อาการเสพติดน้ำอัดลมคืออะไร มีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง
น้ำอัดลมมีส่วนผสมของคาเฟอีนและน้ำตาลทำให้เกิดความพึ่งพอใจในการดื่มและนำไปสู่อาการเสพติดได้ ถ้าหากความอยากดื่มน้ำอัดลมมันกลายเป็นอาการเสพติดเมื่อไหร่ มันจะเริ่มส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจ สามารถนำไปสู่การมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น , เบาหวานประเภทที่สอง , ภาวะไขมันพอกตับ , ปัญหาเรื่องฟัน , กระดูกไม่แข็งแรง , โรคหัวใจและอาการซึมเศร้า
และในบทความนี้จะมาตีแผ่รายละเอียดของอาการเสพติดน้ำอัดลม , ผลข้างเคียง และวิธีป้องกัน
อาการเสพติดน้ำอัดลมคืออะไร?
อาการเสพติดเป็นปัญหาทางกายและใจที่จะทำให้เราเลิกอะไรบางอย่างไม่ได้ ถึงแม้ว่ามันจะส่งผลเสียต่อร่างกายก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น การติดยาเสพติด , เซ็กส์ และโทรศัพท์มือถือ
แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้อาการเสพติดน้ำอัดลมยังไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นโรคอย่างเป็นทางการ
สำหรับในบทความนี้ “อาการเสพติดน้ำอัดลม” หมายถึง การดื่มน้ำอัดลมจำนวนมากในแบบที่ไม่สามารถเลิกดื่มหรือควบคุมปริมาณได้ ถึงแม้จะพบว่าเกิดผลเสียกับร่างกายแล้วก็ตาม ซึ่งมันมีอาการคล้ายคนติดยา

อาการของคนที่ติดน้ำอัดลม
อาการเสพติดน้ำอัดลมเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองและระบบประสาท โดยจะมีลักษณะอาการดังนี้
- มีความต้องการดื่มอย่างมาก
- มีความกระหายที่จะดับลงได้ด้วยการดื่มน้ำอัดลมเท่านั้น
- จิตใจยึดติดกับการดื่มน้ำอัดลม
- ไม่สามารถควบคุมปริมาณการดื่มได้
ผลข้างเคียงของการเสพติดน้ำอัดลม
- น้ำอัดลมมีสมบัติเป็นกรด และจะค่อยๆ กัดฟันและสารเคลือบฟันไปเรื่อยๆ จนทำให้มีปัญหาเรื่องสุขภาพฟันตามมา
- ถ้าหากเราดื่มน้ำอัดลมแบบธรรมดาแทนที่จะดื่มแบบไม่มีน้ำตาล จะยิ่งมีปัญหาเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะน้ำตาลจะเป็นอาหารของแบคทีเรียซึ่งจะสร้างคราบจุลินทรีย์ขึ้นมา กรดฟอสฟอริกในน้ำอัดลมสีเข้มยังทำให้เราเป็นโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย
- นอกจากนี้การดื่มน้ำอัดลมทั้งแบบธรรมดาและแบบไม่มีน้ำตาลเป็นประจำ ยังสามารถทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ด้วย
- น้ำอัดลมจะมีพลังงาน 100 แคลอรี่ ต่อ 8 ออนซ์ ถ้าหากเราดื่มเข้าไปมาก เช่น 16 ออนซ์ ทั้งสามมื้อ จะทำให้เราได้รับแคลอรี่เพิ่มขึ้น 600 แคลอย่างง่ายดาย
- การวิจัยพบว่าน้ำอัดลมแบบไดเอทมีความเชื่อมโยงกับการมีน้ำหนักเพิ่ม เพราะสารให้ความหวานจะส่งผลต่อสุขภาพของลำไส้และทำให้รู้สึกอยากทานของหวานมากขึ้น
การเสพติดน้ำอัดลมเกิดขึ้นได้อย่างไร

มันเป็นผลจากสารเคมีในสมองของแต่ละบุคคล หรือหากคนในครอบครัวมีพฤติกรรมเสพติดกันอยู่แล้วเราก็อาจจะเป็นได้ด้วย ในตอนที่เราดื่มน้ำอัดลมสมองจะหลั่งสารโดพามีนหรือฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา
แต่อย่างไรก็ตามยิ่งดื่มน้ำอัดลมเข้าไปมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งมีความสุขจากโดพามีนน้อยลงเท่านั้น ทำให้เรารู้สึกอยากดื่มมากขึ้นอีกและเราจะต้องดื่มต่อไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างความรู้สึกเหมือนได้รับรางวัลนั่นเอง
วิธีการป้องกันการเสพติดน้ำอัดลม
หากรู้ตัวว่ามีอาการเสพติดน้ำอัดลม ขอให้เพื่อนๆ ใช้วิธีดังนี้
- อย่าดื่มเพื่อเป็นการให้รางวัลตัวเอง เพราะการหลั่งโดพามีนจะทำให้เกิดอาการเสพติดขึ้นมาอีก
- อย่าดื่มเพื่อระบายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า , โกรธ หรือผิดหวัง เพราะมันจะทำให้สมองมีอาการเสพติด
- ดื่มน้ำเยอะๆ น้ำไม่มีแคลอรี่ ไม่มีน้ำตาล และไม่ทำให้เสพติด ทั้งยังช่วยให้เราดื่มอย่างอื่นไม่ไหวอีกด้วย
- อย่าดื่มน้ำอัดลมทุกวัน เราอาจจะดื่มเฉพาะตอนที่ไปร้านอาหารหรือเฉพาะช่วงวันหยุดเท่านั้น
ถึงแม้ว่าวิธีเหล่านี้จะไม่ได้การันตีว่าจะสามารถปกป้องเราจากอาการเสพติดได้อย่างแน่นอน 100% แต่มันช่วยลดความเสี่ยงได้
วิธีหยุดอาการเสพติด (เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง)
1.หักดิบไปเลย : เลิกดื่มโดยเด็ดขาดไปเลย อาจจะมีผลข้างเคียงจากการเลิกดื่มเกิดขึ้นบ้าง แต่มันจะทำให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติได้เร็วกว่าเดิมมาก
2.ค่อยๆ ลดจนกว่าจะเลิกดื่มได้ : แทนที่จะเลิกดื่มโดยทันที เราจะค่อยๆ ลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ มันใช้เวลานานกว่า แต่มันก็ช่วยให้เราไม่ต้องเจอผลข้างเคียง
การควบคุมตัวเอง
มันจะมีผลข้างเคียงบางอย่างเกิดขึ้นจากการเลิกดื่มน้ำอัดลม โดยเฉพาะกับคนที่ใช้วิธีหักดิบ โดยอาจทำให้มีอาการหงุดหงิด , เหนื่อยล้า , ปวดหัว และอาจมีอาการซึมเศร้าได้ ซึ่งมันเกิดขึ้นจากการงดคาเฟอีน โดยจะมีอาการ 2-9 วันเท่านั้น
เครื่องดื่มทางเลือก
เพื่อไม่ให้เรากลับไปติดน้ำอัดลมอีก จึงควรมีเครื่องดื่มอื่นๆ เป็นทางเลือก แต่จะต้องเป็นเครื่องดื่มที่ไม่ทำให้มีการหลั่งโดพามีนและมีคาเฟอีน , น้ำตาล หรือสารให้ความหวานต่ำ

- น้ำเปล่าที่มีการหั่นผลไม้ , มะนาวหรือเติมน้ำมะนาวลงไป
- ชาเย็น ไม่ใส่น้ำตาล
- ชาร้อน เช่น ชาดำ , ชาเขียว , ชาสมุนไพร
- คอมบู ชา หรือ ชาหมัก
- กาแฟร้อน , เย็น แบบไม่มีคาเฟอีน
- sparkling water แบบไม่ใส่น้ำตาล
บทสรุปส่งท้าย
อาการเสพติดน้ำอัดลมสามารถส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพร่างกาย สามารถทำให้น้ำหนักเพิ่ม , ฟันผุ , เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและเบาหวานประเภทที่สอง เราสามารถเลือกวิธีการเลิกดื่มน้ำอัดลมแบบไหนก็ได้ ซึ่งมันจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน แต่ในที่สุดจะช่วยให้เราเลิกดื่มได้อย่างแน่นอน และถ้าหากเพื่อนๆ ไม่สามารถเลิกดื่มน้ำอัดลมได้ด้วยตัวเองล่ะก็ ควรไปปรึกษาขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
ที่มา : https://bit.ly/2RJXlMt
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming