ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา การวิจัยพบว่าการออกกำลังกายที่มีการระเบิดพลังกล้ามเนื้อในช่วงระยะเวลาสั้นๆ จะส่งผลดีต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ถึงแม้ว่าเราจะฝึกท่าเหล่านี้เพียงแค่ 10 นาทีต่อวัน ก็สามารถส่งเสริมระบบการเผาผลาญพลังงานให้ร่างกายได้ และยังช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้อีกด้วย วิธีการฝึกที่ใช้เวลาน้อยและมีประสิทธิภาพที่เราจะนำเสนอกันในวันนี้ก็คือ “รูปแบบการฝึกกระโดดเชือก” นั่นเอง
ประโยชน์ของการฝึกกระโดดเชือก
การฝึกนี้จะช่วยส่งเสริมการประสานงานของแขนขา และช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน การกระโดดเชือกถือเป็นการวอร์มอัพที่ยอดเยี่ยมและเป็นการฝึก Cross Training ที่ดีมากสำหรับนักวิ่ง การวิจัยพบว่ากระโดดเชือกสามารถช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญพลังงานหลังการฝึกได้มากถึง 10-12 เท่า ซึ่งไม่ต่างจากการวิ่งจ๊อกกิ้งในระยะทาง 9.6-11.2 กิโลเมตร
หากเพื่อนๆ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีเวลาออกกำลังกายน้อย เช่น ฝนตก อากาศหนาวจัด หรือมีเวลาแค่ตอนกลางคืน ก็ให้ใช้การกระโดดเชือกนี่ล่ะเพราะใช้เวลาน้อย ขอแค่เรามีที่กว้างเล็กน้อยเหมาะกับการกระโดดเชือกก็พอแล้ว
เราสามารถควบคุมระดับความเข้มข้นในการกระโดดเชือกได้เช่นเดียวกับการวิ่ง เราสามารถเพิ่มความเร็วหรือลดความเร็วลงได้ตามใจ ดังนั้นเราจึงสามารถใช้การกระโดดเชือกเบาๆ เป็นการวอร์มอัพได้ และสามารถใช้กระโดดเชือกเร็วเป็นการฝึกคาร์ดิโอได้ การฝึกเป็นกระจำจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อน่อง กล้ามเนื้อด้านหลังต้นขา และกล้ามเนื้อสะโพก ซึ่งกล้ามเนื้อเหล่านี้จะช่วยให้เราวิ่งเร็วมากขึ้น
ข้อควรระวัง คือต้องมีท่วงท่าในการฝึกอย่างถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ ตอนกระโดดก็ควรใช้วิธีกระโดดขึ้นตรงๆ อย่าใช้วิธียกขาไปด้านหลัง และจังหวะเอาเท้าลงพื้นก็ไม่ควรกระแทกพื้นแรงเกินไป พยายามทำให้นุ่มนวลลื่นไหลและมีความต่อเนื่องมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
3 รูปแบบการฝึกกระโดดเชือก สำหรับนักวิ่ง

รูปแบบที่ 1 สำหรับคนที่พึ่งเริ่มต้นฝึกเป็นครั้งแรก
- กระโดดเชือก 3 นาที
- วิดพื้น 30 วินาที
- กระโดดเชือก 3 นาที
- ฝึกท่า Mountain Climber 30 วินาที
- กระโดดเชือก 3 นาที
- ฝึกท่า Sprinter Sit-ups 30 วินาที
- ฝึกซ้ำทั้งหมดอีก 1 รอบ
รูปแบบที่ 2 จะเริ่มมีบางท่าที่เราฝึกขาทีละข้างแล้ว
การฝึกนี้จะช่วยฝึกการรักษาการทรงตัวด้วยขาข้างเดียว และช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ อย่าลืมวอร์มอัพ 5-10 นาทีก่อนการฝึก สำหรับท่าไหนที่ยังไม่ถนัดให้ฝึกช้าๆ ไปก่อน
- กระโดดเชือก 3 นาที
- ท่า Air Squats , วิดพื้น 10 ครั้ง , ซิตอัพ 10 ครั้ง
- กระโดดเชือกยกเข่าสูง 30 วินาที
- ฝึกท่า Plyo Squats 10 ครั้ง
- กระโดดเชือกยกเข่าสูง 30 วินาที
- วิดพื้น 10 ครั้ง
- กระโดดเชือกยกเข่าสูง 30 วินาที
- ฝีกท่า Burpees 10 ครั้ง
- กระโดดเชือกโดยใช้เท้าซ้ายข้างเดียว 30 วินาที
- กระโดดเชือกโดยใช้เท้าขวาข้างเดียว 30 วินาที
- กระโดดเชือกโดยใช้เท้าสองข้างพร้อมกัน 1 นาที
แบบนี้จะนับเป็น 1 เซ็ต ให้เราฝึกทั้งหมด 3 เซ็ต
รูปแบบที่ 3 จะเริ่มเป็นการออกกำลังกายระดับ Advance
เป็นรูปแบบที่เรียบง่ายมาก เพียงแต่เราจะใช้ท่ายากเป็นหลัก ซึ่งท่า Dubble Under และท่า Burpees จะทำให้หัวใจเต้นเร็ว และก่อนจะเริ่มการฝึกให้วอร์มอัพด้วยการกระโดดเชือก 3 นาทีก่อน
- ฝึกท่า Dubble Under 30 วินาที (หมุนเชือกให้ได้สองรอบต่อการกระโดด 1 ครั้ง)
- ฝึกท่า Burpees 30 วินาที
- พัก 30 วินาที
แบบนี้จะนับเป็น 1 เซ็ต ให้เราฝึกทั้งหมด 10 เซ็ต
แหล่งที่มา : https://bit.ly/4kj5diL
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Running #Training
#Cycling #Triathlon #Swimming














