รู้จัก “ส้มซูโม่” ต้นกำเนิดและเหตุผลที่เพื่อนๆควรลองทาน
ในทุกเดือนมกราคม ส้มชนิดนี้จะกลายเป็นดาวเด่น ส้มชนิดนี้มีขนาดใหญ่ มีผิวเป็นหลุมเป็นบ่อและมีจุกอยู่ด้านบน แถมยังมีรสชาติหวานที่สุดในบรรดาส้มที่เพื่อนๆเคยทานมา
พวกมันมีชื่อเรียกว่า ส้มซูโม่ (Sumo oranges) แม้แต่ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของอเมริกาชื่อ Hoda Kotb ก็ยังชื่นชอบผลไม้ชนิดนี้ และในตอนถ่ายรายการ “TODAY with Hoda & Jenna” เธอก็พูดถึงพวกมันว่า ในตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำหรับผลไม้ที่อร่อยที่สุดและทุกคนควรออกไปหาซื้อเดี๋ยวนี้เลย วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักส้มซูโม่ ผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่อร่อยและมีประโยชน์
ส้มซูโม่มีต้นกำเนิดมาจากไหน?
ความจริงแล้วในทางเทคนิคมันไม่ใช่ส้มหรอก ต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่นในช่วงท้ายของยุค 90s เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างส้มโอ มะนาว และส้มแมนดาริน แต่ด้วยความที่มันปลูกยาก กว่าจะวางจำหน่ายให้ได้กินก็ปาเข้าไปในปี 2011 แล้วล่ะ แถมยังมีการปลูกในอเมริกาแล้วด้วย และจะมีให้ทานกันในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ราคาจึงออกจะแพงกันสักหน่อย
อะไรทำให้ส้มซูโม่มีเอกลักษณ์
อย่างแรกเลยก็คือความใหญ่ของมัน ส้มซูโม่หนึ่งผลมีน้ำหนักมากกว่า 8 ออนซ์ เมื่อเทียบกับส้มขนาดกลางซึ่งมีน้ำหนัก 5 ออนซ์ครึ่ง และด้านบนจะมีจุกเหมือนกับทรงผมซูโม่ ผลลัพธ์จากการผสมข้ามสายพันธุ์ทำให้มันมีผิวเป็นหลุมขรุขระ และมีความหวานมากกว่าญาติของพวกมัน
ข้อมูลทางด้านโภชนาการของส้มซูโม่
อ้างอิงจากเว็บไซต์หลักของส้มซูโม่ ระบุไว้ว่าในส้มหนึ่งผลมีสารอาหารดังนี้
- พลังงาน 147 แคลอรี่
- ไขมัน 0 กรัม
- โซเดียม 0 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 35 กรัม
- ไฟเบอร์ 3 กรัม
- น้ำตาล 29 กรัม
- โปรตีน 3 กรัม
มันอาจมีน้ำตาลเยอะไปหน่อย แต่อย่าลืมว่าเป็นน้ำตาลธรรมชาติ และส้มซูโม่มีขนาดใหญ่กว่าส้มชนิดอื่น ถ้าหากไม่สามารถทานได้หมดในมื้อเดียวก็ให้แบ่งทานกันคนอื่นได้นะ
ส้มซูโม่หนึ่งลูกมีวิตามิน C จำนวน 163% ของที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน และมีโพแทสเซียมอีก 10% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน ซึ่งมันจะช่วยส่งเสริมการทำงานของหัวใจ , การหดตัวของกล้ามเนื้อ , ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ , ออกฤทธ์เป็นยาขับปัสสาวะ , ช่วยลดความดันโลหิต และลดการสะสมน้ำในร่างกาย
เราจะเพลิดเพลินการทานส้มซูโม่ได้อย่างไร
อยากให้เพื่อนๆลองทานกับข้าวโอ๊ตเป็นมื้อเย็น หรือสมูทตี้เป็นอาหารเช้า เราสามารถนำไปทานร่วมกับสลัดหรือนำไปนาบกระทะ หรือใส่ลงในสลัดน้ำส้มสายชู หรือใช้เป็นของทานเล่นหรือของหวานก็ได้ทั้งนั้น
นอกจากนี้เรายังสามารถหั่นส้มซูโม่โปะลงบนโยเกิร์ตและถั่วต่างๆ หรือทานคู่กับอาโวคาโดก็ยังได้ รวมไปถึงสามารถใส่ลงในพุดดิ้งและไอศครีมกะทิได้อีกด้วย
เราสามารถหาซื้อส้มซูโม่ได้ทุกที่เมื่อถึงฤดูกาลของมัน และถ้าหากซื้อมาเยอะเกินไปก็สามารถแช่แข็งในตู้เย็นและหั่นเอามาทำสมูทตี้ได้ มีเมนูที่เกี่ยวกับส้มซูโม่อีกเยอะแยะมากมาย ลองหาดูในอินเตอร์เน็ตได้เลยจ้า
ที่มา : https://bit.ly/3AW7TvI
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming