แนะนำ Garmin Edge ที่ดีที่สุดสำหรับการขี่จักรยานในปี 2019
บทความนี้จะมาแนะนำอุปกรณ์ชิ้นสำคัญของนักปั่น นั่นคือ “ไมล์จักรยาน” และแน่นอนว่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้นำในเรื่องนี้ก็คือ Garmin กับอุปกรณ์ตัวเด่นอย่าง Garmin Edge นั่นเอง
สำหรับนักปั่นมือใหม่หรือผู้ที่ยังไม่เคยใช้งานอุปกรณ์ GPS ติดจักรยาน อาจประสบปัญหาที่ว่า ควรเลือกซื้อ Garmin Edge รุ่นไหนดี ? เพราะ Garmin พัฒนาและผลิตออกมาจำหน่ายหลายรุ่นมาก วันนี้เรามี Garmin Edge 5 รุ่น ที่แนะนำให้ซื้อใช้ในปี 2019 มาฝากเพื่อนๆค่ะ
Garmin Edge รุ่นไหนที่ควรซื้อ
Garmin Edge ที่ออกมาในปี 2019 มีด้วยกัน 5 รุ่นที่แตกต่างและรองรับการขับขี่หลากหลายประเภท แต่รุ่นที่ดีที่สุดสำหรับนักปั่นนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความถี่ในการฝึกซ้อม , ความถี่ในการขี่ , รูปแบบในการขี่จักรยาน (ถนน, ภูเขา, วิบากสมบุกสมบัน หรือ cyclo-cross, ทางไกล หรือ enduro ) และงบประมาณ
Garmin Edge แต่ละรุ่นมาพร้อมกับ Spec มาตรฐานระดับสูง และ Monitor Software โดยสามารถเลือกซื้อได้สองแบบ นั่นคือ ซื้อเฉพาะอุปกรณ์ หรือ ซื้อแบบชุดรวม การซื้ออุปกรณ์เพียงอย่างเดียวราคาจะถูกกว่าซื้อแบบเป็นชุด แต่จะไม่รวมรายการเสริมอื่นๆ เช่น จอแสดงผล, ตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ และเซ็นเซอร์ความเร็ว
Garmin Edge ทุกรุ่นสามารถอัปโหลดข้อมูลการขี่ไปยังแอพพลิเคชั่น Garmin Connect ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงแอพฯอื่นๆ เช่น Training Peaks และ Strava นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งอุปกรณ์โดยใช้แพลตฟอร์ม ConnectIQ ได้ด้วย สามารถลง free apps หรือ Widgets อื่นๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นได้อีกด้วย
Garmin Edge 5 รุ่น ที่แนะนำให้ซื้อใช้ในปี 2019
**คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่
Garmin Edge 130
จุดเด่น : Garmin Edge ที่เล็กที่สุดในตลาด แถมราคาไม่แพง
- ราคา: เริ่มต้นที่ US $ 199 / 6,1xx บาท
- การเชื่อมต่อ: ANT +, Bluetooth, WiFi
- เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น: ใช่
- การนำทาง: Breadcrumb
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่: 15 ชั่วโมง
- น้ำหนัก: 33 กรัม
- หน้าจอ: ขนาด 8 นิ้ว / 45 มม., ขาวดำ, ทำงานด้วยปุ่ม
+ ข้อดี: ราคา, อายุการใช้งานแบตเตอรี่, น้ำหนักเบา
– ข้อด้อย: ไม่มีแผนที่ฐาน
แม้จะเป็นรุ่นที่อยู่ในระดับล่างๆในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Garmin แต่ Edge 130 ก็ถือว่าใช้งานได้ดี ขาดก็แต่หน้าจอสีและหน้าจอสัมผัส เพราะรุ่นนี้เป็นหน้าจอขาวดำแต่มีความคมชัดเทียบเท่ากับหน้าจอสีบางรุ่นในตลาด
Garmin Edge 130 มีการนำทางที่จำกัดเพียงเส้นทาง breadcrumb ไม่มีแผนที่ฐานติดตั้งมาให้
แต่ก็สามารถแสดงค่าการวัดต่างๆได้ เช่น power, cadence (รอบขา) และอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึง Live Strava Segments สิ่งที่ทำให้ Garmin Edge 130 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมก็คือ ฟังก์ชั่นที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ในราคาที่จ่ายได้
Garmin Edge 530
จุดเด่น : Garmin ในซีรีส์ 500 ที่สมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบัน
- ราคา: เริ่มต้นที่ $ 299 / 9,1xx บาท
- การเชื่อมต่อ: ANT +, Bluetooth, WiFi
- เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น: ใช่
- การนำทาง: OpenStreet Map
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่: 20 ชั่วโมง
- น้ำหนัก: 8 กรัม
- หน้าจอ: ขนาด 6 นิ้ว / 66 มม., หน้าจอสี, ใช้ปุ่ม
+ ข้อดี: น้ำหนักเบา, การนำทางที่ดีขึ้น, หน้าจอสี
– ข้อด้อย: การตั้งค่าใช้งานครั้งแรกค่อนข้างซับซ้อน
Garmin Edge 530 มีการเชื่อมต่อ GPS และตัววัดการฝึกซ้อมเหมือนรุ่นอื่นๆในระดับพรีเมี่ยม มีหน้าจอสีความละเอียดสูงขนาด 2.6 นิ้ว และยังคงใช้งานด้วยปุ่ม มีตัววัด ClimbPro ซึ่งช่วยบอกระดับความชันโดยการแสดงพารามิเตอร์ เช่น ascent, grade
อายุการใช้งานแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 20 ชั่วโมง ซึ่งสามารถเพิ่มได้ถึง 40 ชั่วโมงโดยใช้ชุดชาร์จของ Garmin ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการปั่นออกไปเที่ยวไกลๆ มีโพรเซสเซอร์ออนบอร์ดตัวใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มความเร็วในการโหลดแผนที่
Garmin Edge 830
จุดเด่น : GPS หน้าจอสัมผัส ราคาไม่แพงสำหรับนักกีฬาและนักปั่นระดับมืออาชีพ
- ราคา: เริ่มต้นที่ $ 399 / 12,2xx บาท
- การเชื่อมต่อ: ANT +, Bluetooth, WiFi
- เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น: ใช่
- การนำทาง: OpenStreet Map
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่: 20 ชั่วโมง
- น้ำหนัก: 1 กรัม
- หน้าจอ: ขนาด 6 นิ้ว / 66 มม., สีแบบเต็มหน้าจอสัมผัส
+ ข้อดี: หน้าจอสัมผัส, ระบบนำทางที่ปรับปรุงใหม่, หน่วยประมวลผลที่รวดเร็ว
– ข้อด้อย: การตั้งค่าใช้งานครั้งแรกค่อนข้างซับซ้อน
มี Trailforks ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงแผนที่และการให้คะแนนมากกว่า 80 ประเทศ พร้อมด้วยมาตรวัดสำหรับจักรยานเสือภูเขารุ่นใหม่ที่นับจำนวนการกระโดด, ระยะทาง และ hang time
ใช้โปรเซสเซอร์ GPS ของ Sony ทำให้มีความแม่นยำของ GPS ที่ดีขึ้น อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานขึ้น สามารถนำทางไปยังที่อยู่ที่เฉพาะเจาะจง นำทางแบบ turn-by-turn รายละเอียดแผนที่และการแจ้งเตือนผู้ใช้
มีหน้าจอสีเช่นเดียวกับ Edge 530 ขนาด 2.6 นิ้ว แต่เพิ่มฟังก์ชั่นหน้าจอสัมผัสด้วย haptics ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น ในการใช้งานขณะมือเปียกหรือเมื่อสวมถุงมือ
Garmin Edge Explore
จุดเด่น : เครื่องมือนำทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับสาวก Garmin ที่ชื่นชอบการผจญภัยทั้งขี่ แข่ง และฝึกซ้อม
- ราคา: เริ่มต้นที่ US $ 249 / 7,6xx บาท
- การเชื่อมต่อ: ANT +, Bluetooth, WiFi
- เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น: ใช่
- การนำทาง: OpenStreet Map
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่: 12 ชั่วโมง
- น้ำหนัก: 116 กรัม
- หน้าจอ: ขนาด 3 นิ้ว / 76 มม. หน้าจอสีแบบสัมผัส
+ ข้อดี: ราคา, การนำทาง, หน้าจอสัมผัส, หน้าจอสี
– ข้อด้อย: ไม่รองรับ Power meter
Garmin Edge Explore เน้นไปที่การฝึกซ้อมหรือการแข่งขัน ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว แต่ยังคงต้องการประโยชน์จากหน้าจอสีแบบสัมผัสขนาดใหญ่และการนำทาง
รุ่นนี้สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ แต่ไม่รองรับ Power meter ที่วัดค่าพารามิเตอร์และปริมาณพลังงานไฟฟ้าต่างๆ เช่นเดียวกันกับ Live Strava Segments
การปรับแต่งจำกัดเพียงสองหน้าจอ แต่สามารถปรับแต่งได้มากถึงสิบข้อมูลต่อหน้า แยกหน้าต่างหากสำหรับแผนที่, ระดับความสูง (elevation), เข็มทิศ และ GroupTrack
Garmin Edge 1030
จุดเด่น : เป็นอุปกรณ์ Garmin Edge ที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
- ราคา: เริ่มต้นที่ $ 599 / 18,4xx บาท
- การเชื่อมต่อ: ANT +, Bluetooth, WiFi
- เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น: ใช่
- การนำทาง: OpenStreet Map
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่: 20 ชั่วโมง
- น้ำหนัก: 123 กรัม
- หน้าจอ: ขนาด 5 นิ้ว / 89 มม. หน้าจอสีแบบสัมผัส
+ ข้อดี: ความชัดเจนของหน้าจอ, ตัวชี้วัดการฝึกซ้อม
– ข้อด้อย: ราคา, น้ำหนัก
Edge 1030 เป็นอุปกรณ์ GPS ของ Garmin ที่มีคุณสมบัติมากมายที่น่าประทับใจที่สุด นั่นคือ หน้าจอสัมผัสสีขนาด 3.5 นิ้วที่มีความคมชัดเป็นพิเศษ ซึ่งให้มุมมองที่ชัดเจนและไร้สิ่งกีดขวางบนหน้าจอ
ในฐานะที่เป็นอุปกรณ์นำทางรุ่น Edge 1030 จึงสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนำทางแบบ turn-by-turn การแจ้งเตือน ไปจนถึงการสร้างเส้นทาง สามารถเชื่อมต่อกับ Connect IQ และแอพพลิเคชั่นเสริมอื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์เสริมของ Garmin เช่น Vector พาวเวอร์มิเตอร์แบบติดบันได, ระบบเรดาร์ Varia และกล้อง Virb
แม้ว่าจะออกมาสองปีแล้ว แต่ Garmin Edge 1030 ยังคงทันสมัยและใช้งานได้ดีในปัจจุบัน
เหตุผลหลักที่นักปั่นเลือกใช้ไมล์จักรยานมากกว่าใช้โทรศัพท์มือถือก็คือ ความแม่นยำของ GPS และแบตเตอรี่ที่มีระยะเวลาใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ใครๆก็เลือกใช้ Garmin Edge
ที่มา : cyclingnews
? ♂️
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming