วันเสาร์, พฤษภาคม 24, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

5 นิสัยแย่ๆของนักวิ่งที่ต้องรีบแก้ไขตามวิธีในบทความนี้

thip by thip
29/03/2019
in Running
0
5 นิสัยแย่ๆของนักวิ่งที่ต้องรีบแก้ไขตามวิธีในบทความนี้
  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

5 นิสัยแย่ๆของนักวิ่งที่ต้องรีบแก้ไขตามวิธีในบทความนี้

หลังจากเริ่มวิ่งไปได้สองสามเดือนเพื่อนๆจะพบว่าตัวเองอาจมีนิสัยเสียเหล่านี้
ซึ่งนิสัยพวกนี้จะทำให้เรามีอาการบาดเจ็บและส่งผลต่อความคืบหน้าในการฝึกได้
เรามาดูกันเลยค่ะว่านิสัยเสียทั้ง 5 อย่างนี้มีอะไรบ้าง และมีข้อไหนบ้างที่เพื่อนๆแอบทำอยู่
พิเศษ! อ่านบทความนี้แถมฟรีวิธีกำจัดนิสัยเสีย  😀

1. ออกกำลังกายมากเกินไป

นักวิ่งหลายคนหักโหมกับการฝึกซ้อมจนเกินขีดจำกัดของร่างกาย
ประเภทที่ออกกำลังกาย 7 วันต่อสัปดาห์ และไม่ยอมให้ร่างกายได้มีเวลาฟื้นตัว
อันนี้ถือเป็นความผิดพลาดอย่างแรง! การวิ่งที่มากเกินไปถือเป็นการ Overtraining
ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายอาจนำไปสู่อาการบาดเจ็บ เจ็บปวดเรื้อรัง ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ
อารมณ์เสีย หมดแรงบันดาลใจ และอื่นๆ การท้าทายความสามารถของตัวเอง
และการเพิ่มขีดจำกัดของตัวเองเป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่การทำแบบนี้อย่างต่อเนื่องจะทำให้เรา
ไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ เพราะร่างกายอาจจะเดี้ยงไปก่อนที่เราจะทำเป้าหมายสำเร็จ

วิธีการแก้ไข

ให้เพื่อนๆทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อไม่ให้เกิดการ Overtraining
– หลังจากวันที่เราวิ่งอย่างหนักให้หยุดพักในวันถัดไป : วันพักจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของร่างกายและประสิทธิภาพในการวิ่ง
– กำหนดตารางสำหรับพัก : บางสัปดาห์เราอาจจะวิ่งน้อยลงกว่าปกติ โดยลดระยะทางการวิ่งลง 40-60% ในทุกสัปดาห์ที่ 4 หรือสัปดาห์ที่ 5
– การฝึก Cross-training : การพักไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่เฉยๆเสมอไป ยังมีทางเลือกอื่น เช่น การเดิน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และการเล่นโยคะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายของเรา
– อย่าลืมกฏ 10% : ในแต่ละสัปดาห์อย่าเพิ่มระยะทางการวิ่งเกิน 10% โดยเด็ดขาด!
– ฟังเสียงร่างกายตัวเอง : จงมองหาสัญญาณของการ Overtraining อยู่ตลอด เช่น อัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้น อาการเมื่อยล้า อาการปวดถาวร ให้สังเกตอาการของร่างกายและอย่าฝืนวิ่งทั้งๆที่เจ็บ

2. มีฟอร์มการวิ่งที่ไม่ดี

ฟอร์มการวิ่งที่ไม่ดีจะทำให้ประสิทธิภาพในการวิ่งลดลง ร่างกายคนเราถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการวิ่ง
แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีฟอร์มการวิ่งที่ดีได้โดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นฟอร์มการวิ่งที่ไม่ดี
คือความผิดพลาดที่พบเจอได้บ่อยมากในกลุ่มนักวิ่ง เมื่อเรามีฟอร์มการวิ่งที่ถูกต้องจะช่วยลดอาการ
ปวดกล้ามเนื้อและช่วยลดอาการบาดเจ็บได้ ดังนั้นคุณภาพของการวิ่งเป็นสิ่งสำคัญกว่าปริมาณแน่นอน

วิธีการแก้ไข

– คอยสังเกตร่างกายส่วนบน : ให้เราวิ่งตัวสูงๆ และเอนตัวไปข้างหน้านิดนึง
– สร้างภาวะ flow หรือภาวะลื่นไหล : คอยแกว่งข้อศอกไปด้านหน้าด้านหลังตลอดเวลา โดยมีจังหวะที่เข้ากับการเคลื่อนไหวของร่างกายส่วนล่าง
– ผ่อนคลายตลอดเวลา : ร่างกายเราต้องผ่อนคลายตลอดโดยเฉพาะส่วนใบหน้า ไหล่ และร่างกายส่วนล่าง
– ฝึกกับโค้ชหรือเข้าคลาสเรียน : ให้เข้าเรียนกับโค้ชบ้างก็ดี โดยอาจจะเป็นแค่ช่วยระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น โดยให้เข้าคลาสเพื่อแก้ไขฟอร์มการวิ่งและเรียนรู้เทคนิคต่างๆ

3. เติมพลังผิดวิธี

อย่าได้ประเมินความสำคัญในเรื่องการรับประทานอาหารต่ำไป เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญกับการวิ่ง
และสุขภาพโดยรวมของเรา การวิ่งจะมีการดึงพลังงานในร่างกายมาใช้ โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน
ดังนั้น หลังจากการวิ่งให้เราเลือกกินอาหารเพื่อเติมพลังงานให้กล้ามเนื้อมีความทนทานและมีพลัง
แถมยังช่วยในการฟื้นตัวอีกด้วย เมื่อไม่ได้รับสารอาหารที่ถูกต้อง เราอาจจะอยู่ในภาวะอ่อนเพลีย บาดเจ็บง่าย
และรู้สึกเหนื่อยหน่ายได้เร็วขึ้น ซึ่งเราไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นใช่ไหมคะ

วิธีการแก้ไข

– วัดปริมาณแคลอรี่ : เราจะเติมแคลอรี่คืนให้ร่างกายเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับประเภทและปริมาณในการวิ่ง ให้ใช้ Calorie calculator (เครื่องมือคำนวนแคลอรี่ออนไลน์หรือแบบที่เป็น App) เพื่อคำนวนการใช้พลังงานของร่างกาย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นของกิจกรรมที่เราทำด้วย
– เติมพลังงานทันที : หลังจากที่ซ้อมวิ่งอย่างหนัก ให้ทานพวกขนมที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและมีโปรตีนปานกลาง
– เลือกทานอาหารที่ดี : ให้เน้นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต ผัก โปรตีน (เนื้อไม่ติดมัน) และไขมันดี
– ดื่มน้ำให้เพียงพออยู่ตลอด : ให้ดื่มน้ำทั้งก่อน หลัง และระหว่างการวิ่ง เพื่อป้องการอาการขาดน้ำและเติมความสดชื่นให้ร่างกาย 

4. นอนน้อยเกินไป

การนอนน้อยเกินไปเป็นเรื่องที่แย่และส่งผลให้เกิดอันตรายกว่าการ Overtraining
การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลให้เรามีการตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวลดลง ฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล
ส่งผลให้อารมณ์เสียหงุดหงิดง่าย ทำให้การวิ่งของเราไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่
ในขณะที่การนอนหลับอย่างเพียงพอจะทำให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นตัว การวิ่งก็จะมีประสิทธิภาพ

วิธีการแก้ไข

– จดบันทึก : จดบันทึกเวลาการเข้านอนลงในไดอารี่ มองหารูปแบบและช่วงเวลาการเข้านอนที่เหมาะสมกับตัวเอง
– ค้นหาช่วงระยะเวลานอนของเราให้เจอ : การวิจัยพบว่าคนเราควรจะนอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน โดยไม่โดนขัดจังหวะในการนอนหลับ ให้เราลองหาเวลาเข้านอนที่เข้ากับตารางการใช้ชีวิตประจำวันและ Life Style ของเรา
– เข้านอนไวๆ : วิธีนี้ดีที่สุดแล้วล่ะสำหรับผู้ที่เป็นนักวิ่ง เพราะยิ่งเข้านอนเร็วมากเท่าไหร่ เวลานอนก็จะครบชั่วโมงในช่วงเช้ามืดของอีกวันพอดี เหมาะสำหรับใครที่ชอบวิ่งยามเช้า หลบแดด กระตุ้นการตื่นตัวในการเริ่มวันใหม่ที่สดใส วิธีนี้ถือว่าเข้าล็อค!

5. ไม่ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ

ต้องบอกให้รู้กันก่อนว่าการยืดตัวแบบ Static stretches ก่อนการวิ่งนั้น
ถือเป็นความผิดพลาดและเป็นอันตราย เพราะว่าจริงๆแล้วการยิดตัวแบบ Static stretches
เขาเอาไว้ทำกันหลังจากการวิ่งเสร็จ พูดง่ายๆก็คือทำกันในช่วงคูลดาวน์นั่นเอง

ส่วนช่วงวอร์มอัพให้เรายืดตัวแบบ Dynamic Stretching
การยืดตัวหลังการวิ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งและลดโอกาสในการได้รับการบาดเจ็บได้

วิธีการแก้ไข

– ทำให้เป็นนิสัย : ให้ยืดตัวทั้งก่อนและหลังซ้อมจนกลายเป็นนิสัยไปซะเลย
– ทำให้ถูกวิธี : ยืดกล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างน้อย 30-45 วินาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ทั่วถึง
– ค้นหารูปแบบการยืดตัวที่เราชอบ : ในอินเตอร์เน็ตจะมีบทความที่แนะนำท่ายืดตัวให้เราดูมากมาย เลือกเอาไปใช้ได้เลย หรือในเว็บไซต์ vrunvride.com ของเราก็มีบทความแนะนำท่ายืดเหยียดพร้อมคลิปวิดีโอที่สามารถทำตามได้เลยอยู่หลายบทความนะคะ เพื่อนๆลองค้นหาดูได้เลย

เพื่อนนักวิ่งท่านใดที่กำลังมีนิสัยแย่ๆเหล่านี้อยู่ล่ะก็ ลองนำวิธีแก้ไขไปดัดนิสัยตัวเองกันดูนะคะ
ตอนนี้ต้องขอตัวไปนอนพักยาวๆก่อนแล้วค่ะ พักนี้นอนน้อยไปหน่อย มัวแต่ดูซีรีย์ใน Netflix
แล้วก็อ้างว่าตื่นมาวิ่งไม่ไหว ร่างกายอ่อนเพลียจังเล้ย  😛

แหล่งที่มา : https://bit.ly/2Uba25n



ไม่พลาดทุกกิจกรรม วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา

กด #Seefirst และ #Following กันไว้ ที่
?facebook.com/wheretorunwhentoride

ค้นหางานแข่งวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ทั่วไทย
ง่าย สะดวก พร้อมบทความสาระดีๆ ที่
?www.vrunvride.com

อัพเดท Running, Cycling,
Triathlon, Gadget, Food ได้ที่
?instragram.com/vrunvride

มาซ้อม วิ่ง ?‍♂ปั่น ?‍♂ว่าย ?‍♂ให้สนุกกันที่
?strava.com/clubs/vrunvride

[AD]
?บัตรเครดิต KTC ตัวจริงเรื่องกีฬา
แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 15% ที่ Sports World ทุกสาขา
? bit.ly/SPORTSWORLD

#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: runnerrunningRunning GuideRunning Trickการวิ่งนักวิ่งวิ่ง
Previous Post

Chapter ใหม่เลย ของ The North Face กับรองเท้าวิ่งเทรล

Next Post

10 เคล็ดลับฝึกวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่

thip

thip

Related Posts

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

22/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

19/05/2025
ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

5 ท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อขาสำหรับนักวิ่ง

16/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ในระยะเวลา 10 สัปดาห์

13/05/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลัง สำหรับนักวิ่ง

5 ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลัง เพื่อปรับฟอร์มการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น

10/05/2025
โปรแกรมวิ่ง 10K 8 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่ พิชิตเส้นชัยครั้งแรก

โปรแกรมวิ่ง 10K 8 สัปดาห์ สำหรับมือใหม่ พิชิตเส้นชัยครั้งแรก!

07/05/2025
Next Post
10 เคล็ดลับฝึกวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่

10 เคล็ดลับฝึกวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 33k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

4 ท่าฝึกกล้ามเนื้อขาหลัง (Hamstring) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น

4 ท่าฝึกกล้ามเนื้อขาหลัง (Hamstring) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น

by thip
03/03/2020

อาหาร 11 ชนิดที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม

อาหาร 11 ชนิดที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการออกกำลังกาย

by thip
15/09/2020

Kenenisa Bekele ถอนตัวจากการแข่งขันลอนดอนมาราธอน 2020

ด่วน! Kenenisa Bekele ถอนตัวจากการแข่งขันลอนดอนมาราธอน 2020

by thip
03/10/2020

ASICS เปิดตัวสุดยอดคอลเลคชั่น MODERN TOKYO

ASICS เปิดตัวสุดยอดคอลเลคชั่น MODERN TOKYO ด้วยสีสันอันโดดเด่นสะท้อนความทันสมัยของกรุงโตเกียว พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

by VRUN VRIDE
29/04/2020

4 รูปแบบการฝึกวิ่งในสนามกีฬา

4 รูปแบบการฝึกวิ่งในสนามกีฬา ที่สนุกและเหมาะสำหรับมือใหม่

by thip
27/08/2021

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (367)
  • News (870)
  • Review (126)
  • Running (939)
  • Stories (201)
  • Training (460)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี