รองเท้าวิ่ง ADIDAS ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ADIDAS (อาดิดาส) เป็นแบรนด์รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อดังสัญชาติเยอรมัน ที่คนไทยคุ้นตาในสัญลักษณ์ แถบ 3 ขีด เป็นสัญลักษณ์ที่มีความเรียบง่ายแต่ก็เท่สะดุดตา โดย ADIDAS มีสโลแกนชวนให้ฮึกเหิมว่า “Impossible is Nothing”..ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ..ซึ่งอาดิดาสเอง ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่พิสูจน์วลีนี้ด้วยการยืนหยัดข้ามกาลเวลามานับ 100 ปี!
โดยเริ่มจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ในเมือง Herzogenaurach ในเขต Bavaria ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นยุคสมัยที่อุตสาหกรรมสิ่งทอเฟื่องฟูและมีโรงงานผลิตรองเท้าหลายเจ้าในเยอรมัน ซึ่ง Adolf หรือ Adi Dassler ในขณะนั้นยังเป็นหนุ่มน้อย เขามีความถนัดในการทำขนมปัง แต่ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาตกงาน จึงต้องทำงานด้านรองเท้าในร้านซักรีด
จนต่อมาช่วงปี ค.ศ. 1920 Adolf ได้ร่วมมือกับพี่ชาย Rudolf (หรือ Rudi) ทำรองเท้าวิ่งจำหน่าย ภายใต้ชื่อบริษัท Dassler Schuhfabrik หรือ Dassler Brothers Shoe Factory ได้สำเร็จ ซึ่งได้มีลูกค้าเป็นนักกีฬาระดับโอลิมปิก อย่าง Jesse Owens ได้สวมรองเท้าวิ่งของสองพี่น้องแบรนด์ Dassler ลงในการแข่งขัน “The Berlin Olympics” ในปี 1936 ทำให้เกิดรายได้จากยอดขายตามมาราว 2 แสนคู่ ก่อนจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ยากลำบาก เนื่องจากทหารนาซีได้ยึดครองและควบคุมให้โรงงานต่าง ๆ ผลิตรองเท้าบู้ทสำหรับทหารเยอรมัน และ Rudolf ก็ถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมรบกับกองทัพ ซึ่งต่อมาถูกจับในฐานะนักโทษสงครามและต้องใช้ชีวิตเยี่ยงนักโทษสงครามในค่ายทหารราว 1 ปี
หลังจากถูกปล่อยตัวออกมา Rudolf ได้เกิดความขัดแย้งกับ Adolf อย่างมาก จนกระทั่ง ในปี ค.ศ. 1948 Rudolf ก็ได้แยกตัวไปสร้างแบรนด์ของตัวเอง ว่า RUDA ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อ PUMA (พูม่า) พร้อมสัญลักษณ์ “เสือกระโจน” ในปัจจุบัน
ส่วน Adolf ก็เปลี่ยนชื่อ Dassler เป็น Adidas ที่มาจากอักษรสามตัวแรกของ Adi กับ Dassler และได้ปรับสัญลักษณ์แถบจากเดิม 2 ขีด กลายเป็น 3 ขีด ในอย่างที่เราคุ้นตากัน
ทั้งนี้ มีเรื่องราวที่เล่ากันว่าทั้งคนในบริษัท PUMA และ ADIDAS ในสมัยนั้น ต่างมีการแบ่งแยกอย่างรุนแรง ต่างสร้างทีมฟุตบอลของตัวเอง และให้คนงานของบริษัทดื่มเบียร์ยี่ห้อต่างกัน ให้สมาชิกในครอบครัวเรียนหนังสือกันคนละที่ ทั้ง Adolf และ Rudolf ก็ไม่เคยพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวกันอีกเลย จะคุยเฉพาะการตอบโต้ทางธุรกิจในศาลเท่านั้น!
ปัจจุบัน Adolf ได้เสียชีวิตแล้ว และธุรกิจ Adidas ก็ได้ถูกเปลี่ยนมือจากลูกชายไปสู่วงการธุรกิจที่มีหุ้นส่วนเป็นบริษัท โซโลมอน กรุ๊ป และปรับเป็นชื่อ Adidas Solomon AG และต่อมาได้ขายหุ้นโซโลมอน แล้วซื้อ Reebok จากอังกฤษ มาแทนในปี ค.ศ. 2006 ซึ่งทำให้ปัจจุบัน Adidas มียอดขายใกล้เคียงกับ NIKE ยักษ์ใหญ่ในวงการกีฬานั่นเอง
กว่าจะมาถึงวันนี้ Adidas ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อย และเชื่อได้ว่าจะยังไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่งด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในอนาคตได้อีกยาวนาน