วันเสาร์, กรกฎาคม 12, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

คู่มือและโปรแกรมการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

thip by thip
30/06/2023
in Running, Training
0
คู่มือและโปรแกรมการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

Image by Freepik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

การฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยลดน้ำหนักส่วนเกิน , อารมณ์ดีขึ้น , มีพลังงานมากขึ้น และเราสามารถแบ่งส่วนการฝึกย่อยเป็นส่วนๆ ได้ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะฝึกตามโปรแกรมการฝึกนี้ โดยระยะเวลาการฝึกจะมีทั้งหมด 15 สัปดาห์ รูปแบบการฝึกจะค่อยๆ เพิ่มความยากทีละนิด เพื่อป้องกันการได้รับบาดเจ็บและไม่สร้างความเบื่อหน่ายให้ตัวผู้ฝึก

คนที่จะสามารถใช้โปรแกรมการฝึกนี้ได้ ต้องสามารถวิ่งต่อเนื่องได้ถึง 5 นาที แต่อย่างไรก็ตามโปรแกรมการฝึกนี้จะให้ผู้ฝึกเริ่มต้นด้วยการฝึกเดินสลับกับการวิ่งในช่วงสัปดาห์แรก จนกระทั่งเริ่มมีระดับความฟิตมากพอที่จะวิ่งได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง

7 เคล็ดลับวิธีการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

หลักการคือเราจะไม่ฝึกมากเกินไป การฝึกหนักเกินกว่าร่างกายจะรับไหว ก็ไม่ต่างอะไรกับการทานอาหารคำโตเกินกว่าที่ปากของเราจะเคี้ยวได้ ดังนั้นเราจะค่อยๆเ พิ่มปริมาณระยะทางในการฝึกวิ่งไปทีละน้อย แต่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง

1. การฝึกเดินสลับกับวิ่ง

หากใช้วิธีนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกังวัลเรื่องความสามารถในการวิ่ง เพราะเราจะมีจังหวะเดินพักอยู่ด้วย ทำให้เราไม่เหนื่อยเกินไป สมมุติว่าเราฝึก 30 นาที เราก็อาจจะวิ่ง 1 นาที เดิน 2 นาที จนครบ 10 รอบ ก็จะครบ 30 นาทีพอดี

2. เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม

การเลือกรองเท้าผิด สามารถทำให้เราได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งได้ ดังนั้นควรเลือกรองเท้า ถุงเท้า เสื้อผ้ากางเกง ให้เลือกเอาที่พอดีกับร่างกาย

3. โฟกัสไปที่การมีท่วงท่าที่ถูกต้อง และระยะทางในการวิ่ง อย่าไปโฟกัสเรื่องความเร็ว

สำหรับคนฝึกใหม่อย่าไปเน้นความเร็วในการวิ่ง เพราะมันเร็วเกินไปกว่าที่ร่างกายจะรับไหว ให้ใช้เวลาไปกับการสร้างพื้นฐาน เช่น การมีท่วงท่าในการวิ่งที่ถูกต้องและการวิ่งสะสมระยะทาง และการฝึกพื้นฐานนี่ล่ะที่จะช่วยให้เราเก่งขึ้นได้เองในระยะยาว แล้วความเร็วในการวิ่งมันจะเกิดขึ้นได้เอง จากการที่ร่างกายเราปรับตัวได้ ดังนั้นเวลาฝึกวิ่งให้เราใช้ความเร็วในระดับที่สามารถวิ่งไปคุยไปได้โดยไม่หอบ เอาแค่นั้นพอแล้ว

4. ตั้งใจฝึกในวันที่ต้องวิ่งระยะไกล

การฝึกวิ่งระยะไกลเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการฝึกทุกสัปดาห์ เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความทรหดในการวิ่ง ในแต่ละสัปดาห์จะวิ่งไกลขึ้นเรื่อยๆ แต่จะไม่เกิน 11 ไมล์หรือ 17.70 กม. ให้วิ่งช้าๆ คิดซะว่ากำลังวิ่งจ๊อกกิ้ง ไม่ต้องไปกังวลเรื่องความเร็ว หากสัปดาห์ไหนไม่ว่างก็ให้สละการฝึกของวันอื่นไปได้ แต่อย่างดการฝึกวิ่งระยะไกลเด็ดขาดเลย

5. วิธีการฟื้นร่างกาย

  • ยืดกล้ามเนื้อและใช้โฟมโรลลิ่งหลังการวิ่ง
  • ทานอาหารที่มีทั้งคาร์บและโปรตีนภายใน 45 นาทีหลังการฝึก
  • อย่าฝึกมากเกินไป หากมีอาการเมื่อยล้าต่อเนื่องกันสองวันติดกัน ให้หยุดพักจากการฝึก
  • การใส่อุปกรณ์รัดกล้ามเนื้อ หรืออาบน้ำใส่น้ำแข็ง (Ice Bath) ก็เป็นอีกเครื่องมือยอดนิยมของนักกีฬาเช่นกัน
  • นอนหลับให้เพียงพอ

6. เติมพลังงานแบบมืออาชีพ

ก่อนการฝึก 45-60 นาที ให้เราทานอาหารที่มีคาร์บเยอะๆ ซึ่งการทานกล้วยก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวก และในวันวิ่งระยะไกลก็ควรมีของทานเล่นหรือมื้อเช้าที่เยอะหน่อย และถ้าหากต้องวิ่งเป็นระยะเวลา 60-75 นาที เราก็ควรมีอาหารติดตัวไว้เติมพลังงานกลางทางด้วย เพื่อไม่ให้หมดแรง

7. เมื่อเพิ่มระยะทางในการฝึกจนสูงสุดแล้ว จะลงท้ายด้วยการลดระยะทางในการวิ่ง

โปรแกรมการฝึกจะเป็นแบบนี้ ก็เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นตัว ซ่อมแซมกล้ามเนื้อได้ทันในวันลงแข่งจริงนั่นเอง

โปรแกรมการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 15 สัปดาห์

คู่มือและโปรแกรมการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

โปรแกรมการวิ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

4 สัปดาห์แรก จะเป็นการฝึกวิ่ง 5K ซึ่งเพื่อนๆ สามารถกะเวลาเพื่อให้ใกล้เคียงกับวันที่จะไปลงแข่งจริงได้นะ

การฝึกในสัปดาห์ที่ 1

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 2 นาที สลับกับการวิ่ง 1 นาที วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 10 รอบ
  • วันพุธ : พัก
  • วันพฤหัส : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 2 นาที สลับกับการวิ่ง 1 นาที วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 10 รอบ
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันเสาร์ : พัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 2.4 กม. หากจำเป็นต้องเดินพักก็ให้เดินจนหายเหนื่อยแล้ววิ่งต่อ

การฝึกในสัปดาห์ที่ 2

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 1 นาที สลับกับการวิ่ง 1 นาที วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 15 รอบ
  • วันพุธ : พัก
  • วันพฤหัส : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 1 นาที สลับกับการวิ่ง 1 นาที วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 15 รอบ
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันเสาร์ : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 1 นาที สลับกับการวิ่ง 1 นาที วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 15 รอบ
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 3.2 กม. หากจำเป็นต้องเดินพักก็ให้เดินจนหายเหนื่อยแล้ววิ่งต่อ

การฝึกในสัปดาห์ที่ 3

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 30 วินาที สลับกับการวิ่ง 1 นาที 30 วินาที วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 15 รอบ
  • วันพุธ : พัก
  • วันพฤหัส : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 30 วินาที สลับกับการวิ่ง 1 นาที 30 วินาที วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 15 รอบ
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันเสาร์ : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 30 วินาที สลับกับการวิ่ง 1 นาที 30 วินาที วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 15 รอบ
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 4.02 กม. หากจำเป็นต้องเดินพักก็ให้เดินจนหายเหนื่อยแล้ววิ่งต่อ

การฝึกในสัปดาห์ที่ 4

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 1 นาที สลับกับการวิ่ง 2 นาที  วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 10 รอบ
  • วันพุธ : พัก
  • วันพฤหัส : เดินสลับวิ่ง โดยให้เดิน 1 นาที สลับกับการวิ่ง 2 นาที  วนซ้ำแบบนี้ให้ได้ 10 รอบ
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วันลงแข่งวิ่ง 5K หรือถ้าไม่ไปลงแข่งก็ให้ซ้อมวิ่ง 5K ได้เลย อย่าลืมว่า วิ่งสลับเดินไม่ได้ผิดกติกา มืออาชีพที่ไหนเค้าก็ทำกัน หากในวันลงแข่งจริงจำเป็นต้องวิ่งสลับเดินก็ให้ทำไปได้เลย

ต่อไปจะเป็นการเพิ่มระยะทางจาก 5K ไป10K

คราวนี้เราจะฝึกวิ่งอย่างเดียว ไม่มีสลับกับการเดิน ยกเว้นแต่มันจำเป็นจริงๆ

การฝึกในสัปดาห์ที่ 5

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.02 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 2.41 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 4.02 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 6.43 กม.

การฝึกในสัปดาห์ที่ 6

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.02 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 2.41 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 4.02 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 7.24 กม.

การฝึกในสัปดาห์ที่ 7

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.82 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 4.82 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 8.04 กม.

การฝึกในสัปดาห์ที่ 8

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.82 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 4.82 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วันลงแข่ง 10K ถ้าไม่ได้ลงแข่งก็ฝึกวิ่ง 10K ไปเลย

ต่อไปจะเป็นการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

พอถึงสัปดาห์ที่ 13 เป็นต้นไป เราจะลดระยะทางการวิ่ง เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้ทันกับการลงแข่งจริง

การฝึกในสัปดาห์ที่ 9

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.82 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 4.82 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 8.04 กม.

การฝึกในสัปดาห์ที่ 10

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.82 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 4.82 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 11.26 กม.

การฝึกในสัปดาห์ที่ 11

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 8 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 12.87 กม.

การฝึกในสัปดาห์ที่ 12

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 8 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 9.65 กม.

การฝึกในสัปดาห์ที่ 13

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 8 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 16 กม.

การฝึกในสัปดาห์ที่ 14

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 9.66 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 14.48 กม.

การฝึกในสัปดาห์ที่ 15

  • วันจันทร์ : พัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันพุธ : วิ่ง 9.66 กม.
  • วันพฤหัส : ฝึก Cross Training 30-60 นาที
  • วันศุกร์ : วิ่ง 6.43 กม.
  • วันเสาร์ : วันพัก
  • วันอาทิตย์ : ฮาล์ฟมาราธอน

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3p9Mn76


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: Half MarathonrunningRunning GuideRunning PlanRunning ProgramRunning Training Planตารางซ้อมวิ่งตารางซ้อมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนตารางฝึกวิ่งวิ่งฮาล์ฟมาราธอนเคล็ดลับการวิ่งแผนซ้อมวิ่งแผนซ้อมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนแผนฝึกวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนโปรแกรมฝึกวิ่ง
Previous Post

5 กระบวนท่าฝึก Strength Training ที่ช่วยรักษาความฟิต

Next Post

ฉลองครบรอบ 30 ปี! ASICS เปิดตัวรองเท้าวิ่งโมเดลไอคอนิก GEL-KAYANO™ 30 ขั้นกว่าของความสบายพร้อมส่งมอบความมั่นคงอย่างเหนือชั้น

thip

thip

Related Posts

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่

28/06/2025
รูปแบบการฝึกวิ่ง เพื่อเพิ่มความเร็ว

3 รูปแบบการฝึกวิ่ง ที่ช่วยเพิ่มความเร็วได้จริง

26/06/2025
ท่า Strength Training สำหรับนักวิ่ง

8 ท่า Strength Training ที่นักวิ่งมาราธอนควรฝึก!

20/06/2025
เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

5 เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

14/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ป้องกันการบาดเจ็บ

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง เพื่อลดโอกาสบาดเจ็บ

11/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง นักวิ่ง

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง สำหรับนักวิ่ง

04/06/2025
Next Post
ASICS เปิดตัว GEL-KAYANO™ 30 รองเท้าโมเดลล่าสุดจากซีรีส์ GEL-KAYANO™ สุดไอคอนิก

ฉลองครบรอบ 30 ปี! ASICS เปิดตัวรองเท้าวิ่งโมเดลไอคอนิก GEL-KAYANO™ 30 ขั้นกว่าของความสบายพร้อมส่งมอบความมั่นคงอย่างเหนือชั้น

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 34.7k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

ASICS เปิดตัวคอลเลคชั่น ‘Retro Tokyo’ ต้อนรับโอลิมปิก 2020

ASICS เปิดตัวคอลเลคชั่น ‘Retro Tokyo’ ต้อนรับโอลิมปิก 2020

by VRUN VRIDE
29/01/2020

โปรแกรมการฝึกวิ่ง 10k สำหรับนักวิ่งมือใหม่

โปรแกรมการฝึกวิ่ง 10k สำหรับนักวิ่งมือใหม่

by thip
26/05/2024

10 คำถามพร้อมคำตอบที่นักไตรกีฬารู้สึกอายที่จะถาม

10 คำถามพร้อมคำตอบที่นักไตรกีฬารู้สึกอายที่จะถาม

by thip
28/03/2019

7 สุดยอดสรรพคุณของมันม่วง

7 สุดยอดสรรพคุณของมันม่วง

by thip
15/12/2019

เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เผยคนไทยส่วนใหญ่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนบุคคลใหม่ เพื่อการมีสุขภาพที่ดีขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า

เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เผยคนไทยส่วนใหญ่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนบุคคลใหม่ เพื่อการมีสุขภาพที่ดีขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า

by VRUN VRIDE
21/12/2022

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (375)
  • News (876)
  • Review (126)
  • Running (944)
  • Stories (201)
  • Training (465)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี