5 เคล็ดลับสำหรับเพิ่มความทรหดในการวิ่งให้เร็วที่สุด
การเพิ่มความทรหดนั้นเป็นเรื่องที่ฟังดูยากสำหรับนักวิ่งมือใหม่ และการที่นักวิ่งบางคนพบว่าตัวเองติดเพดาน ไม่เก่งขึ้นเสียที ก็อาจจะเสียกำลังใจไปเลยก็ได้ แต่เคล็ดลับในบทความนี้สามารถช่วยเพื่อนๆ ได้อย่างแน่นอน
บางครั้งการฝึกเพื่อเพิ่มความทรหดก็เป็นเรื่องน่าเบื่อ
เราอาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีความทรหดเพิ่มขึ้น การวิ่งแต่ละครั้งมันรู้สึกยากเย็น และการวิ่งระยะไกลดูเป็นไปไม่ได้
แต่จงจำไว้ว่า แม้ว่ามันจะเป็นอะไรที่ท้าทาย แต่มันจะง่ายขึ้นเรื่อยๆ การวิ่งสะสมระยะทางมากขึ้นทุกสัปดาห์อย่างค่อยเป็นค่อยไป มันจะช่วยเปิดประตูและทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าเราสามารถทำสำเร็จได้
การเพิ่มความทรหดในการวิ่งไม่จำเป็นต้องทำให้รู้สึกท้อแท้ก็ได้ หากเพื่อนๆ เหนื่อยและทำไม่สำเร็จ ก็อาจเป็นเพราะว่าขาดกลยุทธ์สำคัญในการฝึก และจากนี้ไปคือ 5 เคล็ดลับในการฝึกที่ไม่เพียงแต่จะง่ายเท่านั้นแต่ยังได้ผลเร็วอีกด้วย
5 เคล็ดลับในการฝึกเพิ่มความทรหดในการวิ่ง
1. ต้องฝึกอย่างต่อเนื่อง
ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเพิ่มความทรหดนั้น มันแทบจะเรียกว่าความลับไม่ได้เลย แต่มันคือสิ่งที่เราเคยได้ยินกันมาก่อนแล้ว มันก็คือความต่อเนื่องในการฝึกนั่นเอง ความทรหดจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยหากเพื่อนๆ ไม่ได้ทำการฝึกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่าเราต้องวิ่งทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์ อาจจะมีสักสองวันที่ออกไปวิ่งข้างนอกสัก 30 นาที ส่วนวันอื่นๆให้ฝึกในเวลาแค่ไม่กี่นาที การฝึกอย่างต่อเนื่องจะทำให้ร่างกายมีเวลาในการปรับตัว , การค่อยๆ เพิ่มความยากจะทำให้เรารู้สึกว่าการวิ่งมันง่ายขึ้น , หลังจากการฝึกวิ่งไปไม่กี่ครั้งเราจะพบว่าร่างกายเริ่มอึดมากขึ้นแล้ว
2. วิ่งให้ไกลขึ้นโดยมีช่วงที่เดินพัก
ให้เราเพิ่มระยะทางมากขึ้นทุกสัปดาห์โดยค่อยๆ เพิ่มอย่างช้าๆ และในระหว่างทางให้พักด้วยการเดิน (ถ้าหากว่าจำเป็น) ระยะทาง 10 กิโลมันก็คือ 10 กิโล ไม่ว่าเราจะวิ่งทั้งเส้นทางหรือวิ่งสลับกับการเดิน 2 นาทีในทุก 1.6 กม. ก็ตาม ในที่สุดร่างกายจะเริ่มทำการปรับตัวให้เข้ากับระยะทาง แล้วความทรหดในการวิ่งจะเพิ่มขึ้นเพราะเราฝึกนานขึ้นนั่นเอง
3. เพิ่มการฝึก Cross Training เข้ามา โดยเป็นการฝึกแบบ Plyometrics และ HIIT
การเพิ่มระยะทางเร็วเกินไปหรือถี่เกินไปจะนำไปสู่การได้รับบาดเจ็บได้ จึงต้องมีวันสำหรับฝึกอย่างอื่นแทนด้วย การฝึกออกกำลังกายแบบ Plyometrics และ HIIT จะช่วยเพิ่มความฟิตให้กับระบบหลอดเลือดและหัวใจเร็วมากขึ้น , ช่วยให้ปอดกับหัวใจแข็งแรงขึ้น , จึงทำให้การวิ่งครั้งต่อไปมันรู้สึกว่าง่ายขึ้น ในวันที่เราไม่ได้ฝึกวิ่งก็ควรฝึก Plyometric strength หรือ Strength Training และเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
4. ทำตามแผนตลอด
ความรู้สึกท้อแท้จะทำให้เราล้มเลิก การวิ่งมันจะง่ายขึ้นได้แต่เราก็ต้องให้เวลาและต้องใช้ความพยายามกับมัน ให้ลองศึกษาโปรแกรมการวิ่งหลายๆโปรแกรม (ค้นหาจากในเว็บไซต์นี้ก็ได้) หรือลองจัดตารางการวิ่งเอง แล้วนำมันไปแปะที่หน้าตู้เย็นเพื่อจะได้เห็นมันทุกวัน การรู้เส้นทางล่วงหน้าจะช่วยให้เราบริการจัดการการวิ่งระยะไกลได้ง่ายมากขึ้น เพราะเรารู้แล้วว่าเดี๋ยวต้องเจอกับอะไร การเพิ่มความทรหดไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ดังนั้นต้องให้เวลากับมัน , ทำตามแผน , และคอยเฝ้าดูพัฒนาการของตัวเอง
5. โฟกัสเรื่องความเร็วแค่ 1 วันต่อสัปดาห์ก็พอ
สิ่งที่อันตรายที่สุดคือการฝึกมากเกินและเร็วเกินไป ในฐานะนักวิ่งมือใหม่ มันง่ายที่จะรู้สึกอยากวิ่งเร็วขึ้นและไกลขึ้น เมื่อเรากำลังพยายามวิ่งเพื่อเพิ่มความทรหด ก็ควรโฟกัสไปที่การวิ่งให้ไกลขึ้นกว่าเดิม
ความเร็วในการวิ่งจะเพิ่มขึ้นเองเมื่อเราเริ่มมีพื้นฐานการวิ่งที่แน่น แต่กว่าจะถึงเวลานั้นก็ต้องคอยเตือนตัวเองเสมอว่า อย่าไปโฟกัสเรื่องความเร็ว ดังนั้นเราจะมีวันวิ่งเร็วแค่ 1 วันเท่านั้น จากนั้นให้บังคับตัวเองให้วิ่งช้าลงและสนุกไปกับการวิ่งพร้อมกับการฝึกอื่นๆ
บทสรุป
การลองทำอะไรครั้งแรกเป็นเรื่องน่ากลัวนิดหน่อยและมีความท้าทาย ไม่ว่าเราจะเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือคนที่กำลังจะวิ่งระยะไกล การให้เวลากับตัวเองในการเพิ่มความทรหดนั้นเป็นเรื่องสำคัญ
ขอให้เพื่อนๆ ใช้เคล็ดลับเหล่านี้ในการเพิ่มความทรหดให้ตัวเอง และเมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็จะพบว่าตัวเองสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นแล้ว การมีพลังมากขึ้นซึ่งเกิดจากการทำเรื่องยากๆ จะทำให้ความสำเร็จของเรามีความหอมหวนขึ้น จงอดทน , มีความต่อเนื่อง , และเดินพักเมื่อจำเป็น
การวิ่งเป็นกีฬาที่พิเศษ และไม่มีอะไรที่จะเหมือนกับครั้งแรกที่เรารู้สึกว่าตัวเองสามารถวิ่งไกลแค่ไหนก็ได้ การเพิ่มความทรหดคือหนึ่งในสิ่งที่สุดยอดที่สุด ที่เราจะทำให้กับร่างกายและจิตใจของเรา
ที่มา : https://bit.ly/2XDK7Hi
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming