เปรียบเทียบความแตกต่างของนาฬิกาวิ่ง Garmin Forerunner 245 Music และ Forerunner 645 Music
เมื่อปีที่แล้ว Garmin ได้ปล่อยนาฬิกาวิ่งรุ่นใหม่ที่สามารถฟังเพลงได้เข้าสู่ท้องตลาด เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ชอบฟังเพลงระหว่างออกกำลังกาย ทั้งสองรุ่นเป็นนาฬิกา GPS แต่ว่ารุ่น Forerunner 645 จะมีราคามากกว่ารุ่น Forerunner 245 ถึงแม้ว่าจะมีฟีเจอร์มากกว่าแต่ก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะตัดสินใจว่ารุ่นไหนดีกว่ากัน เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป และในบทความนี้เราจะมาดูกันถึงความต่างของนาฬิกาวิ่งทั้งสองรุ่นนี้
ความแตกต่างด้านการออกแบบ (Design)
- นาฬิกาทั้งสองรุ่นจะมีขนาด , สเปกหน้าจอ และน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน นาฬิการุ่น Forerunner 645 (รุ่นเก่ากว่า) ซึ่งอยู่ในรูปประกอบด้านบนจะมีขนาด 42.3mm x 42.3mm x 13.5mm ในขณะที่รุ่น 245 จะมีขนาด 42.5mm x 42.5mm x 12 mm ซึ่งใกล้เคียงกันมาก จะบางกว่านิดหน่อยเพราะเป็นรุ่นใหม่
- ส่วนขนาดหน้าจอของทั้งสองรุ่นจะเท่ากันคือ 1.2 นิ้ว มีความละเอียด 240 x 240 pixel และทั้งคู่จะมีน้ำหนักเกือบ 40 กรัม แต่ถ้าไม่อยากได้นาฬิกาที่ดูเป็นพลาสติกทั้งเรือนล่ะก็ รุ่น 645 Music ก็คือทางเลือกที่ดีเพราะว่าตัวนาฬิกาจะมีขอบโลหะ
- ทั้งสองรุ่นมีหน่วยความจำที่เท่ากัน สามารถบันทึกรายละเอียดการออกกำลังกายของ 200 ชั่วโมงล่าสุดได้ และยังสามารถกันน้ำได้ในระดับ 5ATM อีกด้วย หมายความว่าใช้กับการว่ายน้ำได้
- มาดูความแตกต่างของแบตเตอรี่กันบ้าง ทั้งสองรุ่นสามารถอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์เมื่อใช้ Smartwatch Mode อย่างเดียว ถ้าหากมีการใช้ GPS และเปิดเพลงอย่างต่อเนื่องแบตจะเริ่มลดลงหลังจาก 6 ชั่วโมงสำหรับรุ่น 245 ส่วนสำหรับรุ่น 645 นั้น แบตเตอรี่จะเริ่มลดหลังจาก 5 ชั่วโมง แต่ถ้าหากว่าเราใช้ GPS อย่างเดียวไม่เปิดเพลงเลยเจ้ารุ่น 245 จะอยู่ได้นานถึง 24 ชั่วโมง ส่วนรุ่น 645 จะอยู่ได้ 14 ชั่วโมง
- นาฬิการุ่น 245 จะมีโหมด UltraTrac mode มาให้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มีเฉพาะในนาฬิการุ่นแพงๆของ Garmin เมื่อใช้งานโหมดนี้จะช่วยประหยัดพลังงานในการใช้ GPS มากขึ้น แต่จะทำให้มีความถี่ในการเก็บข้อมูลของการออกกำลังกายลดลงก็จะทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่ค่อยแม่นยำ
และแน่นอนว่าเจ้านาฬิกาทั้งสองรุ่นนี้ จะมีรุ่นที่ไม่สามารถใช้ฟังเพลงซึ่งมีราคาถูกกว่านิดหน่อยออกมาวางจำหน่ายด้วย
มาดูความแตกต่างของฟีเจอร์กันบ้าง (Features)
นาฬิกาทั้งสองรุ่นเน้นไปที่ความสำคัญในการเก็บข้อมูลการวิ่ง แต่ก็ยังสามารถเก็บข้อมูลจากการเล่นกีฬาประเภทอื่นได้ด้วย เราจะมาดูกันว่านาฬิกาทั้งสองรุ่นมีฟีเจอร์อะไรบ้างที่เหมือนหรือแตกต่างกัน
ฟีเจอร์ที่นาฬิกาทั้งสองรุ่นมีเหมือนกัน
✔ ระบบ GPS , ระบบเซ็นเซอร์ GLONASS และ GALILEO
✔ ระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจจากข้อมือ
✔ สามารถติดตามเก็บข้อมูลกิจกรรมได้ 24 ชั่วโมง เช่น การก้าวเท้า , แคลอรี่ , การนอนหลับ
✔ สามารถเก็บเพลงไว้ในเครื่องได้ , ใช้งาน Spotify และ Deezer ได้
✔ มีระบบการแจ้งเตือนที่สามารถใช้งานกับระบบ iOS และ Android
✔ ซัพพอร์ท Bluetooth, ANT+ และ Wi-Fi
✔ มี Tracking modes สำหรับการวิ่ง , วิ่งบน treadmill , วิ่งในร่ม , วิ่งเทรล , โยคะ , การขึ้นบันได , การใช้เครื่อง elliptical , ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ , การปั่นจักรยาน , การปั่นจักรยานในร่ม , การฝึก Strength training และการว่ายน้ำ
ฟีเจอร์ที่มีเฉพาะใน Garmin Forerunner 645 Music
✓ Barometric altimeter – ช่วยในการวัดความเอียงของเส้นทางวิ่งลงเนิน โดยใช้ความเปลี่ยนแปลงของแรงกดดันในการคำนวนแทนที่จะใช้ระบบ GPS ดังนั้น Forerunner 645 คือตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่ต้องการวัดความชันอย่างแม่นยำในการวิ่งขึ้นเนิน , วิ่งเทรล , ปั่นจักรยานและปีนเขา
✓ Running Power – สำหรับใช้ในการวัดพลังในการวิ่งโดยเฉพาะ ซึ่งจะใช้ได้กับนาฬิกาของ Garmin รุ่นที่มีเครื่องวัดความสูงของบรรยากาศเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเราจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมเช่น chest straps หรือ Running Pod เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้
✓ มีโหมด Tracking การออกกำลังกายและการเล่นกีฬามากกว่ารุ่น 245 ถึง 5 ประเภท คือ สกี , สโนว์บอร์ด , XC skiing , Stand Up Paddleboard (SUP) และ Rowing tracking ทำให้รุ่น 645 สามารถ Tracking กีฬาได้ทั้งหมด 18 ประเภท
✓ Garmin Pay – ระบบนี้จะให้ผู้ใช้งานใส่รายละเอียดบัตรเครดิต เพื่อให้สามารถใช้งานระบบ Contactless Payment ได้
ฟีเจอร์ที่มีเฉพาะใน Garmin Forerunner 245 Music
✓ Pulse Oximeter – นี่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ของนาฬิกาจากบริษัท Garmin ซึ่งสามารถใช้วัดระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เมื่อรวมกับระบบเก็บข้อมูลของหัวใจ จะทำให้สามารถบอกข้อมูลของการฟื้นตัว , สุขภาพและการนอนหลับได้อย่างแม่นยำ
✓ Body Battery Score – ฟีเจอร์นี้เป็นการรวมกันของการวัดระดับความเครียด , กิจกรรมและการฟื้นตัว ระบบ Body Battery Score นี้จะมีเฉพาะในรุ่น 245 เท่านั้น มันจะช่วยเตือนว่าการฝึกซ้อมครั้งแต่ไปควรจะหนักขนาดไหน
ความต่างเรื่องราคา (Price)
อย่างที่เคยบอกไปว่า Forerunner 245 จะมีราคาถูกกว่า Forerunner 645 แต่การตั้งราคามันก็ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ที่ลูกค้าสนใจ ซึ่งนาฬิกาทั้งสองรุ่นก็มีเวอร์ชั่นที่ฟังเพลงไม่ได้วางจำหน่ายด้วย เผื่อไว้สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบฟังเพลงตอนออกกำลังกาย
- รุ่น 245 Music จะมีราคา 349.99 ดอลล่าร์ และจะมีราคาลดลงเหลือ 299 ดอลล่าร์ถ้าหากเป็นเวอร์ชั่นที่เปิดเพลงไม่ได้ ส่วนราคาในไทยรุ่น Music จะอยู่ที่ 13,990 บาท และตัวธรรมดาจะอยู่ที่ 11,990 บาท
- ส่วนรุ่น 645 Music มีราคา 449.99 ดอลล่าร์ ส่วนเวอร์ชั่นที่ฟังเพลงไม่ได้จะมีราคา 399.99 ดอลล่าร์ ส่วนราคาในไทยรุ่น Music จะอยู่ที่ 16,990 บาท และตัวธรรมดาจะอยู่ที่ 14,990 บาท
ระหว่าง Garmin Forerunner 245 กับ Forerunner 645 รุ่นไหนดีกว่ากัน?
ถึงแม้ว่านาฬิกาทั้งสองรุ่นจะมีการดีไซน์ที่คล้ายกัน แต่ว่ามีฟีเจอร์ที่ต่างกัน รวมไปถึงมีราคาที่ต่างกัน ถ้าหากว่ามีงบจำกัดเราจะเลือกซื้อ Forerunner 245 Music ก็ได้ เพราะว่ามันมีระบบ Tracking ที่ไม่ต่างกัน (ของรุ่น 645 จะ Tracking กีฬาได้มากกว่า 5 ประเภท ซึ่งอาจไม่จำเป็นสำหรับคนที่วิ่งอย่างเดียว) และมีราคาที่ถูกกว่า , ตัวนาฬิกาบางกว่า และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่าด้วย
ส่วน Forerunner 645 ก็ยังนับว่าเป็นนาฬิการุ่นใหม่ในปี 2019 ได้อยู่ แต่จะมีแบตเตอรี่ที่น้อยกว่าและมีราคามากกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ Running Power Data , มีความแม่นยำในการวัดความชันของพื้น และระบบ Tracking modes เฉพาะของมัน
ที่มา :
? ♂️
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming