วันพุธ, ตุลาคม 15, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

โปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่ เป็นระยะเวลา 20 สัปดาห์

thip by thip
08/05/2021
in Running, Training
0
โปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่ เป็นระยะเวลา 20 สัปดาห์
  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

โปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่ เป็นระยะเวลา 20 สัปดาห์

เพื่อนๆ พร้อมแล้วที่จะลงแข่งมาราธอนใช่หรือไม่ โปรแกรมการฝึกนี้ออกแบบมาเพื่อมือใหม่ที่ต้องการเพิ่มระยะทางในการวิ่งโดยเฉพาะเลย โปรแกรมนี้จะฝึกกัน 4 วันต่อสัปดาห์ โดยช่วงแรกจะมีระยะทางสัปดาห์ละ 9.65 กม. (6 ไมล์) และเพิ่มไปจนถึง 32 กม. (20 ไมล์) ซึ่งจะมีวันที่วิ่งในระยะทางนี้สองวัน

รูปแบบการฝึกจะผสมผสานการวิ่งแบบ easy , ระยะไกล , วันพัก และการฝึก Cross Training เพื่อให้ร่างกายมีเวลาปรับตัวกับระยะทางที่เพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ เป็นการเตรียมตัวสำหรับวิ่งมาราธอน

ในช่วงสัปดาห์ที่ 9 ควรไปลงแข่งวิ่งฮาล์ฟมาราธอนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการแข่งขันจริง เป็นการสร้างความเคยชินในการวิ่งพร้อมผู้คนจำนวนมาก และจะได้ฝึกเตรียมน้ำและอาหาร แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ลงแข่งฮาล์ฟมาราธอน เพื่อนๆ ก็ยังสามารถไปวิ่งมาราธอนได้อยู่ แต่ถ้าไปลงแข่งได้จะดีมาก มันจะช่วยให้เรารู้สึกสบายเวลาวิ่งระยะไกลมากขึ้น

โปรแกรมการฝึกนี้จะเหมาะกับผู้ที่เคยฝึกวิ่ง 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ และวิ่งได้ครั้งละ 40-50 นาที ถ้าหากเพื่อนๆ ยังทำไม่ได้ก็ให้ไปลองใช้โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนก่อน

อธิบายคำศัพท์ต่างๆ

  • วอร์มอัพ : ก่อนการฝึกให้เราวิ่ง/เดิน แบบง่ายๆ เป็นเวลา 5-10 นาที (ให้วอร์มอัพทั้งในวันวิ่งและวันที่ฝึก Cross Training เลย) การวอร์มอัพที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ , เพิ่มการไหลเวียนเลือด , ลดความตึงของกล้ามเนื้อ , เป็นการเตรียมตัวก่อนออกกำลังกาย
  • คูลดาวน์ (วอร์มดาวน์) : หลังการฝึกให้เราวิ่ง/เดิน แบบง่ายๆ เป็นเวลา 5-10 นาที (ให้วอร์มอัพทั้งในวันวิ่งและวันที่ฝึก Cross Training เลย) การคูลดาวน์ที่ถูกต้องจะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและลมหายใจให้กลับมาสู่ระดับปกติหลังการฝึก 
  • ระดับความเข้มข้นในการฝึก : ถ้าจะให้ดีเพื่อนๆ ควรมีอุปกรณ์ตรวจอัตราการเต้นหัวใจในการฝึกด้วย
  • การฝึก Cross-Training : ให้เราทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่การวิ่งการเดิน ถ้าหากเพื่อนๆ พึ่งจะเป็นมือใหม่ในการออกกำลังกายก็อย่าพึ่งเริ่มฝึก Cross Training จนกว่าจะถึงสัปดาห์ที่ 4 หรือ 5 แต่ถ้าเป็นคนที่ออกกำลังกาย 3-4 วันต่อสัปดาห์อยู่แล้วก็ให้เริ่มทำการฝึก Cross Training ในวันที่โปรแกรมการฝึกกำหนดไว้ได้เลย ซึ่งก็มีหลายตัวเลือก เช่น ปั่นจักรยาน , เครื่องเดินวงรี Elliptical อีลิปติคัล , โฟมโรลริ่ง , Strength Training , ว่ายน้ำหรือโยคะ

    การฝึก Cross Training จะเป็นการฝึกแบบที่ไม่ทำให้เกิดแรงกระแทกกับร่างกายและช่วยลดโอกาสได้รับบาดเจ็บจากการวิ่ง ทั้งยังช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นอีกด้วย ถ้าหากเพื่อนๆ มีอาการเมื่อยล้าจากการวิ่งก็ควรเพิ่มวันฝึก Cross Training เพื่อเป็นการพัก
  • การฝึก Strength Training : นี่ก็ถือว่าเป็นรูปแบบการฝึก Cross Training ได้เช่นกัน มันจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อลีนและเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในตอนที่เรากำลังพัก เราสามารถฝึก Strength Training ได้ด้วยการใช้น้ำหนักของร่างกายเราเอง , การฝึกโดยใช้ดัมเบล , สายยางยืด , เครื่องออกกำลังกาย หรือการเข้าคลาสเรียนพิลาทิส , โยคะ หรือ Cross-Fit โดยจะมีการฝึกร่างกายส่วนบน , กล้ามเนื้อแกนกลางและกล้ามเนื้อร่างกายส่วนล่าง

    ให้เราวอร์มอัพด้วยการ วิ่ง/เดินง่ายๆ สัก 5-10 นาที หากเพื่อนๆ พึ่งเคยฝึก Strength Training ก็ให้ฝึกท่าละ 1 เซ็ต เซ็ตละ 12-15 ครั้ง เป้าหมายคือฝึกกล้ามเนื้อจนเมื่อยล้าจนไม่สามารถฝึกต่อไปได้ ในช่วง สัปดาห์ที่ 1-3 ให้ฝึกแค่ท่าละ 1 เซ็ต จากนั้นในสัปดาห์ต่อไปก็ค่อยๆ เพิ่มจำนวนเซ็ตไปเรื่อยๆจนได้ 2-4 เซ็ต โดยให้ฝึกเซ็ตละ 8-15 ครั้ง
  • ความยืดหยุ่นของร่างกาย : ให้เรายืดกล้ามเนื้อเบาๆ หลังการวอร์มอัพและคูลดาวน์ มันจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น , การไหลเวียนเลือด , ส่งเสริมความเร็วในการฟื้นร่างกาย , ลดโอกาสได้รับบาดเจ็บ
  • การเดิน : อย่าอายที่ต้องเปลี่ยนจากการวิ่งไปเป็นการเดินในระหว่างการฝึก แม้แต่ในตอนลงแข่งมาราธอนก็ตาม เพราะมันเป็นกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบในการไปให้ถึงเส้นชัย ถ้าหากเพื่อนๆ ต้องการเดินในระหว่างฝึกก็ควรมีการสร้างจังหวะสลับกันเป็นช่วงที่วิ่งและช่วงที่เปลี่ยนเป็นเดิน เช่น วิ่ง 10 นาที เดิน 1 นาที หรือเดินเฉพาะในตอนที่ต้องดื่มน้ำ การพักด้วยการเดินจะช่วยให้เรากลับมาควบคุมการหายใจ , อัตราการเต้นของหัวใจ และการโฟกัสเพื่อไปให้ถึงเส้นชัย

ระดับความเร็วในการซ้อมวิ่ง

  • การวิ่งแบบ Easy : การใช้เพซ Easy จะอยู่ในระดับที่วิ่งไปแล้วเรายังสามารถคุยกับผู้อื่นได้ด้วย จะมีอัตราการเต้นหัวใจในระดับ 65-75% และใช้ความพยายามในระดับ 6-7 จากเต็ม 10
  • การวิ่งในระดับปานกลาง : การใช้เพซกลางๆ จะอยู่ในระดับที่วิ่งไปแล้วจะได้ยินเสียงหายใจ แต่ไม่ได้หายใจหนักมาก จะมีอัตราการเต้นหัวใจในระดับ 75-80% และใช้ความพยายามในระดับ 7-8 จากเต็ม 10
  • ระดับความเข้มข้นในการวิ่งระยะไกล : การฝึกวิ่งระยะไกลคือกุญแจสำคัญของการฝึกวิ่งมาราธอน , จะมีการเพิ่มระยะทางในทุกสัปดาห์ แต่เราจะใช้เพซ Easy ในการวิ่ง และมีการสลับกับการเดินในระดับความเร็วที่เท่ากับตอนวิ่ง Easy ไปจนกระทั่งครบระยะทางการฝึก
  • การลงแข่ง : เพื่อนๆ อาจจะไปแข่งฮาล์ฟมาราธอนในช่วงสัปดาห์ที่ 10 ก็ได้ เพื่อให้เกิดความเคยชินกับขั้นตอนการแข่งขัน แต่ถ้าหางานแข่งที่ตรงกับสัปดาห์ที่ 10 ไม่ได้ก็ให้เลือกลงแข่งในสัปดาห์อื่น
  • การดัดแปลง : เราอาจจะมีการเลื่อนสลับวันฝึกได้ถ้าจำเป็น โปรแกรมฝึกนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ วิ่งมาราธอนได้แน่นอน สิ่งสำคัญคือความต่อเนื่องในการฝึก ส่วนรายละเอียดอื่นๆนั่นเป็นเรื่องรอง อย่าลืมฟังเสียงร่างกายและเพิ่มระดับความฟิตไปเรื่อยๆ

โปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่ (สัปดาห์ที่ 1-10)

โปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่ เป็นระยะเวลา 20 สัปดาห์

สัปดาห์ที่ 1

  • วันที่ 1 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 9.65 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 2

  • วันที่ 1 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 11.26 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 3

  • วันที่ 1 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 12.87 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 4

  • วันที่ 1 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 8 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 5

  • วันที่ 1 : วิ่ง 35 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 40 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 35 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 14.48 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 6

  • วันที่ 1 : วิ่ง 35 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 40 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 35 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 16 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 7

  • วันที่ 1 : วิ่ง 35 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 35 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 17.70 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 8

  • วันที่ 1 : วิ่ง 35 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 35 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 12.87 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 9

  • วันที่ 1 : วิ่ง 40 นาที
  • วันที่ 2 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 4 : วิ่ง 40 นาที
  • วันที่ 5 : พัก
  • วันที่ 6 : วันลงแข่งฮาล์ฟมาราธอน
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 10

  • วันที่ 1 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 50 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 24.14 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

โปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่ (สัปดาห์ที่ 11-20)

โปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอนสำหรับนักวิ่งมือใหม่ เป็นระยะเวลา 20 สัปดาห์

สัปดาห์ที่ 11

  • วันที่ 1 : วิ่ง 40 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 60 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 40 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 16 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 12

  • วันที่ 1 : วิ่ง 40 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 60 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 40 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 25.74 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 13

  • วันที่ 1 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 70 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 16 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 14

  • วันที่ 1 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 70 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 28.96 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 15

  • วันที่ 1 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 80 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 19.31 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 16

  • วันที่ 1 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 80 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 32.1 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 17

  • วันที่ 1 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 90 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 22.53 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 18

  • วันที่ 1 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 90 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 45 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 32.1 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 19

  • วันที่ 1 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 2 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 40 นาที
  • วันที่ 4 : ฝึก Cross Training 30-45 นาที
  • วันที่ 5 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 6 : วิ่ง 16 กม.
  • วันที่ 7 : พัก

สัปดาห์ที่ 20

  • วันที่ 1 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 2 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 3 : วิ่ง 30 นาที
  • วันที่ 4 : พัก
  • วันที่ 5 : พัก
  • วันที่ 6 : วันลงแข่งมาราธอนขอให้ทุกคนโชคดี
  • วันที่ 7 : พัก

ที่มา :


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: MarathonMarathon PlanMarathon Training PlanrunningRunning PlanRunning ProgramRunning Training Planตารางซ้อมวิ่งตารางซ้อมวิ่งมาราธอนมาราธอนวิ่งวิ่งมาราธอนแผนซ้อมวิ่งแผนซ้อมวิ่งมาราธอนโปรแกรมซ้อมวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอน
Previous Post

8 สุดยอดอาหารที่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ

Next Post

พบกับก้าวที่สำคัญของ ASICS ในคอลเลคชั่น EARTH DAY PACK รองเท้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

thip

thip

Related Posts

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10k สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10k สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์

13/10/2025
กลศาสตร์ของความเร็ว วิธีพัฒนาฟอร์มการวิ่ง

กลศาสตร์ของความเร็ว : ทำไมฟอร์มการวิ่งถึงส่งผลต่อเพซของเรา

12/10/2025
ตัวอย่างการฝึกวิ่ง Interval รวมข้อมูลทุกเรื่องที่ผู้ฝึกจำเป็นต้องรู้

ตัวอย่างการฝึกวิ่ง Interval รวมข้อมูลทุกเรื่องที่ผู้ฝึกจำเป็นต้องรู้

11/10/2025
ท่า Plyometric Exercises สำหรับนักวิ่ง เพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

7 ท่า Plyometric Exercises เพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

10/10/2025
โปรแกรมฝึกวิ่ง Marathon 16 สัปดาห์

โปรแกรมฝึกวิ่ง Marathon 16 สัปดาห์

05/08/2025
โปรแกรมฝึกวิ่ง Half Marathon สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์

โปรแกรมฝึกวิ่ง Half Marathon สำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์

04/08/2025
Next Post
พบกับก้าวที่สำคัญของ ASICS ในคอลเลคชั่น EARTH DAY PACK รองเท้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

พบกับก้าวที่สำคัญของ ASICS ในคอลเลคชั่น EARTH DAY PACK รองเท้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 42k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

สารพัดเรื่องของ “โยเกิร์ต” ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

สารพัดเรื่องของ “โยเกิร์ต” ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

by thip
14/04/2020

Eliud Kipchoge นักวิ่งชาวเคนย่าเจ้าของฉายาสถิติโลก ประกาศกร้าวจะทลายกำแพงทำ Sub-2:00

Eliud Kipchoge นักวิ่งชาวเคนย่าเจ้าของฉายาสถิติโลก ประกาศกร้าวจะทลายกำแพงทำ Sub-2:00

by thip
09/05/2019

Jungle Marathon

ท้าความตาย – งานแข่งวิ่ง Jungle Marathon

by thip
30/01/2020

Jacob Kiplimo นักวิ่งดาวรุ่งผู้มาพร้อมกับการทำลายสถิติ

Jacob Kiplimo นักวิ่งดาวรุ่งผู้มาพร้อมกับการทำลายสถิติ

by VRUN VRIDE
28/05/2019

รูปแบบการฝึกวิ่งขึ้นเนินบนลู่วิ่ง 20 นาที

รูปแบบการฝึกวิ่งขึ้นเนินบนลู่วิ่ง 20 นาที

by thip
29/01/2025

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (173)
  • Fitness & Health (377)
  • News (895)
  • Review (126)
  • Running (957)
  • Stories (201)
  • Training (478)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี