วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 26, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

3 รูปแบบการฝึกวิ่ง ที่ช่วยเพิ่มความเร็วได้จริง

thip by thip
26/06/2025
in Running, Training
0
รูปแบบการฝึกวิ่ง เพื่อเพิ่มความเร็ว

Image by freepik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

หากเพื่อนๆ เป็นนักวิ่งในระดับเริ่มต้น เป้าหมายในระยะยาวของเราก็คือการวิ่งให้เร็วขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีแผนการฝึก Strength Training อย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ เพื่อเสริมสร้างพละกำลังให้กล้ามเนื้อและจะต้องฝึกท่าที่ใช้ได้ผลกับนักวิ่งด้วย และในบทความนี้เรามี 3 รูปแบบการฝึกวิ่ง พร้อมแนะนำ 8 ท่าฝึก Strength Training ที่ใช้ฝึกควบคู่กัน เพื่อส่งเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ใช้ในตอนวิ่ง เมื่อฝึกทั้งสองอย่างนี้ควบคู่กันก็จะช่วยให้เพื่อนๆ สามมารถวิ่งได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน

3 รูปแบบการฝึกวิ่ง เพื่อเพิ่มความเร็ว

1. การฝึกวิ่ง Interval

เป็นการฝึกวิ่งหลายรอบโดยกำหนดระยะทางหรือระยะเวลาในการวิ่ง โดยหลังการวิ่งแต่ละรอบจะมีการพักด้วย ยกตัวอย่างเช่น วิ่ง 800 เมตร 4 รอบ หลังวิ่งแต่ละรอบก็ให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 2 นาที แล้วค่อยเริ่มวิ่งรอบใหม่ เป็นต้น เมื่อฝึกไปนานๆ ร่างกายจะเคยชินจนมีความเร็วมากขึ้น และใช้เวลาในการพักน้อยลง

2. การฝึกวิ่งเทมโป

จะเป็นการวิ่งโดยใช้ Max Heart Rate 80-85% โดยอาจจะมีการกำหนดจำนวนหรือระยะเวลามาให้ด้วย เช่น วิ่งเทมโปใน 2 กม. แรก แล้วค่อยกลับไปฝึกวิ่งตามปกติ หรือ ให้เริ่มต้นการฝึกด้วยการวิ่งเทมโป 15 นาที แล้วค่อยตามด้วยการฝึกวิ่งแบบปกติ เป็นต้น ซึ่งเมื่อฝึกไปนานๆ ร่างกายจะมีความฟิตเพิ่มขึ้นจนถึงขั้นที่เราสามารถวิ่งโดยใช้ Max Heart Rate 80-85% ได้นาน 45 นาที หรือวิ่งได้ 10 กิโลเมตร ส่วนตอนฝึกให้ระวังอย่าใช้ Max Heart Rate เกิน 85%

3. Driving Game

คือการวิ่งเทมโปตามใจชอบ นักวิ่งจะเป็นคนกำหนดด้วยตัวเองว่า จะเริ่มการวิ่งเทมโปเมื่อไหร่ วิ่งนานแค่ไหน และวิ่งโดยใช้ความเร็วเท่าไหร่ จะเร่งความเร็วลดความเร็วตอนไหน เรากำหนดเองหมดเลย แต่อย่าลืมว่าต้องมีช่วงลดความเร็วเพื่อพักด้วย ยิ่งเร่งความเร็วเยอะก็ต้องมีช่วงลดความเร็วเยอะตามไปด้วย

รวมท่าฝึก Strength Training

รูปแบบการฝึกวิ่ง ท่าฝึก Strength Training เพื่อเพิ่มความเร็วการวิ่ง
Image by freepik

1. ท่า Squats

ท่านี้มีประสิทธิภาพสูงมากถึงแม้จะไม่ได้มีการยกเวทไปด้วยก็ตาม ก็ยังสามารถทำให้ขาและลำตัวแข็งแรงได้ในระยะยาว

  1. สำหรับการฝึกเราจะเริ่มต้นด้วยการยืนกางขาให้กว้างกว่าหัวไหล่เล็กน้อย ปลายเท้าชี้ไปด้านหน้าและหันออกด้านข้างเล็กน้อย ยกหน้าอกสูง ยืนให้ตัวตรง
  2.  จากนั้นงอเข่าย่อตัวลงมา ย่อก้นลงมาช้าๆ จนกว่าต้นขาจะขนานกับพื้น ลำตัวของเราจะต้องเป็นเส้นตรงตลอดเวลา
  3. ออกแรงดันส้นเท้ายกตัวกลับไปท่าเริ่มต้น
  4. ฝึกต่อไปจนกว่าจะได้ 10-20 ครั้ง แบบนี้จะนับเป็น 1 เซ็ต ให้ฝึกทั้งหมด 2-3 เซ็ต ขึ้นอยู่กับระดับความฟิตของเรา

หากต้องการเพิ่มระดับความยาก ก็ให้ถือดัมเบลเอาไว้ในตอนฝึกท่านี้ และเมื่อชินกับการยกดัมเบลแล้วก็ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักของดัมเบลไปเรื่อยๆ

2. ท่า Lunges with ground contact

ท่า Lunge จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อสะโพก และกล้ามเนื้อด้านหลังต้นขา

  1. ยืนตัวตรงชี้ปลายเท้าไปด้านหน้า ยกหน้าอกเข้าไว้ ตัวเราต้องเป็นเส้นตรงตลอดเวลา
  2. ก้าวเท้าขวาไปด้านหน้า งอเข่าย่อตัวลงมา จนกว่าขาทั้งสองข้างจะทำมุม 90 องศา
  3. เข่าหลังแตะพื้นเล็กน้อย เข่าหน้าลอยเหนือพื้นเล็กน้อย
  4. ออกแรงดันเท้ายกตัวกลับขึ้นมา แล้วก้าวเท้าอีกข้างไปด้านหน้า จากนั้นให้ย่อตัวลงในลักษณะเดิม
  5. ทำสลับขาไปเรื่อยๆ จนได้ 10-15 ครั้ง แล้วแต่ระดับความฟิตของเรา แบบนี้จะนับเป็น 1 เซ็ต ให้เราฝึก 2-3 เซ็ต

3. ท่าวิดพื้น

ท่านี้จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณแขน หน้าอก และหัวไหล่

  1. เริ่มต้นในท่าหมอบ ยืดขาไปด้านหลังปลายเท้าปักลงพื้น เอาฝ่ามือดันพื้น ตอนนี้ให้วางหน้าอกลงพื้นไปก่อน
  2. จากนั้นออกแรงดันฝ่ามือยกตัวขึ้น เอวอย่าหย่อน ทำตัวเป็นเส้นตรงตั้งแต่หัวจรดเท้า
  3. แล้วหย่อนตัวลงมาจนกว่าหน้าอกจะแตะพื้น
  4. ฝึกซ้ำ 10-20 ครั้ง แบบนี้นับเป็น 1 เซ็ต ฝึกให้ได้ 2-3 เซ็ต

หากพบว่าตัวเองไม่สามารถทำท่านี้ได้ตามปกติ ก็ให้วางเข่าลงพื้น

4. ท่า Dumbbell Row

ท่านี้จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อทั่วทั้งตัวเลย (โดยเฉพาะหลังและไหล่)

  1. ยืนกางขาที่หน้าม้านั่ง อกตั้งตรง งอเข่าเล็กน้อย วางดัมเบลไว้ที่บริเวณปลายเท้าของเรา
  2. ก้มตัวลงโดยใช้ก้นเป็นศูนย์กลาง ก้มลงจนตัวงอ 90 องศา เอื้อมมือไปหยิบดัมเบล วางมือข้างหนึ่งลงบนม้านั่ง
  3. ออกแรงดึงดัมเบลขึ้นมาช้าๆ แผ่นหลังเป็นเส้นตรงตลอดเวลา
  4. หย่อนดัมเบลกลับลงไปที่เดิมช้าๆ
  5. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง แล้วจึงเปลี่ยนข้าง แบบนี้จะนับเป็น 1 เซ็ต ให้เราฝึก 2-3 เซ็ต แล้วแต่ระดับความฟิตของเรา

5. ท่า Deadlift (ใช้บาร์เบล)

ท่านี้จัดว่าเป็นหนึ่งในท่าฝึก Weigth Training ที่สุดยอดที่สุดเช่นกัน มันจะช่วยให้นักวิ่งมีกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นและวิ่งได้เร็วกว่าเดิม

  1. เริ่มต้นด้วยการยืนกางขาให้กว้างกว่าหัวไหล่เล็กน้อยโดยให้วางบาร์เบลไว้ตรงหน้าเรา สำหรับตำแหน่งในการยืนเราจะเอาหน้าแข้งชิดติดกับบาร์เบล
  2. ก้มตัวลงโดยใช้ก้นเป็นจุดศูนย์กลาง ร่างกายส่วนบนจะต้องเป็นเส้นตรงตลอดเวลา เมื่อก้มไปแล้วให้เอามือจับบาร์เบลยกขึ้นมาในระดับหัวเข่า
  3. จากนั้นยกก้นและดึงบาร์เบลขึ้นหาเพดานอย่างรวดเร็ว ร่างกายท่อนบนจะต้องเป็นเส้นตรงตลอดเวลา แขนจะต้องชี้ตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
  4. จากนั้นให้หย่อนบาร์เบลกลับลงมาที่พื้น
  5. ให้ฝึกซ้ำ 10-15 ครั้ง แบบนี้จะนับเป็น 1 เซ็ต ให้เราฝึก 2-3 เซ็ต ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระดับความฟิตของเรา

ปล. หากรู้สึกว่ายากเกิน ให้ฝึกโดยถอดแผ่นน้ำหนักออกจากบาร์เบลไปเลย หมายถึงให้ยกบาร์เบลอย่างเดียว

6. ท่า Biceps curls with dumbbells

สำหรับนักวิ่งการฝึกท่านี้จะช่วยให้เรามีพลังในการแกว่งแขนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เราวิ่งเร็วหรือกำลังวิ่งขึ้นเนิน

  1. ยืนกางขาให้เท่ากับหัวไหล่ วางมือไว้ข้างลำตัว ร่างกายส่วนบนตั้งเป็นเส้นตรงและมั่นคง
  2. ถือบาร์เบลหรือดัมเบลไว้ที่มือทั้งสองข้าง หันฝ่ามือออกไปข้างหน้า
  3. ยกดัมเบลขึ้นเข้าหาหน้าอกอย่างมั่นคง โดยใช้กล้ามเนื้อไบเซ็ปต์เท่านั้น วางศอกไว้นิ่งๆ ใกล้ตัว
  4. หย่อนดัมเบลกลับไปลงอย่างมั่นคง 
  5. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง แบบนี้นับเป็น 1 เซ็ต ให้ฝึก 2-3 เซ็ต ขึ้นอยู่กับระดับความฟิตของเรา แล้วจึงไปฝึกท่าต่อไป

7. ท่า Triceps pull-up

ท่านี้มีไว้ฝึกกล้ามเนื้อไตรเซ็ปส์ เพื่อช่วยเพิ่มพลังในการแกว่งแขนตอนวิ่ง

  1. ท่านี้เราต้องใช้อุปกรณ์ในโรงยิม ให้เรายืนอยู่ตรงหน้าสายและเอามือจับที่ด้ามจับ กางขาให้กว้างเท่าหัวไหล่
  2. เอาศอกชิดลำตัว แล้วดึงสายลงมาในระดับเดียวกับหน้าอก จากนั้นยืดแขนดึงสายลงมาข้างล่างอย่างมั่นคงจนกระทั่งยืดศอกได้ตรงเต็มที่
  3. จากนั้นค่อยๆ ยกมือกลับขึ้นไป
  4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง แบบนี้จะนับเป็น 1 เซ็ต ให้ฝึก 2-3 เซ็ต ขึ้นอยู่กับระดับความฟิตของเรา แล้วจึงไปฝึกท่าต่อไป

8. ท่า Shoulder Press

ท่านี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อคอและหัวไหล่ ซึ่งจะทำให้เราแกว่งแขนได้แรงมากขึ้น

  1. เริ่มต้นด้วยการยืนกางขาโดยให้ยืนอยู่ตรงหน้าบาร์เบล (สวมแผ่นน้ำหนักตามสมควร) 
  2. ยกบาร์เบลขึ้นเหนือหัวไหล่เล็กน้อย วางตำแหน่งไว้ใกล้หน้าอก นี่คือท่าเริ่มต้น
  3. จากนั้นงอเข่าเล็กน้อย ยกอกขึ้น
  4. ออกแรงยกบาร์เบลขึ้นเหนือศีรษะ ยกขึ้นมาจนยืดศอกได้สุด ตำแหน่งข้อมือจะต้องอยู่เหนือหัวไหล่เป็นเส้นตรง
  5. หย่อนดัมเบลลงมาในท่าเริ่มต้นอย่างช้าๆ อย่าให้เสียการควบคุม
  6. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง แบบนี้นับเป็น 1 เซ็ต ให้ฝึก 2-3 เซ็ต ขึ้นอยู่กับระดับความฟิตของเรา

ปล. หากการยกบาร์เบลมันยากเกินไป ให้ฝึกโดยใช้ดัมเบลสองอันไปก่อน

แหล่งที่มา : https://bit.ly/4jjHcr0


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Running #Training
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: runningRunning Techniquestrength trainingท่าฝึกกล้ามเนื้อวิ่งเทคนิคการวิ่ง
Previous Post

8 ท่า Strength Training ที่นักวิ่งมาราธอนควรฝึก!

thip

thip

Related Posts

ท่า Strength Training สำหรับนักวิ่ง

8 ท่า Strength Training ที่นักวิ่งมาราธอนควรฝึก!

20/06/2025
เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

5 เคล็ดลับการฟื้นฟูร่างกายหลังการฝึกวิ่ง

14/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ป้องกันการบาดเจ็บ

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง เพื่อลดโอกาสบาดเจ็บ

11/06/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง นักวิ่ง

6 ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง สำหรับนักวิ่ง

04/06/2025
5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

5 ท่าสำหรับฝึกกล้ามเนื้อหัวเข่า

22/05/2025
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

19/05/2025

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 34.1k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

Nike Flex Run 2021 รองเท้าวิ่งที่ใส่ได้ตลอดทั้งวัน

Nike Flex Run 2021 รองเท้าวิ่งที่ใส่ได้ตลอดทั้งวัน

by VRUN VRIDE
11/09/2021

กลับมาอีกครั้ง!! กับ ไบเทค ฮาล์ฟ มาราธอน 2020 ยิ่งใหญ่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8

กลับมาอีกครั้ง!! กับ ไบเทค ฮาล์ฟ มาราธอน 2020 ยิ่งใหญ่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8

by VRUN VRIDE
21/08/2019

วิ่ง Zone 2 คืออะไร? มีประโยชน์ยังไง และต้องคำนวณอะไรบ้าง

วิ่ง Zone 2 คืออะไร? มีประโยชน์ยังไง และต้องคำนวณอะไรบ้าง

by thip
08/07/2019

8 ข้อบัญญัติด้านโภชนาการของนักวิ่งที่ดี

8 ข้อบัญญัติด้านโภชนาการของนักวิ่งที่ดี

by thip
21/03/2021

ท้าความตาย : Badwater 135 Ultramarathon – อเมริกา

ท้าความตาย : Badwater 135 Ultramarathon – อเมริกา

by thip
30/06/2019

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (371)
  • News (874)
  • Review (126)
  • Running (943)
  • Stories (201)
  • Training (464)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี