23 รองเท้าปั่นจักรยานที่ดีที่สุดในปี 2020
รองเท้าปั่นจักรยานเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ชิ้นสำคัญของเหล่านักปั่น เพราะเท้าเป็นจุดที่ต้องสัมผัสกับตัวจักรยานโดยตรงเพื่อส่งแรงถีบให้จักรยานสามารถเคลื่อนที่ไปได้ ดังนั้นการเลือกรองเท้าปั่นจักรยานสักคู่จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับนักปั่นทั้งมือใหม่และมืออาชีพไม่น้อยไปกว่าการเลือกซื้อจักรยานคันโปรด
บทความนี้เรามี 23 รองเท้าปั่นจักรยานที่ดีที่สุดในปี 2020 มาฝากกัน โดยรองเท้าทั้งหมดเป็นรองเท้าปั่นจักรยานถนนที่ผ่านการทดสอบและคัดเลือกโดย BikeRadar เว็บไซต์ที่เชี่ยวชาญเรื่องอุปกรณ์การปั่นจักรยานที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้ ไปดูกันเลยว่า The Best Road Cycling Shoes 2020 มีอะไรบ้าง
1. Shimano S-Phyre RC9

ราคา : £320 / 12,911.91 บาท
รองเท้าคู่เดียวที่ได้รับคะแนน 5 ดาวจากรายการทั้งหมดนี้ มาพร้อมปุ่ม Dual BOA IP1 , ด้านบนของรองเท้าหุ้มด้วยไมโครไฟเบอร์ทั้งหมด เพื่อช่วยเรื่องการยึดเกาะและความปลอดภัย , แผ่นซัพพอร์ตเท้าที่สามารถถอดออกได้ รองเท้าคู่นี้ผลิตจากคาร์บอนที่แข็งที่สุดของแบรนด์ Shimano และเป็นรองเท้าแข่งที่ได้รับการพิสูจน์ในการแข่งขัน Tour de France มาแล้ว แม้ว่าราคาจะค่อนข้างแพง แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพแล้วถือว่าคุ้มค่า
2. Bont Riot Road Boa

ราคา : £150 / 6,049.70 บาท
พื้นรองเท้าทำจากคาร์บอนที่มีความแข็งสูงและทนความร้อนได้สูง ทำให้เป็นรองเท้าที่มีแพลตฟอร์มการปั่นที่มีประสิทธิภาพและให้การซัพพอร์ตอย่างดี มีกิมมิคตรงที่หากอยากให้ขนาดของรองเท้าหดลงเล็กน้อยสามารถนำไปอบที่ความร้อน 70 °C / 160 °F โดยใช้เวลา 20 นาที จะทำให้รองเท้ากระชับขึ้น แต่ทางผู้ทดสอบเตือนว่ารองเท้ามีขนาดเล็กกว่าไซส์ที่ระบุ ควรเช็คให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
3. Fizik Tempo R5 Powerstrap

ราคา : £110 / 4,436.35 บาท
รองเท้าที่ได้รับคำชมจากผู้ทดสอบว่าเป็นรองเท้าที่ใส่สบายมาก เหมาะกับการปั่นจักรยานระยะไกล พื้นรองเท้าไม่แข็งจนเกินไป กระชับเท้าด้วยสายรัด Velcro แต่รองเท้าไม่ได้มีน้ำหนักเบา ถ้าเป็นขนาดไซส์ EU45 น้ำหนักจะอยู่ที่ 626 กรัม
4. Giant Surge Pro

ราคา : £275 / 11,089.80 บาท
รองเท้าที่ใช้นวัตกรรมการออกแบบโดยทำให้พื้นคาร์บอนเชื่อมยาวไปถึงส้นเท้า เรียกว่า ExoBeam ทำให้พื้นรองเท้ามีความแข็งและเป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ ช่วยในการเคลื่อนไหวของเท้า และเพิ่มความสบายให้ข้อเท้ามากขึ้น สามารถใส่แผ่นเสริมเพื่อซัพพอร์ตเท้าได้ รองเท้ารุ่นนี้จะมีให้เลือกแค่สีขาวและสีดำเท่านั้น
5. Giro Sentrie Techlace

ราคา : £220 / 8,868.83 บาท
รองเท้าที่มีการผสมผสานระหว่าง Velcro, Techlace และ Boa dial ที่อาจจะดูแปลกตาไปสักหน่อย มาพร้อมกับคุณสมบัติของพื้นรองเท้าคาร์บอนที่แข็งแกร่ง ระบบเชือก Techlace ที่ปรับได้อย่างอิสระ upper ของรองเท้าที่เป็น Exofibre กันน้ำได้ ในราคาที่ไม่แพงเกินไป
6. Mavic Cosmic Ultimate SL

ราคา : £340 / 13,720.05 บาท
รองเท้าที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นรองเท้าปีนเขาระดับมืออาชีพ มีน้ำหนักเบาเพียง 436 กรัม (EU45) ด้านบนรองเท้าเป็นวัสดุ TPU แบบไร้รอยต่อห่อหุ้มอยู่ด้านบนของชั้นตาข่ายที่บางเบา ระบายอากาศได้ดี มีปุ่ม Boa 1 ปุ่ม พื้นรองเท้า Full Carbon SL ของ Mavic โดยเฉพาะ ที่มีระดับความสูงเพียง 6.5 มม. มีให้เลือกทั้งหมดสามสี ได้แก่ สีดำ สีขาว และสีเหลือง
7. Sidi Wire 2

ราคา : £330 / 13,313.10 บาท
เป็นรองเท้าที่สวมใส่สบาย มีการถ่ายโอนพลังงานที่ยอดเยี่ยม แต่ผู้ทดสอบระบุว่าอาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปร่างอวบอ้วนสักเท่าไหร่ เพราะขนาดของรองเท้าค่อนข้างแคบ มีปุ่ม Boa ที่มีลวดลายเฉพาะ โดยรวมแล้วเป็นรองเท้าที่มีประสิทธิภาพ
8. Specialized S-Works 7

ราคา : £340 / 13,720.05 บาท
เป็นรองเท้ารุ่นปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า โดยออกแบบให้ toebox กว้างขึ้น ผู้ทดสอบระบุว่าเป็นรองเท้าที่ใส่สบายมาก ด้วย upper ที่เป็นผ้าตาข่าย Dyneema Mesh และการออกแบบรูปทรงรองเท้าให้มีความกระชับพอดีกับเท้าทุกรูปแบบ พื้นรองเท้าเป็นคาร์บอนที่เป็นเทคโนโลยีโดยเฉพาะของแบรนด์ที่เรียกว่า FACT Powerline ทำให้แข็งแรงและปลอดภัยในขณะสวมใส่
9. Specialized Torch 3.0

ราคา : £200 / 8,070.10 บาท
จุดเด่นรองเท้าคู่นี้อยู่ตรงประสิทธิภาพที่เกินราคา มาพร้อมระบบเชือกแบบ Boa 2 ปุ่ม และสายรัด Velcro ที่ทำให้ปรับกระชับพอดีเท้าได้ง่าย แผ่นซัพพอร์ตที่รองรับส่วนโค้งของเท้าได้ดี มีส้นเท้าที่ช่วยกันลื่น ส่วนพื้นรองเท้าเป็นคาร์บอน FACT ที่มีระดับความแข็ง 8.5 แม้ว่าจะไม่ได้สูงมากแต่ก็แข็งพอที่จะสามารถรองรับทุกสภาพผิวได้ดี
10. Suplest Edge3 Pro

ราคา : £310 / 12,508.60 บาท
เป็นรองเท้ารุ่นท็อปของรุ่นที่ Stefan Küng เจ้าของแชมป์ WorldTour สวมใส่ พื้นรองเท้าคาร์บอน Ergo 360 ที่แข็งแกร่ง ทำให้แพลตฟอร์มการถีบมีประสิทธิภาพ ด้านบนเป็น microfiber ที่หุ้มเชื่อมต่อกับลิ้นรองเท้าอย่างพอดี และมีชั้นแผ่นคาร์บอนบางๆอยู่ใต้ upper เพื่อรองรับแรงกดจากระบบเชือก Dual Boa
11. Bont Helix

ราคา : £349 / 14,082.27 บาท
รองเท้าแข่งรุ่นท็อปของแบรนด์ ที่เน้นการออกแบบเพื่อการถ่ายโอนพลังงานขั้นสูงสุดจากเท้าไปยังคันเหยียบจักรยาน ระบบเชือก Boa system ที่ปรับง่ายทั้งก่อนใส่และในระหว่างการปั่น พื้นรองเท้าที่แข็งแต่น้ำหนักเบา แต่ผู้ทดสอบระบุว่าอาจไม่เหมาะกับใครที่มองหาคุณสมบัติเรื่องความทนทาน ส่วนราคาก็ถือว่าแพงใช้ได้เลย
12. Bont Riot Buckle

ราคา : £99 / 3,995.48 บาท
พื้นรองเท้าที่ขึ้นรูปด้วยความร้อน Heat moldable มีน้ำหนักเพียง 632 กรัม (EU45) พื้นรองเท้าทำจากวัสดุที่เป็นไฟเบอร์กลาสเสริมด้วยคาร์บอน ระบบเชือกเป็นสายรัด Velcro , upper ค่อนข้างแข็ง แต่ราคาดีงามมาก
13. Bontrager Ballista Knit

ราคา : £270 / 10,894.97 บาท
ด้วยระบบเชือกแบบ Boa ที่มีเพียงปุ่มเดียว และวัสดุรองเท้าเป็นผ้าถัก ทำให้รองเท้ามีน้ำหนักเบาเพียง 554 กรัม (EU45) พื้นรองเท้าเป็นคาร์บอนที่แข็งแรงมาก และมีช่องระบายอากาศรูปตัววีอยู่ที่กลางพื้นรองเท้า แม้จะเป็นผ้าถักแต่ก็กันน้ำได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็ระบายอากาศได้ดีด้วย จึงเหมาะกับการปั่นระยะไกล
14. DMT KR1 Knit

ราคา : £310 / 12,510.97 บาท
ผู้ทดสอบชื่นชอบในเรื่องความสบายของรองเท้า กระชับพอดีเท้า มีประสิทธิภาพสูง ด้านบนนุ่มเหมือนกำลังใส่ถุงเท้า ระบายอากาศได้ดี และพื้นรองเท้าที่แข็งแกร่ง แต่ตรงบริเวณนิ้วเท้าไม่มีอะไรป้องกัน อาจเกิดการเสียดสีได้
15. Fizik R1 Infinito Knit

ราคา : £350 / 14,128.10 บาท
ตัวรองเท้าใช้วัสดุที่เป็นผ้าถักแบบยืดหยุ่น ระบายอากาศได้ดี สวมใส่สบายเหมือนกำลังใส่รองเท้าแตะ เหมาะกับการปั่นจักรยานระดับ hard ท่ามกลางอุณหภูมิสูงๆ เมื่อปั่นไปนานๆแล้วเกิดอาการเท้าบวมขยายตัว ผ้าถักที่ยืดหยุ่นจะช่วยซัพพอร์ตเท้าได้ดี เห็นบางเบาแบบนี้แต่พื้นรองเท้าก็แข็งเพียงพอสำหรับการแข่งขัน
16. Fizik R3 Aria

ราคา : £265 / 10,693.71 บาท
รองเท้าอีกคู่ที่ดูเพรียวบาง ด้านบนใช้วัสดุ Microtex แบบเดียวกับที่ใช้ทำอานจักรยาน ทำให้รองเท้าสวมใส่สบาย แต่มีความทนทานสูง ทำความสะอาดง่าย เหมาะกับทุกสภาพอากาศ ปุ่มปรับ dual Boa โดยปุ่มด้านหน้าทำหน้าที่ปรับความกระชับพอดีเท้า ส่วนปุ่มด้านหลังปรับความกระชับรอบส้นเท้า มีการใช้เลเซอร์เจาะรูขนาดเล็กๆ เพื่อช่วยระบายอากาศ
17. Scott Road Comp BOA

ราคา : £100 / 4,035.15 บาท
แม้ว่าราคาจะถูกมาก แต่คุณภาพก็มาเต็ม ระบบเชือก Boa , พื้นรองเท้าลดต้นทุนด้วยการใช้วัสดุที่เป็นไนลอนผสมกับใยแก้ว ซึ่งไม่ได้แข็งเท่ากับคาร์บอน แต่ก็เพียงพอกับการปั่นจักรยานแบบปกติทั่วไปได้อย่างสบาย เหมาะกับเป็นรองเท้าคู่เริ่มต้นสำหรับนักปั่นมือใหม่ แถมมีสีให้เลือกหลากหลายด้วย
18. Shimano RC7

ราคา : £170 / 6,860.51 บาท
เป็นรองเท้ารุ่นที่มีความคล้ายกับ S-Phyre RC9s มาก น้ำหนักเบากว่า มาพร้อมระบบ dual Boa มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับรองเท้าราคาแพงๆ แต่ราคาถูกกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นรองเท้าที่แข็งแกร่งพอสำหรับการแข่งขัน แต่ขณะเดียวกันก็ใช้ปั่นจักรยานตามปกติทุกวันได้ด้วย
19. Shimano RP9

ราคา : £174.95 / 7,060.18 บาท
รองเท้าระดับไฮเอนด์ที่เน้นความทนทานและความสบายในการขับขี่ มากกว่าเรื่องความแข็งแกร่งและสมรรถนะการแข่ง , heel cup ที่ออกมาให้พอดีเท้า เหลือพื้นที่นิดหน่อย แต่เมื่อหมุนปรับระบบเชือกก็จะกระชับพอดี
20. Shimano RW5

ราคา : £109.99 / 4,439.32 บาท
รองเท้าที่เหมาะกับการปั่นท่ามกลางอากาศหนาวเย็น พื้นรองเท้าทำจากไนลอนเสริมด้วยแผ่นคาร์บอนเพิ่มความแข็งแกร่ง , ใส่ครีต SPD , ด้านบนของรองเท้าหุ้มด้วย Dryshield ส่วนด้านในเป็นขนแกะ ทำให้เท้าอบอุ่นในสภาพอากาศที่หนาวเย็น
21. Sidi Shot

ราคา : £359 / 14,487.97 บาท
รองเท้าสไตล์คลาสสิกที่ราคาแพงที่สุดในตลาด แต่ไม่ใช่รองเท้าที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยที่สุดตามราคา ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นรองเท้าแข่งโดยเฉพาะ ซึ่งมีนักปั่นชาวโคลัมเบีย Egan Bernal ใส่รองเท้ารุ่นนี้ชนะการแข่งขัน Big Bike มาแล้ว , พื้นรองเท้าทำจากคาร์บอนที่แข็งมาก แต่น้ำหนักของรองเท้าไม่ได้เบาสักเท่าไหร่ ตรงส้นเท้าสามารถปรับระดับได้ เช่นเดียวกับระบบเชือก Boa ที่อยู่ด้านหน้าเท้า
22. Specialized S-Works EXOS

ราคา : £450 / 18,160.46 บาท
รองเท้าที่มีสไตล์การออกแบบไม่ซ้ำใคร และมีน้ำหนักเบามาก จากคู่ที่ใช้ทดสอบขนาด EU45 มีน้ำหนักเพียง 347.2 กรัม เท่ากับว่ารองเท้าหนึ่งข้างหนักแค่ 173.6 กรัมเท่านั้น ด้านบนใช้ผ้าตาข่าย Dyneema ซึ่งเป็นใยสังเคราะห์ที่มีน้ำหนักเบาและอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี แต่ไม่ยืด , พื้นรองเท้าที่บาง แต่มีดัชนีระดับความแข็งสูงถึง 13 , ผู้ทดสอบแนะนำว่าเป็นรองเท้าที่เหมาะกับการปั่นในสภาพอากาศที่ร้อนและการปั่นระยะไกล
23. Triban RC 520

ราคา : £70 / 2,824.90 บาท
รองเท้าที่คุ้มค่าคุ้มราคา ทนทาน ใส่สบาย สามารถใส่ปั่นระยะทางไกลๆได้ ระบบเชือกและสายรัดแบบคลาสสิก โดยรวมแล้วเหมาะกับการปั่นแนวผจญภัย
ที่มา : https://bit.ly/2L2dWr6
ข้อมูลราคาอัปเดตล่าสุด ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2020
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming