร็งและโรคทางระบบประสาท
  • มีอิสระในการเลือกทานอาหารมากขึ้น เมื่อเทียบกับวิธีไดเอทแบบอื่น

การฟาสติ้งช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักด้วยหรือไม่

การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการฟาสติ้งนั้นเป็นวิธีลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพ สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วเป้าหมายหลักในการฟาสติ้งก็คือการลดน้ำหนักหรือคุมน้ำหนัก ซึ่งจะมีการควบคุมช่วงเวลาสำหรับทานอาหารทำให้ทานได้น้อยลง พูดง่ายๆ คือ เมื่อคุมเวลาอย่างเคร่งครัดเราจะมีช่วงเวลาที่ต้องทานอาหารน้อยลง ทำให้ในแต่ละวันได้รับแคลอรี่น้อยลง

ยกตัวอย่างเช่น มีคนจำนวนมากที่ชอบทานอาหารตอนกลางคืน หรือไปทานบุฟเฟ่ต์อย่างบ้าคลั่งในช่วงกลางวัน เป็นต้น แม้ว่าจะดูเหมือนได้รับแคลอรี่ไม่มาก แต่สุดท้ายก็ได้รับแคลอรี่ส่วนเกินไปเรื่อยๆ โดยในการฟาสติ้งแบบ 16/8 เรามีเวลาทานอาหารเพียง 8 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจะช่วยหยุดการทานอาหารมากเกินไปในแต่ละวันได้

นอกจากนี้ช่วงเวลา 16 ชั่วโมงที่ไม่ทานอะไร มันก็เป็นช่วงเวลานานและอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีหากไม่มีการเตรียมตัวไว้ก่อน แต่ถ้าเตรียมตัวมาแล้วคนส่วนใหญ่ก็พบว่าช่วงเวลา 16/8 นั้นมันจะทำให้พวกเขามีสติในการเลือกประเภทอาหารที่จะทานมากขึ้นตามไปด้วย

เราสามารถส่งเสริมการลดน้ำหนัก ด้วยการเลือกทานอาหารที่มีสารอาหารและเป็นอาหารประเภทที่ช่วยให้อิ่มไปตลอดช่วงเวลาการฟาสติ้ง แทนที่เราจะนั่งกินพิซซ่าซึ่งจะทำให้รู้สึกหิวมากในเช้าวันถัดไป เราควรเปลี่ยนไปทานอาหารที่มีสารอาหาร , ช่วยมอบพลังงานอย่างต่อเนื่องและทำให้อิ่ม เช่น แซลม่อน , ควินัวและบล็อคโคลี่

และสุดท้ายนี้ การสร้างความเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมควบคู่ไปกับการฟาสติ้ง จะช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเรื่องนิสัยการกินและการเลือกอาหารไปด้วย

การใช้สูตร 16/8 อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้เรามีสติในการเลือกประเภทอาหาร , ปริมาณและสารอาหารที่ได้รับ และระดับความพึงพอใจในการรับประทานอาหารมากขึ้น ยิ่งเราพบว่ามีช่วงเวลาสำหรับทานอาหารลดลง เราจะยิ่งคัดเลือกคุณภาพอาหารมากยิ่งขึ้น ซึ่งอันที่จริงในช่วงก่อนที่เราจะเริ่มฟาสติ้งเราทานอาหารโดยไม่สนใจเรื่องประเภทและปริมาณด้วยซ้ำ แต่พอเริ่มฟาสติ้งเราก็จะเริ่มใส่ใจเรื่องพวกนี้

การฟาสติ้งยังช่วยแก้ปัญหาให้กับคนประเภทที่คิดเรื่องอาหารตลอดเวลา มีอาการเสพติดการทานอาหาร แต่พอมีการกำหนดช่วงเวลาในการทานอาหารก็จะควบคุมความคิดเหล่านี้ได้เอง บางคนจะพบว่าตัวเองคิดเรื่องอยากทานนู่นนี่น้อยลง เพราะว่าต้องทานน้อยลง แต่ว่ามันก็จะมีบางคนที่คิดอยากทานอะไรหนักกว่าเก่าด้วยเหมือนกันอันนี้ต้องระวัง

ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฟาสติ้งแบบ 16/8

การฟาสติ้งไม่ได้ใช้ได้ดีกับทุกคน หากเพื่อนๆเป็นเบาหวานอยู่ก่อนแล้ว หรือมีปัญหาเรื่องการคุมระดับน้ำตาล หรือมีปัญหาเกี่ยวกับโรค Eating disorder อยู่ก่อนแล้ว หรือกำลังตั้งครรภ์หรือต้องให้นมลูก ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ก่อนจะฟาสติ้ง

นอกจากนี้ หากเพื่อนๆออกกำลังกายประเภทต้องใช้ความทรหดทั้งหลาย การฟาสติ้งการอาจจะไปขัดขวางเรื่องการเติมพลังงานระหว่างการวิ่งได้ นักวิ่งจึงควรที่จะไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง

ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้มีดังนี้

  1. หิว
  2. ปวดหัว
  3. มึนหัว
  4. น้ำตาลในเลือดต่ำ
  5. เติมพลังงานในการวิ่งได้ยากขึ้น และฟื้นตัวหลังออกกำลังกายได้ยากขึ้น
  6. มีพลังงานต่ำ
  7. อารมณ์เสียและกระวนกระวาย
  8. เมื่อถึงช่วงเวลาสำหรับทานอาหารอาจจะคุมตัวเองไม่อยู่

Note : อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับเรา เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราทานอะไร , ระดับความเข้มข้นในการฝึกออกกำลังกาย , ระดับสุขภาพเมื่อดูจากภาพรวม

เคล็ดลับในการฟาสติ้งแบบ 16/8

มันสำคัญมากที่เพื่อนๆจะต้องจำไว้ว่าการฟาสติ้งเป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น เราจะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความแม่นยำในการใช้กลยุทธ์ รวมไปถึงการเลือกอาหารและเปลี่ยนไลฟ์สไตล์

และจากนี้ไปคือเคล็ดลับในการฟาสติ้งสูตร 18/6

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ดื่มให้ได้ทั้งน้ำและอิเล็กโทรไลต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ฟาส 16 ชั่วโมง
  2. หลีกเลี่ยงการทานมากเกินไป และมีการวางแผนการทานอาหารไว้ล่วงหน้า
  3. มีการจดบันทึกการทานอาหารลงในไดอารี่ เพื่อให้เราสามารถติดตามดูพฤติกรรมย้อนหลัง บันทึกความรู้สึกและบันทึกว่าอาหารอะไรที่ทานเข้าไปแล้วทำให้อิ่มนาน
  4. มีสติในการเลือกคุณภาพของอาหาร โฟกัสไปที่อาหารแบบ Whole Food เช่น ลีนโปรตีน , ผัก , ไข่ , ผลไม้ , เมล็ดพืช , พืชตระกูลถั่ว , และอาหารที่มีไขมันดี เช่น อะโวคาโดและถั่ว
  5. จัดตารางออกกำลังกายให้เหมาะสมกับช่วงเวลาฟาสติ้ง เอาแบบให้เราสามารถทานอาหารเพื่อเติมพลังงานตอนวิ่งหรือหลังวิ่งได้ หรือพูดอีกอย่างคือให้ทานอาหารในตรงกับช่วงเวลาที่เราไม่ได้ฟาสนั่นเอง
  6. สังเกตร่างกายตลอด เพื่อดูว่าเรามีอาการดีขึ้นหรือแย่ลงหลังการฟาสติ้ง
  7. ทำตัวสบายๆสนุกๆในการเลือกอาหารสำหรับช่วงเวลาที่ต้องทาน (ช่วง 8 ชม.) แล้วก็ค่อยๆปรับการเลือกอาหารไป เราไม่จำเป็นต้องทานเมนูเดิมทุกวัน

การฟาสติ้งนั้นสามารถประสบผลสำเร็จและมีความยั่งยืนสำหรับบางคน อย่าลืมว่าคนแต่ละคนมีความแตกต่างกันไปในเรื่องระบบการเผาผลาญ , สรีรวิทยา , ไลฟ์สไตล์ และมีการตั้งค่าทางร่างกายมาไม่เท่ากัน ผลลัพธ์ที่เกิดกับเราย่อมไม่เท่ากับของคนอื่น

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3U


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

Related

Tags: DietDiet TipsFastingIntermittent FastingLose Weightฟาสติ้งลดน้ำหนักวิธีลดน้ำหนักเคล็ดลับลดน้ำหนักไดเอท
Previous Post

รู้หรือไม่ แค่ทานอาหารเช้า ก็ช่วยลดความหิว ความอยากอาหาร และลดการเพิ่มน้ำหนักตัวได้

Next Post

goodr sunglasses  แว่นตากันแดดสัญชาติอเมริกันที่มาพร้อมสีสันสุดสนุก สำหรับนักวิ่งทุกสายพันธุ์

Thip

Thip

Related Posts

พฤติกรรมการทานอาหาร ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง

5 พฤติกรรมการทานอาหาร ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง

15/03/2023
ซุปเปอร์ฟู้ด (Superfoods) ที่จะช่วยชะลอวัย

6 ซุปเปอร์ฟู้ด (Superfoods) ที่จะช่วยชะลอวัยสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป

11/03/2023
เคล็ดลับง่ายๆ เพื่อลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น

6 เคล็ดลับง่ายๆ เพื่อลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น

01/03/2023
เอ็นโดรฟินคืออะไร และ 5 วิธีในการเพิ่มเอ็นโดรฟิน

เอ็นโดรฟินคืออะไร และ 5 วิธีในการเพิ่มเอ็นโดรฟิน

27/02/2023
สาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันหน้าท้อง

6 สาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันหน้าท้อง

24/02/2023
อัลมอนด์ดีต่อการลดน้ำหนักหรือไม่

อัลมอนด์ดีต่อการลดน้ำหนักหรือไม่?

20/02/2023
Next Post
goodr sunglasses  แว่นตากันแดดสัญชาติอเมริกันที่มาพร้อมสีสันสุดสนุก สำหรับนักวิ่งทุกสายพันธุ์

goodr sunglasses  แว่นตากันแดดสัญชาติอเมริกันที่มาพร้อมสีสันสุดสนุก สำหรับนักวิ่งทุกสายพันธุ์

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 12.4k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

11 เมนูจานญี่ปุ่นยอดฮิต ที่ทุกร้านต้องมี และเพื่อนๆต้องชอบ

11 เมนูจานญี่ปุ่นยอดฮิต ที่ทุกร้านต้องมี และเพื่อนๆต้องชอบ

by Por the Irondad
13/06/2018

แค่ทานอาหารเช้า ก็ช่วยลดความหิว ความอยากอาหาร และลดการเพิ่มน้ำหนักตัวได้

รู้หรือไม่ แค่ทานอาหารเช้า ก็ช่วยลดความหิว ความอยากอาหาร และลดการเพิ่มน้ำหนักตัวได้

by Thip
01/12/2022

Northpole marathon

ไปวิ่งที่นี่เย็นแน่นอน มาราธอนที่ขั้วโลกเหนือ FWD North Pole Marathon

by Por the Irondad
01/04/2019

คริส แม็คคอร์แม็ค Ironman ผู้คว้าแชมป์โลกไตรกีฬา 4 สมัย

คริส แม็คคอร์แม็ค Ironman ผู้คว้าแชมป์โลกไตรกีฬา 4 สมัย

by VRUN VRIDE
16/04/2019

Nike Zoom Mamba V รองเท้าวิ่งตะปู

Nike Zoom Mamba V รองเท้าวิ่งตะปู

by VRUN VRIDE
04/10/2021

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercises Fun Run Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan Smart watch SmartWatch workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง จักรยาน ตารางซ้อมวิ่ง ท่าออกกำลังกาย นักปั่น นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง ลดน้ำหนัก วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โภชนาการ ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (171)
  • Fitness & Health (346)
  • News (740)
  • Review (126)
  • Running (830)
  • Stories (201)
  • Training (336)
  • Triathlon (109)
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...