วันพุธ, พฤศจิกายน 26, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่ | คู่มือเตรียมตัวแบบครบถ้วน

thip by thip
26/11/2025
in Running, Training
0
โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่ | คู่มือเตรียมตัวแบบครบถ้วน

Image by tirachardz on Freepik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

ระยะทางการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนนั้นไม่ง่ายสำหรับนักวิ่งมือใหม่ แต่ในขณะเดียวกันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หากเพื่อนๆ มีการโฟกัสในการฝึกอย่างต่อเนื่อง ร่างกายจะสามารถปรับตัวได้เองโดยธรรมชาติ โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 16 สัปดาห์ ออกแบบมาให้ฝึกนาน แต่สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการวิ่งอยู่แล้ว ก็อาจจะดัดแปลงให้มันสั้นลงเล็กน้อยก็ได้

รูปแบบการฝึกต่างๆ มีดังนี้

การฝึก Strength Training

ให้เราฝึก Strength Training อย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ โดยฝึกในวันสำหรับฝึก Cross Training ซึ่งเราสามารถฝึกในโรงยิมหรือที่บ้านเราก็ได้ สำหรับรายละเอียดการฝึกนั้น เพื่อนๆ สามารถหาอ่านกันได้ในเว็บไซต์ของเราเลย

การฝึกวิ่งในสนามกีฬา (Track)

โดยปกติแล้วเส้นทางวิ่งรอบสนามกีฬาขนาดมาตราฐานจะมีระยะทาง 400 เมตร เราจึงสามารถนำมาใช้ในการฝึกวิ่ง Interval ได้นั่นเอง โดยเราจะวิ่งในระดับที่วิ่งเร็ วแต่ไม่ได้เร่งความเร็วสูงสุด  ซึ่งทางเราได้เตรียมรูปแบบการฝึกมาให้ถึง 9 แบบดังนี้

  • Track 1 – จะเป็นการวิ่ง 400 เมตร 8 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก 60 วินาที
  • Track 2 – วิ่ง 2 นาที 8 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก 90 วินาที
  • Track 3 – วิ่ง 800 เมตร 4 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก 90 วินาที (800 เมตรจะเท่ากับการวิ่งรอบสนาม 2 รอบ)
  • Track 4 – วิ่ง 3 นาที 4 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก 2 นาที หลังจากนั้นให้ฝึกวิ่งเร็ว 30 วินาที 6 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก 30 วินาที
  • Track 5 – วิ่ง 500 เมตร 7 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก 75 วินาที
  • Track 6 – วิ่งตามรายละเอียดในวงเล็บ 5 รอบ (วิ่ง 1 นาที พัก 1 นาที, วิ่ง 2 นาที พัก 75 วินาที)
  • Track 7 – วิ่ง 200 เมตร 2 รอบ จากนั้นวิ่ง 800 เมตร 4 รอบ จากนั้นวิ่ง 200 เมตร 2 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก 90 วินาที
  • Track 8 – วิ่ง 300 เมตร 8 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก 120 วินาที
  • Track 9 – วิ่ง 200 เมตร 12 รอบ หลังการวิ่งแต่ละรอบให้พัก 30 วินาที

Note : ก่อนฝึกวิ่ง Intervals ให้เราวอร์มอัพด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 2 กม. และเมื่อจบการฝึกแล้วให้คูลดาวน์ด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 2 กม.

การวิ่งระยะกลาง

ในบางสัปดาห์จะมีการวิ่งระยะกลางในวันเสาร์ ก่อนฝึกก็ให้วอร์มอัพด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งสัก 1.6 กิโลเมตร (1 ไมล์) แล้วเริ่มต้นการฝึกวิ่งโดยใช้เพซ 5k (แต่ถ้าวิ่งเร็วกว่านั้นได้ ก็ลองดู) หลังจากนั้นให้ปิดท้ายการวิ่งด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 1.6 กิโลเมตร

วันวิ่งระยะไกล

สำหรับโปรแกรมการฝึกนี้เราจะวิ่งระยะไกลในวันอาทิตย์ โดยในช่วงแรกมีระยะทาง 3.2-4.8 กิโลเมตรเท่านั้น แล้วในสัปดาห์ที่เหลือจะค่อยๆ เพิ่มระยะทางไปจนถึง 14.48 กิโลเมตร ในการฝึกวิ่งระยะไกลเราควรวิ่งด้วยความเร็วคงที่และควรใช้เพซ Easy

Recovery Run คืออะไร

คือการวิ่งในระดับ Easy เพื่อให้ร่างกายมีเวลาพักนั่นเอง เราจะวิ่งในระดับที่สามารถวิ่งไปพูดคุยกับผู้อื่นไปได้โดยยังหายใจสบายอยู่ สำหรับในโปรแกรมการฝึกนี้ “ให้เราวิ่ง Recovery Run ในวันพัก” แต่ถ้าเห็นว่าควรฝึก Cross Training มากกว่าหรือควรหยุดพักทั้งวันก็เอาเลย อันนี้ต้องไปตัดสินใจกันตามสมควร คอยสังเกตร่างกายให้ดีก็แล้วกัน หากจำเป็นต้องพัก ก็ให้พักทั้งวันไปเลย

วันพัก

เราควรมีการพักผ่อนอย่างจริงจังในวันพัก หากต้องการฝึกอะไรก็ให้แค่เดินเล่นเบาๆ หรือฝึก Cross Training เบาๆ

การฝึก Cross Training

การฝึก Cross Training ให้เราฝึกอะไรที่ไม่ใช่การวิ่ง และจะต้องเป็นการฝึกที่ไม่สร้างแรงกระแทกหรือสร้างภาระให้ร่างกาย เราจะต้องใช้ระดับความเข้มข้นในการฝึกอยู่ที่ระดับเบาๆ หรือระดับปานกลาง อย่าไปสร้างภาระให้กับกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นมากนัก ซึ่งการฝึกจะช่วยเพิ่มระดับความทรหดให้กล้ามเนื้อในขณะที่เราได้พักจากการวิ่ง ตัวอย่างของการฝึก Cross Training มีดังนี้คือ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน โยคะ เป็นต้น

หากวันไหนเป็นวันฝึกวิ่ง แต่รู้สึกว่าเข่าหรือขาวิ่งไม่ไหว ก็ให้เปลี่ยนวันวิ่ง Easy (1 วัน) เป็นวันพักหรือ Cross Training แล้วไปว่ายน้ำหรือปั่นจักรยานแทน

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 16 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่ | คู่มือเตรียมตัวแบบครบถ้วน
Image by tirachardz on Freepik

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 16 สัปดาห์

โปรแกรมการวิ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน (Prep , Build , Peak และ Taper) แต่ละส่วนจะมีระยะเวลา 4 สัปดาห์ หมายความว่าต้องฝึกกันถึง 4 เดือน ถึงแม้มันอาจจะดูเยอะ แต่มันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเตรียมร่างกายสำหรับการลงแข่งฮาล์ฟมาราธอน การฝึกจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีการค่อยๆ เพิ่มระยะทางในการวิ่งไปเรื่อยๆ เพราะถ้าเรารีบเร่งหักโหมจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันจนมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อได้ และถ้าหากในระหว่างการฝึกหากสังเกตว่าขาของเราเหนื่อยล้าจนเกินไปก็ควรหยุดพัก และถ้าหากจำเป็นก็ให้ตัดวันวิ่ง Easy ออกไปสัปดาห์ละ 1 วัน แล้วเปลี่ยนเป็นวันพักหรือวันฝึก Cross Training เบาๆ

สัปดาห์ที่ 1-4 Prep (ช่วงเตรียมร่างกาย)

ช่วงนี้จะเริ่มจากการฝึกง่ายๆ เพื่อเป็นการเตรียมกล้ามเนื้อไปก่อน ในขณะเดียวกันก็ต้องระวังไม่ให้มีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้น สำหรับคนที่มีประสบการในการวิ่งสูงอยู่แล้ว ให้ค่อยๆ เพิ่มเพซไปวันละเล็กน้อย

สัปดาห์ที่ 1

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 6 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : วิ่ง Easy 6 กม.
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่ง Easy 8 กม.
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 9 กม.

สัปดาห์ที่ 2

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 6 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : วิ่ง Easy 6 กม.
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่ง Easy 8 กม.
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 10 กม.

สัปดาห์ที่ 3

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 6 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : วิ่ง Easy 6 กม.
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่ง Easy 8 กม.
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 11 กม.

สัปดาห์ที่ 4

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 6 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : Track 1
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 12 กม.

สัปดาห์ที่ 5-8 Build (สร้างพื้นฐาน)

ช่วงนี้จะเป็นการสร้างพื้นฐานในการวิ่ง ตัวผู้ฝึกจะรู้สึกได้ว่าร่างกายเริ่มมีความแข็งแรงมากกว่าเดิมเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ หากมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นเล็กน้อยก็ให้พยายามเพิ่มวันพักฟื้นร่างกายด้วยการตัดวันวิ่ง Easy ออกไป 1 วัน

สัปดาห์ที่ 5

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 6 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : Track 2
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 13 กม.

สัปดาห์ที่ 6

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 8 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : Track 3
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 14 กม.

สัปดาห์ที่ 7

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 8 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : Track 4
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งขึ้นเนิน
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 14 กม.

สัปดาห์ที่ 8

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 8 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : Track 5
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 14 กม.

สัปดาห์ที่ 9-10 Peak (เริ่มเข้าสู่การฝึกจริงจัง)

จะเป็นช่วงที่เรามีระยะทางในการวิ่งมากที่สุด โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การผลักดันให้ร่างกายก้าวข้ามขีดจำกัด โดยที่ไม่หักโหมจนเกินไป การฝึกอย่างนี้มีความสำคัญต่อการเพิ่มความเร็ว เพิ่มพละกำลังและเพิ่มอัตราการฟื้นตัวของร่างกาย

สัปดาห์ที่ 9

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 10 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : Track 6
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 15 กม.

สัปดาห์ที่ 10

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 10 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : Track 7
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 14 กม.

สัปดาห์ที่ 11

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 12 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : Track 8
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งขึ้นเนิน
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 15 กม.

สัปดาห์ที่ 12

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 12 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : Track 9
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 16 กม.

สัปดาห์ที่ 13-16 Taper (ลดการฝึกลง)

ในช่วงนี้เราจะลดการฝึกลงเพื่อฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ จะได้มีความพร้อมต่อวันลงแข่งจริง ซึ่งจะมาถึงในอีก 4 สัปดาห์เท่านั้น

สัปดาห์ที่ 13

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 10 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : วิ่ง Easy 6 กม.
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 14 กม.

สัปดาห์ที่ 14

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 8 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : วิ่ง Easy 6 กม.
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 12 กม.

สัปดาห์ที่ 15

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 6 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : วิ่ง Easy 6 กม.
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 10 กม.

สัปดาห์ที่ 16

  • วันจันทร์ : วิ่ง Easy 6 กม. จากนั้น ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : วิ่ง Easy 6 กม.
  • วันพุธ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันพฤหัส : วิ่งเทมโป
  • วันศุกร์ : วิ่ง 15 นาที
  • วันเสาร์ : พัก + ฝึกอะไรเบาๆ 
  • วันอาทิตย์ : วันลงแข่งจริง ขอให้ทุกคนโชคดี
โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 16 สัปดาห์

เคล็ดลับในการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

ในโลกอุดมคติเราควรที่จะต้องฝึก 1 เดือนเต็มๆ แต่ในโลกชีวิตจริงมันมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในชีวิตมากมาย เราจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์เพื่อที่จะคอยดึงตัวเองให้ตั้งมั่นอยู่กับการฝึกอย่างต่อเนื่องได้นานขนาดนั้น

วิธีที่ 1. ฝึกวิ่งกับเพื่อน

การมีเพื่อนที่ฝึกวิ่งหรือเพื่อนที่เตรียมตัวลงแข่งฮาล์ฟมาราธอนด้วยกัน จะมีความสนุกและช่วยให้เราอยากฝึกมากขึ้น แต่ถ้าหากว่าเราไม่สามารถไปรวมกลุ่มกับพวกนักแข่งได้ก็มีวิธีอื่นดังนี้

  1. ชวนใครก็ได้ออกไปฝึกวิ่ง Easy ด้วยกัน
  2. ออกตามหากลุ่มนักวิ่งแถวบ้าน ลองหาทางกลุ่ม Facebook ก็ได้
  3. สมัครเข้าร่วมงานแข่งวิ่งใกล้บ้าน อาจเป็นงานแข่งเล็กๆ เพื่อสร้างความสนุกก็ได้

วิธีที่ 2. ในวันวิ่ง Easy เราก็ต้องวิ่ง Easy อย่างเดียว

เพื่อนๆ คงเคยได้ยินกันมาบ้างว่าการฝึกวิ่งช้าจะทำให้วิ่งเร็ว ซึ่งผลการวิจัยก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ดังนั้นในวันวิ่ง Easy ขอให้ใช้เพซสบายๆ ในระดับที่สามารถวิ่งไปพูดคุยไปได้โดยไม่เหนื่อยหอบ เราจะไม่หักโหมในวันฝึกวิ่ง Easy เพื่อที่จะให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัวได้ทัน

วิธีที่ 3. การดูแลเรื่องสารอาหารและอาหารเสริม

นักวิ่งจำเป็นต้องเรียนรู้ว่ามีสารอาหารอะไรบ้างที่ดีต่อนักวิ่ง ตัวเองทานอะไรได้บ้าง ทานอะไรแล้วไม่มีปัญหาเรื่องท้องไส้ปั่นป่วน และในวันวิ่งระยะไกลที่ต้องวิ่งเกิน 45 นาที ควรพกพาของกินเพื่อเติมพลังงาน เช่น เจลให้พลังงาน , Energy Bar , กล้วยหอม หรืออื่นๆ ติดตัวไปด้วย

นอกจากนี้ เพื่อนๆ ยังควรได้รับวิตามินที่สำคัญอย่างเพียงพอ

  • วิตามิน B12 : จะช่วยต่อต้านอาการเมื่อยล้า และช่วยส่งเสริมการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งมีหน้าที่ในการลำเลียงออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อและอวัยวะภายใน นอกจากนี้วิตามิน B12 ยังมีความสำคัญต่อระบบประสาทและสมองอีกด้วย
  • วิตามิน D : มีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูก ระบบการทำงานของกล้ามเนื้อ พละกำลังและสมรรถนะของกล้ามเนื้อ
  • โอเมก้า 3 : เป็นกรดไขมันที่จะช่วยลดอาการอักเสบ และช่วยเพิ่มอัตราการขนส่งออกซิเจน จึงมีความสำคัญต่อสมรรถะและการฟื้นร่างกาย
  • แคลเซียม : จำเป็นต่อการแข็งตัวของเลือด การสื่อสารของเส้นประสาท การกระตุ้นกล้ามเนื้อ การบำรุงกระดูก
  • แมกนีเซียม : สำคัญต่อการเผาผลาญพลังงาน เพราะแมกนีเซียมมีความจำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท

สำหรับการทานอาหารหลังการวิ่ง ให้เน้นอาหารประเภทคาร์บและโปรตีน เพื่อเติมพลังงานและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ สำหรับเพื่อนๆ ที่นึกไม่ออกว่ามีอะไรบ้างเราก็มีรายชื่อให้คร่าวๆ ดังนี้ นมช็อกโกแลต , โยเกิร์ตและผลไม้ , Energy Bar แบบมีน้ำตาลน้อย เป็นต้น

การพักผ่อนและการฟื้นร่างกาย 

ในช่วงพักฟื้นร่างกายก็ควรหยุดพักไม่ทำอะไรเลย หรือถ้าต้องการฝึกอะไรก็ควรฝึกอะไรที่ไม่สร้างแรงกระแทกให้ร่างกาย เช่น การเล่นโยคะ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยานในเส้นทางราบเรียบ เป็นต้น แบบนี้จะช่วยให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัวในขณะที่รักษาระดับความฟิตเอาไว้ได้

การดัดแปลงโปรแกรมการฝึก

อย่าลืมว่าการลงแข่งนั้นเป็นกิจกรรมส่วนตัวของเราเอง ดังนั้นเรามีสิทธิที่จะดัดแปลงตารางการฝึกตามสมควร แค่ต้องระวังอย่าฝึกหนักติดต่อกันสองวัน และควรมีวันพักฟื้นร่างกายอย่างน้อย 1-2 วันต่อสัปดาห์ ภายใน 30 นาทีหลังฝึกวิ่งให้ทานอาหารเพื่อฟื้นฟูพลังงานและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และอย่าลืมว่าเราต้องได้รับวิตามินอย่างเพียงพอด้วย

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3WNWQCa


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Running #Training
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: Half MarathonrunningRunning PlanRunning ProgramRunning Training Planตารางซ้อมวิ่งตารางซ้อมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนตารางฝึกวิ่งตารางฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนวิ่งฮาล์ฟมาราธอนแผนซ้อมวิ่งแผนซ้อมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนแผนฝึกวิ่งแผนฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอนโปรแกรมซ้อมวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนโปรแกรมฝึกวิ่งโปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน
Previous Post

อาดิดาส ลดกระหน่ำส่งท้ายปี! END OF SEASON SALE ลดสูงสุด 50% ตั้งแต่ 25 พ.ย. – 7 ธ.ค. 2568

thip

thip

Related Posts

9 รูปแบบฝึกวิ่งขึ้นเนิน เพิ่มความแข็งแรง อัพสปีดนักวิ่งให้เร็วขึ้น

9 รูปแบบฝึกวิ่งขึ้นเนิน เพิ่มความแข็งแรง อัพสปีดนักวิ่งให้เร็วขึ้น

23/11/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อ Hip Flexors

5 ท่าฝึกกล้ามเนื้อ Hip Flexors สำหรับเพิ่มสมรรถนะในการวิ่ง

20/11/2025
โปรแกรมฝึกวิ่ง 10K ภายใน 7 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่ มืออาชีพ นักวิ่งมีประสบการณ์

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10K ภายใน 7 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งที่อยากพัฒนาความเร็วและความอึด

17/11/2025
ท่า Bodyweight สำหรับนักวิ่ง

30 ท่า Bodyweight สำหรับนักวิ่ง

19/11/2025
ท่าดริล วอร์มอัพ สำหรับนักวิ่ง

5 ท่าดริล สำหรับวอร์มอัพก่อนการฝึกวิ่ง

12/11/2025
4 รูปแบบการฝึก Speed Workouts เพิ่มความเร็วในการวิ่งสำหรับนักวิ่งทุกระดับ

4 รูปแบบการฝึก Speed Workouts เพิ่มความเร็วในการวิ่งสำหรับนักวิ่งทุกระดับ

09/11/2025

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 44.9k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

อาการบาดเจ็บที่พบบ่อยของนักปั่นจักรยาน

อาการบาดเจ็บที่พบบ่อยของนักปั่นจักรยาน

by FatxRun
21/12/2018

5 รูปแบบการฝึกวิ่งเร็ว ที่จะช่วยเผาผลาญไขมันและทำให้วิ่งได้เร็วขึ้น

5 รูปแบบการฝึกวิ่งเร็ว ที่จะช่วยเผาผลาญไขมันและทำให้วิ่งได้เร็วขึ้น

by thip
08/06/2019

adidas GLIDE 4D

เผยโฉม adidas GLIDE 4D รุ่นใหม่ เตรียมวางจำหน่ายปลายปีนี้

by thip
11/10/2020

รองเท้าหลุดก็ไม่หยุดวิ่ง! นักวิ่ง 8 ขวบ กับการวิ่ง 5 กิโล เพื่อรำลึกถึงคุณปู่

รองเท้าหลุดก็ไม่หยุดวิ่ง! นักวิ่ง 8 ขวบ กับการวิ่ง 5 กิโล เพื่อรำลึกถึงคุณปู่

by VRUN VRIDE
27/12/2019

6 ท่าออกกำลังกายง่ายๆที่จะทำให้วิ่งได้ดีมากขึ้น

6 ท่าออกกำลังกายง่ายๆที่จะทำให้วิ่งได้ดีมากขึ้น

by thip
10/06/2019

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (173)
  • Fitness & Health (378)
  • News (900)
  • Review (126)
  • Running (965)
  • Stories (201)
  • Training (487)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี