ระหว่างการเดินกับการวิ่งอย่างไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน
การเดินและการวิ่งล้วนส่งผลดีต่อการออกกำลังหัวใจและหลอดเลือด
มันไม่จำเป็นจะต้องไปคิดว่าอย่างไหนดีกว่ากันเลย
แต่เราจะเลือกออกกำลังด้วยวิธีใดนั้น ให้เราดูจากสภาพความฟิตของร่างกายโดยรวม
และเป้าหมายทางด้านสุขภาพ
ถ้าหากเพื่อนๆต้องการจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าและลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว การวิ่ง คือ ตัวเลือกที่ดี
แต่การเดินนั้นก็ยังให้ประโยชน์มากมายแก่ร่างกายของเรา เช่น การช่วยคุมน้ำหนัก เป็นต้น
ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
ทั้งการเดินและการวิ่งนั้นถือเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้คือ
นอกนั้นยังดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วย มีผลการวิจัยพบว่าการออกกำลังกายแบบเข้มข้นปานกลาง
อย่างน้อย 30 นาที 3 วันต่อสัปดาห์ สามารถช่วยลดความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้าได้
นอกนั้นยังช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นและช่วยเพิ่มความเคารพตัวเอง
นักวิจัยยังบอกอีกว่าไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายต่อเนื่องจนครบ 30 นาทีก็ได้
ถ้าหากเราแบ่งเวลาเป็นออกกำลังกาย 10 นาที สามรอบในหนึ่งวันก็ได้ผลกับสุขภาพจิตเช่นกัน
การเดินดีกว่าการวิ่งหรือเปล่า
การเดินนั้นให้ประโยชน์แบบเดียวกันกับการวิ่ง
แต่ว่าการวิ่งจะสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการเดินถึงสองเท่า
ยกตัวอย่างเช่นคนที่มีน้ำหนัก 72 กิโลกรัม วิ่งด้วยความเร็ว 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จะสามารถเผาผลาญได้ 606 แคลอรี่
ในขณะที่การเดินเร็ว 5.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระยะเวลาเท่ากัน
จะสามารถเผาผลาญได้ 314 แคลอรี่
เราต้องเผาผลาญให้ได้ 3,500 แคลอรี่เพื่อที่จะลดน้ำหนักให้ได้ 1 ปอนด์หรือ 0.45 กิโลกรัม
ถ้าหากเป้าหมายของเราคือการลดน้ำหนัก ก็ควรออกกำลังกายด้วยการวิ่งจะดีที่สุด
แต่ถ้าหากเราไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนการเดินก็จะช่วยให้เรามีรูปร่างที่ดีขึ้น
ความแตกต่างของการเดินและการวิ่งในการลดน้ำหนัก
การเดินแบบ Speed walking ซึ่งปกติจะเดินด้วยความเร็ว 4.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หรือมากกว่านั้น จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจของเราสูงขึ้น
เราสามารถเผาผลาญแคลอรี่จากการเดินแบบนี้ได้มากกว่าการเดินด้วยเพซธรรมดา
การเดินแบบ Power walking ปกติจะเดินด้วยความเร็ว 4.8 กม./ชั่วโมง
หรืออาจจะเร็วได้ถึง 8 กม./ชั่วโมง แต่ก็จะมีบางคนที่สามารถเดินได้เร็วถึง 7-10 กม./ชั่วโมง
การเดินแบบ Power walking สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากพอๆกับการวิ่ง
ยกตัวอย่างเช่นการเดิน Power walking ด้วยความเร็ว 7.2 กม./ชั่วโมง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
จะเผาผลาญแคลอรี่ได้เทียบเท่ากับการวิ่งจ๊อกกิ้งด้วยความเร็วและเวลาเท่ากัน
การเดินใส่เสื้อถ่วงน้ำหนัก (Weighted vest)
จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ให้มากขึ้นได้ แต่ควรระวังอย่าถ่วงน้ำหนักให้เกิน 5-10% ของน้ำหนักร่างกาย
ถ้าต้องการวิธีใหม่ที่ดีต่อการลดน้ำหนักอยู่ล่ะก็ ให้ลองเดินแบบ interval walking แทนก็ได้
ให้เพิ่มความเร็วในการเดินขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งแล้วค่อยลดความเร็วลง
และยังมีวิธีที่ต่างออกไปคือ ให้เดินถือดัมเบลที่มีน้ำหนักเบาไปด้วย
การเดินบนทางลาดกับการวิ่ง
เดินไปตามทางลาดรวมไปถึงการเดินขึ้นเนิน สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากพอๆกับการวิ่ง
ตอนที่เดินขึ้นทางลาดเราเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าเดินบนทางเรียบ
ให้เรามองทางเดินขึ้นเนินหรือไม่ก็ปรับความชันของลู่วิ่ง (treadmill)
เพิ่มความชันให้มันประมาณ 5,10 หรือ 15 เปอร์เซ็นต์
แหล่งที่มา : https://bit.ly/2BaO6Mm
ไม่พลาดทุกกิจกรรม วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา
กด #Seefirst และ #Following กันไว้ ที่
?facebook.com/wheretorunwhentoride
ค้นหางานแข่งวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ทั่วไทย
ง่าย สะดวก พร้อมบทความสาระดีๆ ที่
?www.vrunvride.com
อัพเดท Running, Cycling,
Triathlon, Gadget, Food ได้ที่
?instragram.com/vrunvride
มาซ้อม วิ่ง ?♂ปั่น ?♂ว่าย ?♂ให้สนุกกันที่
?strava.com/clubs/vrunvride
[AD]
?บัตรเครดิต KTC ตัวจริงเรื่องกีฬา
แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 15% พร้อมแบ่งชำระ 0%
นานสูงสุด 10 เดือน ที่ Supersports ทุกสาขา
? bit.ly/CRCSPORTS
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming