วิธีว่ายน้ำให้เร็วขึ้น – โดยใช้หลักการ 6 ข้อต่อไปนี้
เพื่อนๆเคยคิดหาวิธีว่ายน้ำให้เร็วขึ้นโดยใช้เวลานานเป็นเดือน.. เป็นปี.. แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ใช่หรือไม่คะ ในบทความนี้จะมาเฉลยวิธีการว่ายน้ำให้เร็วขึ้น! โดยที่ไม่ทำให้เราเหนื่อยเร็วจนเกินไปด้วยหลักการง่ายๆ 6 ข้อ
ซ้อมว่ายน้ำให้ฉลาดกว่าเดิม ไม่ใช่ให้ซ้อมหนักกว่าเดิม
สำหรับโค้ชจำนวนมาก การว่ายน้ำให้เร็วขึ้นเป็นผลที่ได้จากการสะสมระยะทาง หรือความเข้มข้นในการว่ายน้ำที่มากขึ้น ซึ่งทำให้ร่างกายมีความฟิตมากกว่าเดิม ซึ่งก็ถูกต้องอยู่เหมือนกันถ้าหากหมายถึงการว่ายน้ำให้เร็วขึ้น แต่ก็ไม่ทั้งหมด เพราะการว่ายน้ำได้ดีนั้นจำเป็นต้องใช้เทคนิคเยอะ
มีนักว่ายน้ำอยู่หลายคนที่มีพรสววรค์ ซึ่งสามารถเรียนรู้การว่ายน้ำให้ดีขึ้นได้ด้วยสัญชาตญาณ เพียงแค่ให้เวลาพวกเขาในการฝึกซ้อมก็จะว่ายน้ำได้เก่งขึ้นเอง แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีพรสววรค์แบบนั้น ดังนั้นการซ้อมว่ายน้ำที่มากขึ้นอาจกำลังทำให้เรารักษาวิธีการว่ายน้ำที่ไม่ดีเอาไว้อยู่ก็ได้ ในขณะที่เทคนิคการว่ายน้ำของเราเพียงแค่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆหรืออาจจะไม่เพิ่มขึ้นเลย
มีอยู่ 2 สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำเพื่อให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้น
1. ต้องลดแรงดึงของน้ำให้ได้
2. ต้องเพิ่มแรงขับของน้ำให้ได้
การลดแรงดึงของน้ำ
การว่ายน้ำให้เกิดแรงดึงของน้ำน้อยลงนั้นเป็นอะไรที่มักถูกมองข้าม และการแก้ไขตรงจุดนี้ล่ะที่จะทำให้เราว่ายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นจนเห็นได้ชัด
น้ำมีแรงดันที่หนาแน่นกว่าอากาศ แรงดึงของน้ำจะเพิ่มขึ้นเป็นยกกำลังสองของความเร็วที่เราใช้ในการว่ายน้ำ ดังนั้นมันจึงมีขีดจำกัดว่า เราควรใช้แรงในการว่ายน้ำเท่าไหร่ เพื่อที่จะเพิ่มความเร็วในการว่ายน้ำ พูดอีกอย่างคือ การลดแรงดึงของน้ำนั้นต้องใช้ทักษะมากกว่าใช้กำลัง และหลักการ 3 ข้อต่อไปนี้จะช่วยให้เราสามารถลดแรงดึงของน้ำได้
หลักการที่ 1 – การเพิ่มความสมดุล
สิ่งแรกและเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการลดแรงดึงของน้ำคือ การเพิ่มความสมดุล หมายความว่า เราจำเป็นที่จะต้องทำร่างกายให้อยู่ตามแนวนอนให้มากที่สุดในขณะกำลังว่ายน้ำ และเราจะต้องทำให้น้ำกระจายน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดแรงดึงนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น การว่ายน้ำท่าฟรอนท์ครอล (ฟรีสไตล์) นักว่ายน้ำมักจะยกศีรษะขึ้นมาบ่อยๆเพื่อหายใจหรือมองไปด้านหน้าทำให้เสียความสมดุล ทำให้ก้นและขาจมลง ร่างกายมีความคล่องตัวน้อยลงและทำให้เกิดแรงดึงมากขึ้น จึงควรเตะขาให้แรงมากขึ้นเพื่อให้ขาลอยขึ้นมา ซึ่งจะต้องมีการใช้พลังงานอย่างมาก
Note : การทำร่างกายให้อยู่ในแนวนอนมีความสำคัญในการว่ายน้ำ ท่าฟรอนท์ครอลและกรรเชียง ส่วนท่ากบจะต่างออกไปเพราะร่างกายจะเคลื่อนไหวไม่เหมือนกัน
หลักการที่ 2 – ทำตัวให้สูงขึ้นในตอนว่ายน้ำ
วิธีต่อมาในการลดแรงดึงของน้ำคือ ทำตัวของเราให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะที่กำลังอยู่ในน้ำ ทฤษฎีมีอยู่ว่าในกรณีที่มีมวลเท่ากัน วัตถุที่มีรูปร่างเรียวยาวกว่าจะสามารถเคลื่อนที่ในน้ำโดยเกิดความปั่นป่วนน้อยกว่าวัตถุรูปทรงสั้น ซึ่งเป็นหลักการที่วิศวกรเรือใช้กันมาเป็นร้อยปีแล้ว
เพื่อที่จะว่ายน้ำท่าฟรอนท์ครอลโดยให้ตัวเหยียดสูงขึ้น เราจะต้องมีการใช้แขนข้างที่กำลังฟื้นตัวตั้งแต่เนิ่นๆ หลังจากที่มันหมุนผ่านศีรษะไปแล้ว และจะต้องยืดแขนตรงก่อนที่จะกดแขนลงน้ำ
หลักการที่ 3 – การเตะน้ำที่กระชับและมีประสิทธิภาพ
สำหรับนักว่ายน้ำท่าฟรอนท์ครอลระดับโลก การเตะน้ำของพวกเขาจะมีส่วนช่วยในการสร้างแรงขับถึง 10% ส่วนที่เหลือจะเป็นการใช้แรงแขนทั้งหมด
ดังนั้น การเตะน้ำที่มีประสิทธิภาพจึงมีความจำเป็นต่อการว่ายน้ำให้เร็วขึ้น แต่ที่สำคัญกว่าคือการเตะให้กระชับ ซึ่งไม่ทำให้ขาลอยเหนือน้ำและไม่ทำให้ขาจมลงต่ำกว่าแนวร่างกาย ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้เกิดแรงดึงเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
การเพิ่มแรงขับ
เมื่อเราสามารถลดแรงดึงให้อยู่ในระดับต่ำสุดได้แล้ว ก็ควรที่จะหาทางเพิ่มแรงขับ ซึ่งจะสามารถทำได้ด้วยการปรับปรุงการสโตรกของเรา ไม่ใช่การหาทางทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น
หลักการที่ 4 – ตอนว่ายน้ำให้ใช้ร่างกายด้านข้างมากขึ้น
วิธีแรกที่จะช่วยเพิ่มแรงขับก็คือ การหมุนตัวจากอีกข้างไปสู่อีกข้างในตอนที่กำลังหมุนแขนให้มากขึ้นกว่าเดิม การหมุนตัวไปด้านข้างมากขึ้นจะทำให้เราใช้กล้ามเนื้อหลังขนาดใหญ่มากขึ้น นอกเหนือไปจากการใช้กล้ามเนื้อไหล่
แต่อย่างไรก็ตามการหมุนตัวมากขึ้นอาจจะทำให้ขัดกับความรู้สึกในช่วงแรกๆ และจำเป็นต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมเพื่อสร้างความเคยชิน
หลักการที่ 5 – ใช้กล้ามเนื้อแกนกลาง
นี่คืออีกหนึ่งความลับที่จะช่วยให้เราสามารถว่ายน้ำได้เร็วขึ้น เราต้องมีการใช้กล้ามเนื้อหลัง สะโพก และลำตัว ในขณะกำลังหมุนตัวไปด้านข้าง การทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อแกนกลางและกล้ามเนื้อแขน จะช่วยให้เรามีพลังในการสโตรกมากยิ่งขึ้น
ลักษณะเหมือนกับนักกีฬาที่กำลังจะเขวี้ยงลูกเบสบอล ในตอนแรกร่างกายของเขาจะหมุนไปด้านหลัง จากนั้นจะมีการหมุนสะโพกเพื่อหมุนตัวไปด้านหน้า ซึ่งจะมีการส่งแรงผ่านร่างกายส่วนบนไปยังไหล่ แขน มือจนไปถึงลูกเบสบอล ด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นในทุกสเต็ป
เมื่อเราสามารถใช้เทคนิคนี้ได้แล้ว จะทำให้เราว่ายน้ำได้นานขึ้น เร็วขึ้น และเหนื่อยช้าลง เพราะกล้ามเนื้อแกนกลางของเรามีความอึดมากกว่ากล้ามเนื้อไหล่และแขน
หลักการที่ 6 – ทิ้งสมอเรือด้วยแขนของเรา
และนี่คือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะทำให้เราว่ายน้ำได้เร็วขึ้นโดยใช้ความพยายามน้อยลง ก่อนที่จะใช้แขนของเราในการสร้างแรงขับในน้ำ เราจะต้องแน่ใจว่ามือและแขนหน้าของเราเรียงเป็นเส้นตรงและหันไปด้านหลัง จากนั้นก็ให้ใช้แขนของเราเป็นเหมือนพายอันใหญ่ได้เลย
เทคนิคนี้มีชื่อเต็มๆว่า “High elbow catch in front crawl” เพราะว่าเราจะต้องคอยยกข้อศอกให้อยู่เหนือมือเสมอถึงจะใช้เทคนิคนี้ได้
ที่มา :
? ♂️
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming