วันอาทิตย์, ตุลาคม 12, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Training

7 ท่า Plyometric Exercises เพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

thip by thip
10/10/2025
in Training
0
ท่า Plyometric Exercises สำหรับนักวิ่ง เพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

image by freepik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

ท่า Plyometric Exercises คือท่าที่มีการระเบิดพลังกล้ามเนื้อระหว่างการฝึก มีระดับความเข้มข้นสูง ซึ่งจำเป็นต้องใช้พลังของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นเพื่อสร้างพลังในการเคลื่อนไหวขึ้นมา

ท่าประเภทนี้จะช่วยเสริมสร้างระดับความแข็งแรง พละกำลังและความเร็ว และเป็นการฝึกกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ระบบหลอดเลือดและหัวใจ ไปในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นท่าสารพัดประโยชน์เลยก็ว่าได้

ประโยชน์ของการฝึกท่า Plyometric Exercises

  1. เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และทำให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจแข็งแรงขึ้น
  2. ท่าพวกนี้เป็นท่าที่มีการเผาผลาญแคลอรี่เยอะ
  3. เพิ่มสมรรถนะในการระเบิดพลังกล้ามเนื้อ เพิ่มพละกำลังและความเร็ว
  4. เพิ่มมวลกระดูกเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
  5. เสริมสมรรถนะทางด้านการกีฬา
  6. เสริมสมรรถนะให้ร่างกายได้ โดยใช้อุปกรณ์เพียงเล็กน้อย 

7 ท่า Plyometric Exercises

ไม่ว่าตอนนี้เพื่อน ๆ จะมีระดับความฟิตแค่ไหนก็ตาม หากต้องการเพิ่มพละกำลังและความเร็วก็ให้เลือกท่าเหล่านี้ไปฝึกซัก 2-3 ท่า ก่อนการฝึกอย่าลืมวอร์มอัพด้วยการออกกำลังกายคาร์ดิโอเบาๆสัก 10 นาทีและใช้ท่ายืดกล้ามเนื้อประเภท Dynamic stretches ด้วย

ท่าที่ 1 Jump Squats

ท่านี้จะต่างจากท่า Squat ธรรมดาตรงที่มันเป็นการออกกำลังกายแบบ Plyometric ซึ่งในการฝึกแต่ละครั้งจะต้องมีการระเบิดพลังกล้ามเนื้อเพื่อที่จะกระโดดขึ้นมาตรง ๆ

  1. เริ่มต้นด้วยการยืนกางขาให้กว้างพอๆกับหัวไหล่ เกร็งกล้ามเนื้อแกนกลาง ยกอกขึ้น หลังตั้งตรง
  2. จากนั้นให้ทำท่า Squat ย่อตัวลงมา ด้วยการงอเข่า ดันก้นลงไปด้านหลังคล้ายนั่งเก้าอี้
  3. ออกแรงดันส้นเท้าระเบิดพลังกล้ามเนื้อกระโดดขึ้นมาเป็นเส้นตรงและยืดตัวตรงกลางอากาศ
  4. ในจังหวะลงพื้นต้องลงอย่างนุ่มนวล มีการงอเข่าลงมาเพื่อลดแรงกระแทก จากนั้นให้ทำท่า Squat แล้วโดดต่อไปเรื่อย ๆ
  5. พยายามฝึกให้เร็ว และมีระยะเวลาที่เราอยู่บนพื้นให้น้อยเท่าที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้

ท่าที่ 2 Burpee

ท่านี้เป็นท่าที่ทำแล้วเหนื่อยมากสำหรับคนที่พึ่งเริ่มฝึก แต่มันสามารถช่วยฝึกกล้ามเนื้อได้ทั่วทั้งร่างกายเลย

  1. เริ่มต้นด้วยการทำท่า Squat ย่อตัวลงมา
  2. วางมือลงกับพื้นกางแขนวางตำแหน่งมือให้กว้างกว่าเท้าเล็กน้อย
  3. ทิ้งน้ำหนักลงไปที่มือแล้วเอาเท้าโดดไปด้านหลังแล้ววิดพื้น
  4. ตอนวิดพื้นอย่าลืมทำแขนให้ได้มุม 90 องศา หย่อนหน้าอกเข้าหาพื้นแต่อย่าให้แตะพื้น จากนั้นออกแรงดันฝ่ามือยกตัวขึ้น
  5. ใช้มือดันพื้นยกตัวขึ้น เอาเท้าโดดมาวางไว้ด้านหน้าเพื่อเตรียมตัวกระโดดขึ้นมาตรงๆ ต่อจากนั้นให้ยกตัวยืนขึ้นมาแล้วกระโดดขึ้นมาตรงๆ แล้วนำมือแตะกัน
  6. จังหวะลงพื้นต้องลงอย่างนุ่มนวล ย่อเข่าลงมาแล้วเริ่มต้นทำท่า Squat ทันที คือให้เริ่มใหม่ตั้งแต่ข้อ 1-5 ไปเลย แล้วให้ฝึกซ้ำจนกว่าจะได้จำนวนที่ต้องการ

ท่าที่ 3 Bounding

เป็นท่าที่เหมือนวิ่งไปกระโดดไปในเวลาเดียวกัน ในระหว่างการฝึกควรรักษาระดับความสูงในการกระโดดเอาไว้ให้คงที่

  1. วิ่งไป skip ข้างหน้าแล้วใช้แรงในการเหวี่ยงแขนช่วยยกตัวในการกระโดดขึ้นมา และมีการเกร็งกล้ามเนื้อแกนกลางเพื่อช่วยในการเคลื่อนตัวขึ้นมาด้านบนและไปด้านหน้า ส่วนขาให้วิ่งแบบเด้งสปริงต่อไปเลย
  2. แกว่งแขนสลับกันในทุกครั้งที่โดดขึ้นมา จังหวะลงพื้นให้เด้งขึ้นมาเลยอย่าอยู่บนพื้นนาน

ท่าที่ 4 On-Box Jumps

ท่านี้จะช่วยเสริมสร้างความแข้งแรงให้กับกล้ามเนื้อควอท กล้ามเนื้อสะโพก น่อง ด้านหลังต้นขาและกล้ามเนื้อมัดเล็กในก้นของเรา

  1. สำหรับท่าเริ่มต้นเราจะยืนหันหน้าเข้าหากล่อง ยืนกางขากว้างเท่าหัวไหล่ วางแขนไว้ข้างลำตัว งอเข่าเล็กน้อย สำหรับคนพึ่งเริ่มฝึกให้ใช้กล่องสูง 8-10 นิ้วไปก่อน เมื่อกระโดดได้เก่งขึ้นแล้วเราค่อยจัดการเพิ่มความสูงไปทีละนิดให้ร่างกายมันได้มีเวลาปรับตัว
  2. งอเข่าย่อก้นลงมาคล้ายท่า Squat ออกแรงแกว่งแขนเพื่อช่วยในการกระโดดขึ้นไปบนกล่อง ตอนกระโดดขึ้นไปให้เอาเท้าทั้งสองข้างขึ้นไปพร้อมกันเลย
  3. ก้าวขาถอยหลังลงมาจากกล่อง ให้ก้าวขาลงมาทีละข้าง

ท่าที่ 5 Clapping Push-Ups

เป็นท่าวิดพื้นที่เราจะใช้แขนในการกระโดดยกตัวขึ้นมาเพื่อปรบมือกลางอากาศ ท่านี้จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อแขนและขาให้มีความแข็งแรงจึงช่วยเพิ่มความเร็วในการวิ่ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการระเบิดพลังกล้ามเนื้อในการแกว่งแขน

  1. ให้เริ่มต้นในท่าเตรียมวิดพื้น วางฝ่ามือลงพื้น ปักปลายเท้าลงพื้น เกร็งกล้ามเนื้อแกนกลางทำร่างกายให้เป็นเส้นตรงตั้งแต่หัวจรดเท้า
  2. วิดพื้น 1 ครั้ง งอศอกหย่อนหน้าอกเข้าหาพื้นแต่อย่าให้หน้าอกแตะพื้น
  3. ออกแรงแขนดันตัวกระโดดขึ้นมาจนร่างกายสามารถลอยกลางอากาศได้ชั่วขณะ
  4. รีบปรบมือทันทีอย่ารอช้า เพราะเรากำลังจะลงพื้นในอีกไม่กี่วินาที เวลาลงก็พยายามลงนุ่มนวลแล้วย่อศอกลงมาวิดพื้นต่อ
  5. ทำซ้ำจนกว่าจะครบจำนวน

ท่าที่ 6 Medicine Ball Broad Jumps

สำหรับคนที่เป็นมือใหม่อาจจะใช้วิธีเลียนแบบท่าทางโดยไม่ต้องใช้ Med Ball ไปก่อนก็ได้ เมื่อเกิดความเคยชินแล้วค่อยฝึกโดยใช้ Med Ball น้ำหนัก 10 กิโลกรัม

  1. เริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรง ถือ Med Ball เอาไว้เหนือศีรษะ ยืนกางขากว้างกว่าหัวไหล่เล็กน้อย
  2. หย่อนแขนลงมาจน Med Ball สูงระดับหน้าอกพร้อมกับทำท่า Squat ลงมาเล็กน้อย ย่อเข่าลงมา
  3. ออกแรงระเบิดพลังกล้ามเนื้อเท้าและขาโดดไปด้านหน้า โยนลูกบอลออกไปหากำแพงตรงๆให้มันเด้งกลับมาหาเรา ในจังหวะที่เท้าลงพื้นให้ลงอย่างนุ่มนวล
  4. ก้าวเท้าถอยหลังกลับออกมา ให้ได้ระยะทางที่เหมาะสม
  5. ฝึกซ้ำจนกว่าจะครบจำนวน

ท่าที่ 7 Depth Jumps

ท่านี้เป็นท่าที่ช่วยฝึกกล้ามเนื้อส่วนล่างเป็นอย่างดี จะสามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการวิ่งได้ ในระหว่างการฝึกจะเกิดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งจะเพิ่มความเร็วในการทำงานของกล้ามเนื้อและเพิ่มอัตราการระเบิดพลังกล้ามเนื้อ

  1. เริ่มต้นด้วยการยืนอยู่บนกล่องสูง 6-30 นิ้ว (จะสูงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของนักวิ่ง)
  2. ลงมาจากกล่องโดยใช้ขาทีละข้าง ลงให้คล้ายกับการปล่อยตัวลงมาตามแรงโน้มถ่วงนะ ดูตัวอย่างในคลิป ในระหว่างลงพื้นให้สะสมเรี่ยวแรงไว้ที่เข่าเตรียมตัวกระโดดในขั้นถัดไป
  3. ทันทีที่ลงพื้นให้กระโดดขึ้นมาทำตัวตรงกลางอากาศ โดดให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย สังเกตในคลิปตอนเค้าลงจากกล่องเค้าลงมาในท่าย่อขาเตรียมโดดเลย พอเท้าแตะพื้นก็กระโดดทันทีเลย
  4. แกว่งแขนขึ้นด้านบนเพื่อรักษาโมเมนตัม
  5. หยุดสักพักนึง แล้วฝึกครั้งต่อไป

ควรฝึกท่า Plyometric Exercises บ่อยแค่ไหน

ให้เราฝึก Strength Training ตามปกติสัปดาห์ละสองครั้ง แล้วปิดท้ายด้วยการฝึกท่า Plyometric ทุกครั้งเลย สรุปว่าสองครั้งต่อสัปดาห์นั่นเอง

แหล่งที่มา : http://bit.ly/4nnafg4


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Running #Training
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: Exercisesworkoutท่าฝึกกล้ามเนื้อท่าออกกำลังกาย
Previous Post

อาดิดาส เผยโฉมรองเท้าวิ่ง Adizero Adios Pro 4 Bangsaen21-2025 พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

Next Post

ตัวอย่างการฝึกวิ่ง Interval รวมข้อมูลทุกเรื่องที่ผู้ฝึกจำเป็นต้องรู้

thip

thip

Related Posts

กลศาสตร์ของความเร็ว วิธีพัฒนาฟอร์มการวิ่ง

กลศาสตร์ของความเร็ว : ทำไมฟอร์มการวิ่งถึงส่งผลต่อเพซของเรา

12/10/2025
ตัวอย่างการฝึกวิ่ง Interval รวมข้อมูลทุกเรื่องที่ผู้ฝึกจำเป็นต้องรู้

ตัวอย่างการฝึกวิ่ง Interval รวมข้อมูลทุกเรื่องที่ผู้ฝึกจำเป็นต้องรู้

11/10/2025
โปรแกรมฝึกวิ่ง Marathon 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่ง Marathon 16 สัปดาห์

05/08/2025
โปรแกรมฝึกวิ่ง Half Marathon สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์

โปรแกรมฝึกวิ่ง Half Marathon สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์

04/08/2025
โปรแกรมฝึกวิ่ง 10 กม. ระยะเวลา 8 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10 กม. ระยะเวลา 8 สัปดาห์

03/08/2025
รูปแบบการฝึกวิ่ง เพิ่มความเร็ว วิ่งได้ไกลขึ้น ไม่หมดแรงง่าย

รูปแบบการฝึกวิ่ง เพิ่มความเร็ว วิ่งได้ไกลขึ้น ไม่หมดแรงง่าย

01/08/2025
Next Post
ตัวอย่างการฝึกวิ่ง Interval รวมข้อมูลทุกเรื่องที่ผู้ฝึกจำเป็นต้องรู้

ตัวอย่างการฝึกวิ่ง Interval รวมข้อมูลทุกเรื่องที่ผู้ฝึกจำเป็นต้องรู้

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 41.8k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

โปรแกรมการซ้อมปั่นจักรยาน 8 สัปดาห์ สำหรับระยะทาง 100 กม.

โปรแกรมการซ้อมปั่นจักรยาน 8 สัปดาห์ สำหรับระยะทาง 100 กม.

by thip
25/07/2020

Exoskeletons อุปกรณ์ robotic ตัวช่วยนักวิ่งในการลดต้นทุนการใช้พลังงาน

Exoskeletons อุปกรณ์ robotic ตัวช่วยนักวิ่งในการลดต้นทุนการใช้พลังงาน

by thip
19/10/2019

เคทีซี โรงพยาบาลกรุงเทพ

เคทีซี โรงพยาบาลกรุงเทพ จับมือกันจัดโปรแกรมตรวจสุขภาพรังไข่-มดลูก

by VRUN VRIDE
18/09/2018

วิธีที่จะช่วยให้เราวิ่งได้ไกลมากขึ้น

11 วิธีที่จะช่วยให้เราวิ่งได้ไกลมากขึ้น

by thip
14/05/2024

เรื่องราวจุดเปลี่ยนและเคล็ดลับของสตีเฟ่นที่ทำให้เขาลดน้ำหนักได้กว่า100kg

เรื่องราวจุดเปลี่ยนและเคล็ดลับของสตีเฟ่นที่ทำให้เขาลดน้ำหนักได้กว่า100kg

by thip
11/05/2019

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (173)
  • Fitness & Health (377)
  • News (895)
  • Review (126)
  • Running (956)
  • Stories (201)
  • Training (477)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี