วันพฤหัสบดี, มกราคม 1, 2026
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์ ตั้งแต่พื้นฐานจนจบฟูลมาราธอน

thip by thip
31/12/2025
in Running, Training
0
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

รูปภาพโดย jcomp บน Freepik

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ตัดสินใจเริ่มวิ่งมาราธอนไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม โปรแกรมการฝึกนี้เหมาะกับทั้งนักวิ่งมือใหม่และนักวิ่งที่มีประสบการณ์ มีช่วงระยะเวลาในการฝึก 16 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หากเพื่อนๆ เป็นคนที่พักจากการฝึกวิ่งมาเป็นเวลานาน ก็อาจจะมองหาโปรแกรมการฝึกที่ใช้เวลา 20 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ง่ายขึ้น

ระดับ Max Heart Rate ที่เหมาะสมกับการวิ่งรูปแบบต่างๆ

  • การวอร์มอัพ / คูลดาวน์ / วิ่งพัก ให้เราวิ่งโดยใช้ Max Heart Rate 50-72% และใช้เพซ  07:50 – 08:05 นาทีต่อ 1 กิโลเมตร
  • การวิ่งระยะไกล ให้เราวิ่งโดยใช้ Max Heart Rate 70-80% และใช้เพซ  07:10 – 07:25 นาทีต่อ 1 กิโลเมตร
  • การวิ่งเทมโปและการวิ่งขึ้นเนิน ให้เราวิ่งโดยใช้ Max Heart Rate 85-90% และใช้เพซ  06:39 – 06:59 นาทีต่อ 1 กิโลเมตร
  • การวิ่ง Interval ให้เราวิ่งโดยใช้ Max Heart Rate 85-95% และใช้เพซ  05:00– 05:15 นาทีต่อ 1 กิโลเมตร

การวิ่ง Easy

เป็นการวิ่งสบายๆในโซน 1 เราจะวิ่งในระดับที่สามารถวิ่งไปแล้วพูดคุยไปด้วยได้โดยไม่มีอาการหอบ การวิ่งระดับนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีเวลาฟื้นตัวในขณะที่เสริมสร้างความทรหดไปด้วย ในระยะยาวเราจะพบว่าตัวเองสามารถวิ่งได้เร็วกว่าเดิม

วิ่ง Strength Training / Conditioning

การฝึก Strength Training  หรือ Conditioning มีความสำคัญในการวิ่งมาราธอน เพราะช่วยในการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเมื่อกล้ามเนื้อมีความแข็งแรงก็จะลดโอกาสในการได้รับบาดเจ็บและยังช่วงเสริมสมรรถนะในการวิ่งอีกด้วย

รูปแบบการฝึกวิ่ง Interval (ไปฝึกในสนามกีฬาได้)

สำหรับการวิ่ง Interval ให้เราวิ่งในโซน 4-5 ไปเลย หลังการวิ่งแต่ละรอบเราจะพักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง โดยจะมีรูปแบบการวิ่งต่างกัน 16 รูปแบบดังต่อไปนี้

  • Track 1 วิ่ง 400 เมตร 6 รอบ แต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 60 วินาที
  • Track 2 วิ่ง 30 วินาที 4 รอบ (จ๊อกกิ้งรอบละ 30 วินาที) / วิ่ง 1 นาที 4 รอบ (จ๊อกกิ้ง 1 นาที)  / วิ่ง 2 นาที 4 รอบ (จ๊อกกิ้ง 2 นาที) 
  • Track 3 วิ่ง 600 เมตร 4 รอบ (จ๊อกกิ้ง 90 วินาที) / วิ่ง 400 เมตร 4 รอบ (จ๊อกกิ้ง 60 วินาที) / วิ่ง 200 เมตร 4 รอบ (จ๊อกกิ้ง 30 วินาที)
  • Track 4 วิ่ง 2 นาที 6 รอบ แต่ละรอบพักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 120 วินาที
  • Track 5 วิ่ง 500 เมตร 6 รอบ แต่ละรอบพักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง 75 วินาที
  • Track 6 วิ่งตามรายละเอียดในวงเล็บนี้ 4 รอบ (วิ่ง 1 นาที จ๊อกกิ้ง 60 วินาที จากนั้นวิ่ง 2 นาที จ๊อกกิ้ง 75 วินาที)
  • Track 7 วิ่ง 1 กิโลเมตร 2 รอบ (จ๊อกกิ้ง 2 นาที) / วิ่ง 400 เมตร 3 รอบ (จ๊อกกิ้ง 1 นาที) / วิ่ง 200 เมตร 3 รอบ (จ๊อกกิ้ง 45 วินาที)
  • Track 8 วิ่ง 3 นาที 2 รอบ (จ๊อกกิ้ง 75 วินาที) / วิ่ง 1 นาที 4 รอบ (จ๊อกกิ้ง 60 วินาที) / วิ่ง 3 นาที 2 รอบ (จ๊อกกิ้ง 75 วินาที)
  • Track 9 วิ่ง 200 เมตร 4 รอบ (จ๊อกกิ้ง 30 วินาที) / วิ่ง 800 เมตร 2 รอบ (จ๊อกกิ้ง 90 วินาที) / วิ่ง 200 เมตร 2 รอบ (จ๊อกกิ้ง 30 วินาที)
  • Track 10 วิ่ง 3 นาที 5 รอบ แต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที
  • Track 11 วิ่ง 1.6 กิโลเมตร 3 รอบ แต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 120 วินาที
  • Track 12 วิ่ง 2 นาที 5 รอบ (จ๊อกกิ้ง 75 นาที) / วิ่ง1 นาที 8 รอบ (จ๊อกกิ้ง 60 วินาที)
  • Track 13 วิ่ง 600 เมตร 6 รอบ แต่ละรอบพักด้วยการจ๊อกกิ้ง 60 วินาที
  • Track 14 วิ่ง 3 นาที 2 รอบ (จ๊อกกิ้ง 90 วินาที) / วิ่ง 2 นาที 3 รอบ (จ๊อกกิ้ง 75 วินาที) / วิ่ง 1 นาที 4 รอบ (จ๊อกกิ้ง 60 วัน)
  • Track 15 วิ่ง 300 เมตร 10 รอบ แต่ละรอบพักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที
  • Track 16 วิ่ง 200 เมตร 10 รอบ แต่ละรอบพักด้วยการจ๊อกกิ้ง 30 วินาที

ข้อปฎิบัติในการฝึกวิ่ง Interval

  1. ก่อนการฝึกจะต้องวอร์มอัพก่อนทุกครั้ง และหลังการฝึกก็ต้องมีการคูลดาวน์ด้วยโดยใช้เวลา 10-15 นาที
  2. โดยปกติแล้วในสนามกีฬาขนาดมาตราฐานจะมีระยะทางในการวิ่งรอบสนาม 400 เมตร จึงเหมาะกับการฝึกวิ่ง Interval แต่ถ้าเพื่อนๆไม่สะดวกไปวิ่งที่สนามกีฬาก็ไม่เป็นไร ให้ใช้นาฬิกาออกกำลังกายวัดระยะทางเอาก็ได้
  3. ตอนเริ่มวิ่งให้วิ่งด้วยความเร็วคงที่และในการวิ่งรอบสุดท้ายให้เร่งความเร็วขึ้นมาเล็กน้อย
  4. ในกรณีที่วิ่งโดยใช้ลู่วิ่งในสนามกีฬาก็สามารถฝึกพร้อมกันหลายคนได้
โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์
รูปภาพโดย jcomp บน Freepik

12 รูปแบบการวิ่งเทมโป

ในตอนที่ฝึกวิ่งเทมโปให้ใช้ระดับความเข้มข้นในการฝึก 6 เต็ม 10  อย่าให้เกินกว่านั้น

  • เทมโป 1 ให้เราวิ่ง 1 กิโลเมตร 3 รอบ ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที
  • เทมโป 2 ให้เริ่มด้วยการวิ่ง 90 วินาที 2 รอบ / วิ่ง 60 วินาที 4 รอบ / วิ่ง 30 วินาที 4 รอบ / วิ่ง 15 วินาที 4 รอบ ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที
  • เทมโป 3 วิ่ง 2 นาที 3 รอบ / วิ่ง 10 นาที / วิ่ง 3 นาที 2 รอบ ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที ยกเว้นตอนที่วิ่ง 10 นาทีให้พัก 120 วินาที
  • เทมโป 4 วิ่ง 8 นาที (พัก 15 นาที) / วิ่ง 5 นาที 3 รอบ ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที
  • เทมโป 5 วิ่ง 2 กิโลเมตร / 1 กิโลเมตร / 2 กิโลเมตร ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 120 วินาที
  • เทมโป 6 วิ่ง 6 นาที 4 รอบ ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 120 วินาที
  • เทมโป 7 วิ่ง 2 นาที 10 รอบ ในแต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งสบายๆ 120 วินาที
  • เทมโป 8 วิ่ง 7 นาที / 6 นาที / 5 นาที ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 120 วินาที
  • เทมโป 9 (เราจะอยู่ในช่วงท้ายของการฝึก) วิ่ง 2 กิโลเมตร / 1 กิโลเมตร / 1 กิโลเมตร เนื่องจากอยู่ในช่วงท้ายการฝึกเราไม่ต้องการให้ร่างกายทำงานหนักเกินไป จึงมีการพักที่ผ่อนผันมากกว่าเดิม คือให้วิ่ง 300 เมตรแล้วพักด้วยการจ๊อกกิ้ง 30 วินาที จากนั้นวิ่งต่ออีก 800 เมตรแล้วพักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที ให้ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจนจบการฝึก
  • เทมโป 10 วิ่ง 4 นาที 4 รอบ ในแต่ละรอบให้พักด้วยการจ๊อกกิ้ง 90 วินาที
  • เทมโป 11 วิ่ง Easy 1 กิโลเมตร 2 รอบ / วิ่งเร็ว 2 กิโลเมตร ในแต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่ง Easy 1 กิโลเมตร
  • เทมโป 12 วิ่ง 4 นาที  / 3 นาที / 2 นาที / 1 นาที ซึ่งในแต่ละรอบจะให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งแต่มีเวลาไม่เท่ากันดังนี้ 90 วินาที / 75 วินาที / 60 วินาทีและรอบสุดท้ายพัก 30 วินาที

3 รูปแบบการฝึกวิ่งขึ้นเนิน

การฝึกวิ่งขึ้นเนินจะมีมาให้ 3 แบบดังต่อไปนี้ตั้งชื่อเป็น Hill 1 , Hill2 , Hill 3  ก่อนฝึกให้วิ่งวอร์มอัพ 3 กิโลเมตร หลังฝึกก็ให้วิ่งวอร์มอัพ 3 กิโลเมตร

Hill 1

หลังจากวอร์มอัพให้ฝึกวิ่งขึ้นเนิน 40 วินาที 4 รอบ / วิ่งขึ้นเนิน 20 วินาที 4 รอบ / วิ่งขึ้นเนิน 15 วินาทีอีก 8 รอบ  แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งกลับลงมา 60 วินาที  ปิดท้ายการฝึกด้วยการวิ่งคูลดาวน์

Hill 2

หลังจากวอร์มอัพให้ฝึกวิ่งขึ้นเนิน 15 วินาที 10 รอบ / แล้ววิ่งขึ้นเนิน 10 วินาที อีก 15 รอบ แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งกลับลงมา 60 วินาที  ปิดท้ายการฝึกด้วยการวิ่งคูลดาวน์

Hill 3

หลังจากวอร์มอัพให้ฝึกวิ่งขึ้นเนิน 45 วินาที 10 รอบ / แล้ววิ่งขึ้นเนิน 35 วินาที อีก 10 รอบ แต่ละรอบให้พักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งกลับลงมา 60 วินาที  ปิดท้ายการฝึกด้วยการวิ่งคูลดาวน์

การวิ่งระยะไกล

สำหรับการวิ่งระยะไกลให้เราวิ่งโดยใช้ความเร็วคงที่ตลอดเวลา วิ่งสบายๆโดยใช้เพซ Easy สิ่งสำคัญคือการเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมต่อการต้องวิ่งระยะไกล ในกรณีที่วิ่งนานเกิน 45 นาทีให้พกน้ำและของกินเล่นเพื่อเติมพลังงานระหว่างทางด้วย

โปรแกรมการฝึกวิ่งมาราธอน 16 สัปดาห์

ในโปรแกรมนี้จะแบ่งช่วงเวลาเป็น 4 ช่วงคือ ช่วงเตรียมร่างกาย , ช่วงที่เริ่มปั้นร่างกาย , ช่วงฝึกหนัก , ช่วงลดการฝึก  หากติดธุระเพื่อนๆสามารถปรับเปลี่ยนตารางการฝึกได้ตามสมควร

ช่วงสัปดาห์ที่ 1-4 (ช่วงเตรียมร่างกาย)

สำหรับในสี่สัปดาห์แรกจะถือว่าเป็นช่วงเตรียมความพร้อม จะมีการสร้างพื้นฐานในการฝึกกล้ามเนื้อด้วยการค่อยๆเพิ่มระยะทางในการวิ่งไปอย่างช้าๆ เพื่อลดโอกาสในการได้รับบาดเจ็บในรูปแบบต่างๆเช่นปวดหน้าแข้ง , ปวดเข่า เป็นต้น

สัปดาห์ที่ 1

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 1
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 1
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 8 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 15 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 2

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 2
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 2
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 8 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 18 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 3

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 3
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 3
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 8 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 19 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 4

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 4
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งขึ้นเนิน Hill 1
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 8 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 20 กิโลเมตร

ช่วงสัปดาห์ที่ 5-8 (ช่วงปั้นร่างกาย)

หลังจากที่เราได้สร้างพื้นฐานไปแล้วใน 4 สัปดาห์แรกเราจะรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในทุกสัปดาห์ ซึ่งจะมีการเพิ่มระยะทางสำหรับการวิ่งระยะไกล สำหรับคนที่มีปัญหาปวดหน้าแข้งปวดขา ให้เปลี่ยนวันฝึกบางวันเป็นการฝึก Cross Training ไปก่อน อย่าฝืนวิ่งในตอนที่ปวดขา บางวันให้เราเปลี่ยนเป็นว่ายน้ำ , ปั่นจักรยานหรือฝึกโยคะก็ได้ตามสมควรแค่อย่าเปลี่ยนแปลงตารางการฝึกมากเกินไปก็พอ

สัปดาห์ที่ 5

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 5
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 4
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 8 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 21 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 6

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 6
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 5
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 10 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 20 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 7

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 7
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 6
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 11 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 21 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 8

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 8
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งขึ้นเนิน Hill 2
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 12 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 24 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 9-12 (ช่วงที่ฝึกมากที่สุด)

มันจะเป็นช่วงที่ยากที่สุดแล้ว ทั้งการวิ่งระยะไกลและการฝึกวิ่ง Interval แต่อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายในระดับความเข้มข้นนี้ จะช่วยเพิ่มความเร็วในการวิ่ง , ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหลอดเลือดและหัวใจ มันคือการฝึกเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายอย่างแท้จริง แต่ระวังอย่าหักโหมจนเกินไปเพราะการแข่งขันเข้าไกล้มาเรื่อยๆแล้ว ระวังอย่าได้รับบาดเจ็บจากการฝึก

สัปดาห์ที่ 9

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 9
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 7
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Parkrun 2 กิโลเมตร อย่าลืมวอร์มอัพและคูลดาวน์ด้วย
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 6 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 10

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 10
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 8
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 10 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 26 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 11

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 11
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 9
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Parkrun 2 กิโลเมตร อย่าลืมวอร์มอัพและคูลดาวน์ด้วย
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 30 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 12

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 12
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งขึ้นเนิน Hill 3 
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 10 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 25 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 13-16 (ลดการฝึกลงเพื่อฟื้นร่างกาย)

ช่วงท้ายของการฝึกเราจะลดการฝึกเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมกับการไปลงแข่งขัน แต่ว่าในช่วงนี้เราจะฝึกวิ่งโดยใช้เพซสำหรับการลงแข่ง และต้องระวังอย่าใช้ระดับความเข้มข้นในการวิ่งสูงเกินไป เราจะต้องฟื้นร่างกายให้ทันต่อการลงแข่งด้วย สำหรับคนที่ลงแข่งครั้งแรกก็ให้เตรียมอุปกรณ์ไว้ล่วงหน้า พักผ่อนให้เพียงพอและได้รับสารอาหารให้มากพอ

สัปดาห์ที่ 13

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 13
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 10 
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 10 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 20 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 14

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 14
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 11 
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 8 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 18 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 15

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 15
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : ฝึกวิ่งเทมโป 12
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 8 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่งระยะไกล 10 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 16

  • วันจันทร์ : ฝึก Strength Training
  • วันอังคาร : ฝึกวิ่ง Interval Track 16
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : พัก 
  • วันศุกร์ : พัก + ฝึก Recovery
  • วันเสาร์ : วิ่ง Easy 15 นาที
  • วันอาทิตย์ : วันลงแข่งจริงขอให้ทุกคนโชคดี

เคล็ดลับในการฝึกวิ่งมาราธอน

ฝึกตามโปรแกรมอย่างเคร่งครัด

การฝึกมันไม่ง่าย แต่การยึดมั่นในตารางเวลานี่แหละที่คือกุญแจแห่งความสำเร็จ ยิ่งมีความสม่ำเสมอมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้นถึงแม้ว่าเราจะยุ่งมาก อากาศไม่ดีหรือมีเรื่องให้จัดการก็ตามเราก็ควรที่จะทำให้การฝึกกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเราให้ได้ อย่าประนีประนอมถ้าไม่จำเป็น

การมีเพื่อนในการฝึกวิ่ง

การมีเพื่อนร่วมในการฝึกวิ่งจะช่วยให้เราฝึกตามโปรแกรมอย่างเคร่งครัดมากขึ้น ยิ่งถ้าหากเป็นคนที่ต้องไปลงแข่งวิ่งในวันเดียวกันกับเราก็ยิ่งดีนะ

วันสำหรับวิ่ง Easy ให้เราวิ่งสบายๆ

การวิ่ง Easy จะช่วยให้ขามีเวลาได้พักฟื้นจากการฝึกหนัก และที่ผ่านมาก็มีการวิจัยออกมาแล้วว่าการวิ่ง Easy สะสมระยะทางไปเรื่อยๆจะช่วยเพิ่มความทรหดและช่วยให้เราวิ่งเร็วขึ้นในระยะยาว เพราะฉะนั้นในวันวิ่ง Easy จงวิ่งแบบสบายๆให้ร่างกายผ่อนคลายมีเวลาฟื้นตัวนะ

ต้องฝึก Cross Training

การฝึก Cross Training ให้เราฝึกออกกำลังกายอะไรก็ได้ที่ไม่สร้างแรงกระแทกให้กับร่างกาย เพื่อให้เราได้พักกล้ามเนื้อขาแต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีการออกกำลังกายอยู่ ก็จะช่วยรักษาระดับความฟิตได้ ยกตัวอย่างเช่นการว่ายน้ำ , ปั่นจักรยาน , การใช้โฟมโรวลิ่ง เป็นต้น

การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ

เพื่อนๆที่เป็นมือใหม่ควรมีการศึกษาเรื่องสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อนักวิ่ง รวมไปถึงการจัดสัดส่วนอาหาร นักวิ่งจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพพอเช่น คาร์บ , โปรตีน , วิตามิน , แร่ธาตุ , ไขมันดี เพื่อส่งเสริมการฝึกให้ราบรื่นและช่วยในการรักษาสุขภาพให้ฟิตปั๋งตลอดเวลา

แหล่งที่มา : https://bit.ly/47ToiVI


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Running #Training
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: Marathonrunningตารางซ้อมวิ่งตารางซ้อมวิ่งมาราธอนตารางฝึกวิ่งตารางฝึกวิ่งมาราธอนมาราธอนวิ่งแผนซ้อมวิ่งแผนซ้อมวิ่งมาราธอนแผนฝึกวิ่งแผนฝึกวิ่งมาราธอนโปรแกรมซ้อมวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอนโปรแกรมฝึกวิ่งโปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน
Previous Post

โปรแกรมฝึกกล้ามเนื้อสำหรับนักวิ่ง 4 สัปดาห์ เพิ่มความแข็งแรง ลดเสี่ยงบาดเจ็บ

thip

thip

Related Posts

โปรแกรมฝึกกล้ามเนื้อสำหรับนักวิ่ง

โปรแกรมฝึกกล้ามเนื้อสำหรับนักวิ่ง 4 สัปดาห์ เพิ่มความแข็งแรง ลดเสี่ยงบาดเจ็บ

29/12/2025
ท่าฝึกกล้ามเนื้อสะโพก

5 ท่าฝึกกล้ามเนื้อสะโพก เพิ่มสปีดการวิ่งให้เร็วขึ้นอย่างเห็นผล

27/12/2025
โปรแกรมฝึกวิ่ง 10K ภายใน 8 สัปดาห์ วิ่งจบได้จริง สำหรับนักวิ่งทุกระดับ

โปรแกรมฝึกวิ่ง 10K ภายใน 8 สัปดาห์ วิ่งจบได้จริง สำหรับนักวิ่งทุกระดับ

25/12/2025
รูปแบบ Strength Training

4 รูปแบบ Strength Training ที่ช่วยให้นักวิ่งวิ่งเร็วขึ้น แข็งแรงขึ้น และบาดเจ็บน้อยลง

23/12/2025
วิ่งขึ้นบันไดดีจริงไหม? ประโยชน์ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะนักวิ่ง

วิ่งขึ้นบันไดดีจริงไหม? ประโยชน์ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะนักวิ่ง

21/12/2025
วิธีเพิ่ม VO2 MAX

วิธีเพิ่ม VO2 MAX ภายใน 60 วัน

19/12/2025

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 48.3k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

ASICS x CASIO MOTION SENSOR

ASICS x CASIO MOTION SENSOR อุปกรณ์ที่จะทำให้วิ่งเร็วขึ้น นานขึ้น และง่ายขึ้น

by thip
01/04/2021

4 ท่าโยคะสำหรับนักวิ่ง

4 ท่าโยคะสำหรับนักวิ่ง

by thip
16/05/2024

รองเท้าสำหรับนักวิ่งมาราธอน

รองเท้าสำหรับนักวิ่งมาราธอน ??

by VRUN VRIDE
13/11/2018

วิตามินที่สำคัญสำหรับนักวิ่ง

วิตามินที่สำคัญสำหรับนักวิ่ง 🏃‍♂️

by VRUN VRIDE
17/09/2019

5 ท่า Mountain Climber เวอร์ชั่นต่างๆสำหรับใช้ฝึกหลังการวิ่ง

5 ท่า Mountain Climber เวอร์ชั่นต่างๆสำหรับใช้ฝึกหลังการวิ่ง

by thip
07/09/2020

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (173)
  • Fitness & Health (379)
  • News (909)
  • Review (126)
  • Running (971)
  • Stories (202)
  • Training (494)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี