วันเสาร์, ธันวาคม 2, 2023
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Running

โปรแกรมและคู่มือการฝึกวิ่ง 10k

thip by thip
23/10/2023
in Running, Training
0
โปรแกรมและคู่มือการฝึกวิ่ง 10k

Image by Freepik

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

โปรแกรมและคู่มือการฝึกวิ่ง 10k ในบทความนี้จะมีทั้งโปรแกรม 12 สัปดาห์สำหรับมือใหม่และคนไม่เคยออกกำลังกาย แล้วก็ยังมีโปรแกรม 8 สัปดาห์สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว ในโปรแกรมการฝึกนี้ต้นฉบับจะมีการระบุระยะทางเป็นไมล์ แต่ทางเราได้แปลงเป็นกิโลเมตรให้แล้ว ตัวเลขระยะทางการวิ่งจึงมีจุดทศนิยม

สำหรับการทำเวลาในการลงแข่งวิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตรนั้น ของผู้ชายจะมีเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 55 นาที ส่วนของผู้หญิงจะมีเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 66 นาที และสำหรับคนที่เป็นมือใหม่ก็ควรที่จะทำเวลากันได้ภายใน 60-80 นาที

สำหรับการลงแข่งขันครั้งแรกในชีวิต อย่าไปสนใจเรื่องความเร็วในการวิ่ง แค่พยายามวิ่งอย่างต่อเนื่องให้ได้ก็พอแล้ว แต่ถ้าไม่ไหวก็ให้วิ่งสลับกับเดินไปก่อน ซึ่งไม่ถือว่าผิดกติกา นักแข่งอาชีพที่วิ่งระยะทางไกลกว่านี้เขาก็ทำกัน สิ่งที่เราจะโฟกัสคือเสริมสร้างระดับความฟิตและเรียนรู้ที่จะฝึกวิ่งโดยไม่ให้มีอาการบาดเจ็บ และสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายในการลดน้ำหนักก็ควรจะต้องมีการควบคุมอาหารควบคู่กันไปด้วย

โครงสร้างของการฝึก

ในช่วงแรกเราจะให้ทำการฝึกวิ่งสลับกับการเดินเร็วไปก่อนจนกว่าร่างกายจะเริ่มปรับตัวได้ สิ่งสำคัญคือการรักษาฟอร์มการวิ่งให้ถูกต้อง การเร่งความเร็วถือเป็นความคิดที่ผิดและเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะในความเป็นจริงการวิ่งช้านี่ล่ะคือการเสริมสร้างความฟิตที่ถูกต้อง และนักกีฬาอาชีพทุกคนจะมีการฝึกวิ่งช้าแต่วิ่งต่อเนื่องกันทั้งนั้นเลย คนที่เค้าฝึกวิ่งเร็วเค้าจะแบ่งเวลาฝึกแค่บางช่วงหรือบางวันเท่านั้น อย่าลืมว่าการวิ่งระยะไกลไม่ใช่การแข่งวิ่ง 100 เมตร เราต้องสงวนพลังงานเพื่อพาตัวเองเข้าสู่เส้นชัยให้ได้

การฝึก Cross Training

ในวันฝึกครอสเทรนนิ่งนั้นจะเป็นวันที่เราต้องพักกล้ามเนื้อขาด้วยการเปลี่ยนไปฝึกอย่างอื่นที่ไม่มีแรงกระแทก เช่น การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน หรือการเล่นโยคะ หรืออาจจะแค่เดินเล่นเบาๆ เป็นต้น

วันวิ่งระยะไกล

จะเป็นวันที่ให้วิ่งไกลสุดซึ่งจะมีสัปดาห์ละครั้งให้วิ่งโดยใช้เพซแบบ Easy วิ่งในระดับที่วิ่งไปพูดคุยไปด้วยได้โดยไม่มีอาการหอบหรือหายใจไม่ทัน การฝึกวิ่งช้าเป็นระยะทางไกลร่างกายจะยิ่งทำให้มีความฟิตมากขึ้นซึ่งนี่เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์

การฝึกวิ่ง Fartlek

เป็นการฝึกวิ่งเล่นกับความเร็วซึ่งในเว็บไซต์ของเราก็มีการอธิบายวิธีฝึกเอาไว้แล้วลองหาอ่านกันได้เลย โดยเราจะฝึกวิ่งเร็วแค่บางวันเท่านั้น หากฝึกวิ่งเร็วทุกวันรับรองได้ว่าร่างกายจะไม่อยู่ในสภาพที่วิ่งต่อได้แน่นอน นี่เป็นเรื่องที่มือใหม่ต้องพึงระวัง

วอร์มอัพ

ก่อนการฝึกวิ่งทุกครั้งให้เริ่มวอร์มอัพด้วยการเดินเร็วซัก 5 นาทีก่อน เป็นการเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมใช้งาน

วันพัก

วันพักก็สำคัญมากเช่นกัน เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาฟื้นตัวซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ข้อต่อและเส้นเอ็นจากการใช้งาน วันไหนต้องพักก็ให้พักทั้งวันไปเลย อย่าฝึกอะไร

โปรแกรมการฝึกวิ่ง 10k  สำหรับมือใหม่

โปรแกรมนี้ออกแบบมาให้ใช้สำหรับคนที่จำไม่ได้แล้วว่าเคยวิ่งออกกำลังกายครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ หรือแม้แต่กับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย เป้าหมายของโปรแกรมคือทำให้เพื่อนๆสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยในระยะทาง 10k ให้ได้ภายใน 12 สัปดาห์ แต่ถ้าหากมีแผนที่จะฝึกนานกว่า 12 สัปดาห์ก็ให้เอาแผนการฝึกในบางสัปดาห์ไปฝึกซ้ำได้

โปรแกรมและคู่มือการฝึกวิ่ง 10k

สัปดาห์ที่ 1 

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 1 นาที สลับกับการเดิน 1 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 8 รอบ
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 1 นาที สลับกับการเดิน 1 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 8 รอบ
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 1 นาที สลับกับการเดิน 1 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 8 รอบ
  • วันอาทิตย์ : ฝึก Cross Training

สัปดาห์ที่ 2 

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 2 นาที สลับกับการเดิน 2 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 5 รอบ
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 2 นาที สลับกับการเดิน 2 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 5 รอบ
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 2 นาที สลับกับการเดิน 2 นาที ทั้งหมด 5 รอบ
  • วันอาทิตย์ : ฝึก Cross Training

สัปดาห์ที่ 3

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 3 นาที สลับกับการเดิน 2 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 4 รอบ
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 3 นาที สลับกับการเดิน 2 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 4 รอบ
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 3 นาที สลับกับการเดิน 2 นาที ทั้งหมด 4 รอบ
  • วันอาทิตย์ : ฝึก Cross Training

สัปดาห์ที่ 4

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 5 นาที สลับกับการเดิน 3 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 3 รอบ
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 5 นาที สลับกับการเดิน 3 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 3 รอบ
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 5 นาที สลับกับการเดิน 3 นาที ทั้งหมด 3 รอบ
  • วันอาทิตย์ : ฝึก Cross Training

สัปดาห์ที่ 5

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 6 นาที สลับกับการเดิน 3 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 6 รอบ
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 6 นาที สลับกับการเดิน 3 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 6 รอบ
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 6 นาที สลับกับการเดิน 3 นาที ทั้งหมด 6 รอบ
  • วันอาทิตย์ : ฝึก Cross Training

สัปดาห์ที่ 6

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 20 นาที 
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 25 นาที 
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 25 นาที 
  • วันอาทิตย์ : ฝึก Cross Training

สัปดาห์ที่ 7

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 28 นาที 
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 28 นาที 
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 30 นาที 
  • วันอาทิตย์ : ฝึก Cross Training

สัปดาห์ที่ 8

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 30 นาที 
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 30 นาที 
  • วันศุกร์ : ฝึก Cross Training
  • วันเสาร์ : พัก 
  • วันอาทิตย์ : ลองลงแข่งวิ่ง 5k

สัปดาห์ที่ 9

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 3.2 กิโลเมตร 
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 3.2 กิโลเมตร 
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง Fartlek 3.2 กิโลเมตร 
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 4.82 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 10

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.02 กิโลเมตร 
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 4.02 กิโลเมตร 
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง Fartlek 3.2 กิโลเมตร 
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 6.43 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 11

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.02 กิโลเมตร 
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 4.32 กิโลเมตร 
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง Fartlek 3.2 กิโลเมตร 
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 8 กิโลเมตร

สัปดาห์ที่ 12

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 3.2 กิโลเมตร 
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 3.2 กิโลเมตร 
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : พัก 
  • วันอาทิตย์ : วันลงแข่งจริงขอให้ทุกคนโชคดี

Note : ข้อควรจำสำหรับการฝึก 12 สัปดาห์นี้

  1. โปรแกรมการฝึกนี้มีไว้สำหรับมือใหม่หรือคนไม่ออกกำลังกาย หากจำไม่ได้เลยว่าครั้งล่าสุดที่เคยฝึกวิ่งคือตอนไหนล่ะก็โปรแกรมนี้จะเหมาะกับเรามาก
  2. ให้เริ่มต้นการฝึกทุกวันด้วยการวอร์มอัพโดยการเดินเร็วซัก 5 นาที
  3. อย่าไปใส่ใจเรื่องความเร็ว ให้เน้นวิ่งช้าสบายๆ
  4. ระวังอย่าก้าวขายาวเกินไปจะทำให้เราเอาเท้าลงผิดท่า เมื่อเวลาผ่านไปนานๆจะมีอาการบาดเจ็บได้
  5. หากมีอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อก็ให้ลองยืดกล้ามเนื้อเบาๆหรือเดินช้าๆ
  6. หากจำเป็นก็ให้เพิ่มวันพักและมีการเอาโปรแกรมในบางสัปดาห์มาฝึกซ้ำเป็นการชดเชย
  7. หากมีอาการผิดปกติกับกล้ามเนื้อให้หยุดฝึกและไปหาหมอ

โปรแกรมการฝึกวิ่ง 10k เป็นเวลา 8 สัปดาห์ (สำหรับคนที่ออกกำลังกายอยู่แล้ว)

หากเป็นคนที่ฝึกกีฬาอื่นๆเป็นประจำอยู่แล้วให้ใช้โปรแกรมการฝึกนี้ได้เลย โดยจะใช้ระยะเวลาการฝึก 8 สัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว

โปรแกรมและคู่มือการฝึกวิ่ง 10k

สัปดาห์ที่ 1 

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 1 นาที สลับกับการเดิน 1 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 8 รอบ
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 1 นาที สลับกับการเดิน 1 นาที ทั้งหมด 10 รอบ
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 1 นาที สลับกับการเดิน 1 นาที ทั้งหมด 10 รอบ
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 2 นาที สลับกับการเดิน 1 นาที ทั้งหมด 8 รอบ

สัปดาห์ที่ 2

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 3 นาที สลับกับการเดิน 1 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 6 รอบ
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 3 นาที สลับกับการเดิน 1 นาที ทั้งหมด 6 รอบ
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 5 นาที สลับกับการเดิน 2 นาที ทั้งหมด 4 รอบ
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 2 นาที สลับกับการเดิน 1 นาที ทั้งหมด 10 รอบ

สัปดาห์ที่ 3

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 7 นาที สลับกับการเดิน 2 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 3 รอบ
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 7 นาที สลับกับการเดิน 2 นาที ทั้งหมด 3 รอบ
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 8 นาที สลับกับการเดิน 2 นาที ทั้งหมด 3 รอบ
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 2 นาที สลับกับการเดิน 1 นาที ทั้งหมด 10 รอบ (แต่ให้วิ่งเร็วกว่าสัปดาห์ที่แล้วนิดนึง)

สัปดาห์ที่ 4

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 10 นาที สลับกับการเดิน 2 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 2 รอบ ปิดท้ายด้วยการวิ่งเพิ่มอีก 5 นาที
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 9 นาที สลับกับการเดิน 1 นาที ทั้งหมด 3 รอบ
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 10 นาที สลับกับการเดิน 2 นาทีครึ่ง ทั้งหมด 2 รอบ ปิดท้ายด้วยการวิ่งเพิ่มอีก 5 นาที
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 20 นาที 

สัปดาห์ที่ 5

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 3.2 กิโลเมตร
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 3.2 กิโลเมตร
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง 5 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 3.2 กิโลเมตร 

สัปดาห์ที่ 6

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.02 กิโลเมตร
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 4.02 กิโลเมตร
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง Fartlek 3.2 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 6.4 กิโลเมตร 

สัปดาห์ที่ 7

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 4.02 กิโลเมตร
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 4.82 กิโลเมตร
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : วิ่ง Fartlek 3.2 กิโลเมตร
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 8 กิโลเมตร 

สัปดาห์ที่ 8

  • วันจันทร์ : วันพัก
  • วันอังคาร : วิ่ง 3.2 กิโลเมตร
  • วันพุธ : ฝึก Cross Training
  • วันพฤหัส : วิ่ง 3.2 กิโลเมตร
  • วันศุกร์ : พัก
  • วันเสาร์ : พัก
  • วันอาทิตย์ : วิ่ง 10 กิโลเมตร 

Note : ข้อควรจำสำหรับโปรแกรมการฝึกนี้

  1. โปรแกรมการฝึกนี้มีไว้สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
  2. ให้เริ่มต้นการฝึกทุกครั้งด้วยการเดินเร็ว 5 นาที และการยืดกล้ามเนื้อโดยใช้ท่าประเภท Dynamic stretching ก็ดีเช่นกัน
  3. วิ่งช้าๆเข้าไว้ ระวังอย่าวิ่งเร็วเกินไป
  4. ระวังอย่าก้าวขายาวเกินไป พยายามฝึกตัวเองให้มีฟอร์มการวิ่งที่ถูกต้อง
  5. หากมีอาการกล้ามเนื้อแน่นหรือเมื่อยล้าจากการวิ่งก็ให้ลองยืดกล้ามเนื้อหรือเปลี่ยนเป็นเดินสบายๆแทน และให้เอาเท้าวางบนหมอนตอนที่เราเข้านอน
  6. หากจำเป็นก็ควรมีวันพักให้มากขึ้นและมีการเอาโปรแกรมการฝึกในบางสัปดาห์มาฝึกซ้ำ หรืออาจสลับไปใช้โปรแกรมการฝึก 12 สัปดาห์ด้านบนนี้แทนก็ได้
  7. หากมีอาการผิดปกติกับกล้ามเนื้อให้หยุดการฝึกและไปหาหมอทันที

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3Q7yUHz


เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

Related

Tags: 10krunningRunning PlanRunning ProgramRunning Training Planตารางซ้อมวิ่งตารางฝึกวิ่งตารางวิ่งวิ่งแผนซ้อมวิ่งแผนฝึกวิ่งโปรแกรมซ้อมวิ่งโปรแกรมฝึกวิ่ง
Previous Post

โปรแกรมฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน โดยทำเวลาให้ได้ 1 ชั่วโมง 25 นาที

Next Post

HOKA® จับมือ Nicole McLaughlin ดีไซน์เนอร์และดิจิทัล ครีเอเตอร์ ร่วมสร้างสรรค์ Mafate THREE2 รุ่นพิเศษ

thip

thip

Freelance Content Writer

Related Posts

โปรแกรมการฝึกวิ่งมาราธอน

โปรแกรมการฝึกวิ่งมาราธอน 18 สัปดาห์ สำหรับนักวิ่งมือใหม่

30/11/2023
โปรแกรมการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

โปรแกรมการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 8 สัปดาห์

29/11/2023
วิธีการฝึกวิ่ง 10k ภายใน 4 สัปดาห์ พร้อมตารางวิ่ง

วิธีการฝึกวิ่ง 10k ภายใน 4 สัปดาห์ พร้อมตารางวิ่ง

28/11/2023
เคล็ดลับการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน

8 เคล็ดลับการฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน สำหรับนักวิ่งมือใหม่

26/11/2023
รูปแบบการฝึกวิ่งในสนามกีฬา ที่จะทำให้เราวิ่งเร็วขึ้น

3 รูปแบบการฝึกวิ่งในสนามกีฬา ที่จะทำให้เราวิ่งเร็วขึ้น

25/11/2023
เคล็ดลับที่จะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น

7 เคล็ดลับที่จะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น

23/11/2023
Next Post
HOKA® จับมือ Nicole McLaughlin ดีไซน์เนอร์และดิจิทัล ครีเอเตอร์ ร่วมสร้างสรรค์ Mafate THREE2 รุ่นพิเศษ

HOKA® จับมือ Nicole McLaughlin ดีไซน์เนอร์และดิจิทัล ครีเอเตอร์ ร่วมสร้างสรรค์ Mafate THREE2 รุ่นพิเศษ

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 17.4k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

Bike Washing Machine จักรยานซักผ้า

Bike Washing Machine จักรยานซักผ้า ออกแบบมาเพื่อพ่อบ้านนักปั่นโดยเฉพาะ

by thip
17/10/2020

adidas UltraBOOST Metallic Gold

adidas เปิดตัว UltraBoost สีใหม่ล่าสุด! (Metallic Gold)

by thip
29/10/2019

adidas เปิดตัว Ultraboost 20 คอลเลคชั่นใหม่ "5 เทพเจ้าแห่งความเชื่อ"

adidas เปิดตัว Ultraboost 20 คอลเลคชั่นใหม่ “5 เทพเจ้าแห่งความเชื่อ”

by VRUN VRIDE
13/03/2020

10 ท่าฝึกกล้ามเนื้อขาที่สามารถใช้แทนท่า Squat ได้

10 ท่าฝึกกล้ามเนื้อขาที่สามารถใช้แทนท่า Squat ได้

by thip
16/06/2019

[Initial Review] รองเท้าวิ่ง adidas AdiZero Sub2

[Initial Review] รองเท้าวิ่ง adidas AdiZero Sub2

by OUTRUN
06/07/2018

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercises Fun Run Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan Smart watch workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง จักรยาน ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าออกกำลังกาย นักปั่น นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง ลดน้ำหนัก วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (350)
  • News (792)
  • Review (126)
  • Running (858)
  • Stories (201)
  • Training (366)
  • Triathlon (109)
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...