สำหรับนักวิ่งมาราธอนและนักวิ่งอัลตร้ามาราธอนนั้น ประโยค “5 กิโลเมตร” นั้นใช้ในการวัดระยะทางที่พวกเขาวิ่งออกมาไกลจากจุดเริ่มต้น และแทบที่จะไม่ได้เอามาพูดถึงเรื่องการฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งขันการวิ่งแบบ 5k กันเลย แต่เราก็ควรพิจารณาถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงแข่งวิ่งระยะสั้นด้วย ถึงแม้ว่าเรามีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่จะไปลงแข่งการวิ่งระยะทางไกลก็ตาม
เป็นการเพิ่มความสามารถทางด้านแอโรบิค
การฝึกเพื่อลงแข่งวิ่งระยะสั้นให้ประโยชน์ต่อความสามารถทางด้านแอโรบิคของเราเป็นอย่างมาก พวกนักกีฬาที่มีความอดทนส่วนใหญ่มักจะชอบออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นต่ำ-ปานกลาง แต่ถึงอย่างนั้นหากเพื่อนๆต้องการเพิ่มระดับให้สูงขึ้นไปอีกก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ภายในช่วงเวลาอันสั้น ให้เราถือซะว่าการฝึกวิ่ง 5k-10k นั้นคือการฝึกเพิ่มความเร็ว และในระหว่างการฝึกนั้น เราก็จะได้พัฒนาร่างกายให้สามารถใช้ออกซิเจนได้มากขึ้น ยิ่งสามารถใช้ออกซิเจนได้มากเท่าไหร่ ยิ่งมีความสามารถทางกายภาพเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
ความหนาแน่นของไมโทคอนเดรีย
การวิ่งระยะสั้นและการฝึกวิ่งระยะสั้นนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามหน้าที่มากขึ้นและสามารถเพิ่มความหนาแน่นของไมโทคอนเดรีย (mitochondria) ในร่างกายของเรา
ไมโทคอนเดรียคือเซลล์กล้ามเนื้อซึ่งมีหน้าที่ช่วยสร้างอะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (adenosine triphosphate: ATP) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการหดตัวของกล้ามเนื้อ ถ้าหากเราพัฒนาความสามารถของกล้ามเนื้อในการใช้ออกซิเจนในการวิ่งระยะไกล้ เราจะได้เห็นผลลัพธ์ที่ดีในการวิ่งระยะไกลด้วย นี่ถือเป็นประโยชน์ที่ดีเยี่ยมอันดับแรกๆที่การฝึกวิ่งระยะไกลจะส่งผลต่อนักวิ่งระยะทางไกล
ความอึดจะไม่หายไปไหนหรอก
นักวิ่งระยะไกลกลัวว่าจะสูญเสียความอึดจากการซ้อมวิ่งระยะไกล้ แต่อย่าลืมว่าพวกนักกีฬาที่มีรูปแบบการฝึกที่ผสมผสานกันหลากหลายจะมีประสิทธิภาพในการวิ่งมากกว่า และมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์การวิ่งและแก้ปัญหาทางเทคนิคต่างๆในการวิ่งระยะทางไกล ควรใส่การฝึกเพิ่มความเร็วลงไปในตารางฝึกของเราด้วย การการเตรียมตัวลงแข่งวิ่งแบบ 5k-10k จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและจะช่วยเพิ่มเพซขั้นต่ำของเรา
ความเร็วและประสิทธิภาพขาจะเพิ่มขึ้น
การออกกำลังกายแบบแอโรบิคจะช่วยเพิ่มความเร็วให้กับขาของเราและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง ช่วยเพิ่มความทนทานต่อกรดแลคติก โดยการทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะที่มีกรดแลคติกสูงและปล่อยให้ร่างกายฟื้นตัว จะเป็นการช่วยฝึกร่างกายให้มีความทนทานต่อกรดแลคติกที่ถูกปล่อยออกมาเป็นจำนวนมาก
ความสมดุลโดยรวม
การเพิ่มการออกกำลังกายแบบแอโรบิคเพื่อเตรียมตัวลงแข่งการวิ่งระยะไกล้นั้นควรทำอย่างระมัดระวัง และควรมีเป้าหมายในการพัฒนาช่วงเวลาที่มีอัตราการเต้นของหัวใจสูงตลอด และควรเพิ่มระยะเวลาในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 10% ยกตัวอย่างเช่น ในสัปดาห์ที่สองเราออกกำลังกายหนักไปวันละ 12 นาที ในสัปดาห์ต่อไปก็ควรเพิ่มเป็นวันละ 13.5 หรือ 15 นาที
การออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างหนักจะใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นถ้าหากมีแผนการที่ยังคงรักษาระยะทางในการวิ่งเอาไว้ก็ควรที่จะมีระยะทางวิ่งสำหรับใช้ในการวอร์มอัพและคูลดาวน์ หรือควรมีการวิ่งรอบที่สองในวันที่ออกกำลังกายหนักโดยวิ่งในระดับที่มีอัตราหัวใจเต้นช้า เพื่อขับถ่ายของเสียในร่างกายที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างหนักนั่นเอง
แหล่งที่มา :
[AD]
?♂วิ่ง?กิน?เที่ยว เรื่องเดียวกัน กับบัตรเครดิต KTC
ลุ้นแพ๊คเกจ ทัวร์ วิ่ง-กิน-เที่ยว ที่ ฮ่องกง
ไปพร้อม พี่ป๊อก อิทธิพล สมุทรทอง,
นาฬิกา SUUNTO 9 และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 8 แสนบาท
รายละเอียดเพิ่มเติม ? bit.ly/วิ่ง-กิน-เที่ยว-KTC
.
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming