วิธีประคบร้อน ประคบเย็น (Hot and Cold Therapy) เพื่อลดอาการบาดเจ็บ
เพื่อนๆคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง “การประคบร้อน” (Hot Therapy) หรือ “ประคบเย็น” (Cold Therapy) กันมาบ้าง ทั้งสองวิธีเป็นการรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรืออาการบวมช้ำที่มาจากการเล่นกีฬา การแข่งขัน หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ แต่การเลือกใช้วิธีบำบัดด้วยความร้อนและความเย็นนั้นมีข้อบ่งชี้และวิธีรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราควรทราบว่าเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นกับร่างกาย เราควรเลือกใช้วิธีการรักษาแบบไหน? เมื่อไหร่ที่ควรรักษาด้วยการประคบร้อน และเมื่อไหร่ที่ควรรักษาด้วยการประคบเย็น รวมไปถึงระยะเวลาที่ใช้ในการประคบแต่ละประเภท
การประคบเย็น (Cold Therapy)
หากมีอาการบาดเจ็บที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานหรือเกิดขึ้นฉับพลัน (acute injury) ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการถูกกระแทกโดนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย (Trauma) ไม่ว่าจะเกิดจากของใช้ใกล้ตัวต่างๆ ลื่นล้ม ตกกระแทกพื้น กระแทกสิ่งของ รวมไปถึงการบิดเอี้ยวตัวผิดท่า สาเหตุเหล่านี้จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดขึ้นในทันที จากนั้นสิ่งที่ตามมาก็คืออาการอักเสบเป็นจ้ำเลือด
ให้เราเลือกใช้การประคบเย็นก่อนในระยะแรกทันที เพื่อช่วยให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นมีอาการคงที่ ไม่บวมช้ำเพิ่มมากไปกว่าเดิม และยังลดการทำงานของเซลล์ที่บาดเจ็บ ทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบาดแผลหดตัว อาการอักเสบก็จะดีขึ้น
วิธีการประคบเย็น
- ให้ใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งประคบโดยตรงกับบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ อย่างน้อย 20 นาที
- โดยให้หมั่นประคบทุก 2-3 ชม. ในช่วงระยะเวลา 48 ชม.แรก
- โดยสิ่งที่สำคัญในการประคบน้ำแข็งคือ จะต้องหุ้มน้ำแข็งด้วยผ้าบางๆให้ดีก่อนที่จะทำการประคบเสมอ เพราะหากน้ำแข็งเย็นมากเกินไป เมื่อสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงแล้วอาจก่อให้เกิดอาการผิวหนังไหม้จากความเย็นจัดได้
การประคบร้อน (Hot Therapy)
หลังจากครบ 48 ชม. หลังมีอาการบาดเจ็บ เนื้อเยื่อบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บจะเข้าสู่ระยะการฟื้นฟูและซ่อมแซมตนเอง ในระยะนี้จะพบว่าไม่มีจ้ำเลือดเพิ่มขึ้น อาการอักเสบเริ่มลดลง ความเจ็บปวดทุเลาลง ให้เปลี่ยนมาเป็นการประคบอุ่น เพื่อช่วยเลือดให้ ไหลเวียนมาเลี้ยงได้ดี และช่วยเพิ่มการซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้หายไวยิ่งขึ้นนั่นเอง
สำหรับอาการบาดเจ็บแบบเรื้อรัง (Chronic injury)
ที่เกิดจากการบาดเจ็บสะสมมาทีละเล็กทีละน้อยเป็นเวลานาน โดยอาจเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อใดกล้ามเนื้อหนึ่งมากจนเกินไป ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อนั้นๆผิดปกติไปโดยไม่รู้ตัว หรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บฉับพลันที่ได้รับการรักษาอย่างไม่ถูกต้อง จนกลายเป็นอาการบาดเจ็บแบบเรื้อรัง
สำหรับอาการบาดเจ็บเรื้อรังแนะนำให้ทำการประคบร้อนเพียงอย่างเดียว ครั้งละ 15-20 นาที โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นค่อยๆประคบ หรือใช้แผ่นประคบร้อนแปะทิ้งไว้ก็ได้ แต่ให้ระวังไว้เสมอว่าความร้อนสามารถทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ จำเป็นต้องประคบอย่างระมัดระวัง
วิธีการประคบร้อน
- ในการประคบร้อน ความร้อนที่พอดีจะช่วยให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณที่บาดเจ็บเรื้อรังมากขึ้น ก่อให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมตนเอง อีกทั้งยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นในบริเวณที่มีการอาการตึงได้อีกด้วย
- สำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง แนะนำให้ประคบอุ่นก่อนการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาทุกครั้ง จะช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ ให้กล้ามเนื้อได้มีความยืดหยุ่นก่อนลงเล่นกีฬา ช่วยทุเลาอาการบาดเจ็บที่มีอยู่เดิม และลดอาการบาดเจ็บใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างทำกิจกรรม
คำแนะนำเพิ่มเติม
หากในบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บมีการใส่ผ้าหรืออุปกรณ์พยุงไว้ แนะนำให้ถอดอุปกรณ์พยุงออกก่อน แล้วค่อยประคบร้อนหรือประคบเย็น เนื่องจากการประคบไม่ว่าจะร้อนหรือเย็นจำเป็นต้องสัมผัสกับบริเวณที่บาดเจ็บโดยตรงจึงจะได้ผลดีที่สุด
บทสรุป
จะเห็นได้ว่าเพียงวิธีง่ายๆอย่างเช่นการประคบร้อนหรือประคบเย็น ก็สามารถช่วยดูแลอาการบาดเจ็บเบื้องต้นจากการเล่นกีฬาหรือการใช้กล้ามเนื้อได้ หากเราทำอย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บได้แล้ว ยังอาจช่วยลดปริมาณการทานยาแก้ปวดที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย
อ้างอิง
- www.physioroom.com/info/hot-or-cold-when-to-use-thr-right-compress-for-your-injury/
- Malanga GA, Yan N, Stark J. Mechanisms and efficacy of heat and cold therapies for musculoskeletal injury.Postgrad Med. 2015 Jan;127(1):57-65. Epub 2014 Dec 15.
? ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
[AD]
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC คลิก bit.ly/ฺBNC122
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming