การแข่งขันจักรยาน ที่วัดใจนักปั่นมากที่สุดในโลก Red Bull Trans-Siberian Extreme

ในบรรดาการแข่งขันปั่นจักรยานทางไกล คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักรายการแข่งขันที่เลื่องชื่ออย่าง ตูร์เดอฟรองซ์ (Tu De France) ซึ่งเป็นการแข่งขันปั่นจักรยานทางไกลที่จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส แต่นอกจากรายการ ตูร์เดอฟรองซ์แล้ว ก็ยังมีรายการปั่นจักรยานที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันอีกหลายรายการ และในรายการปั่นจักรยานทั่วโลกทั้งหมดคงไม่มีรายการใดที่ยิ่งใหญ่และโหด มีระยะทางการปั่นที่ยาวไกลเท่า The Red Bull Trans-Siberian Extreme รายการปั่นจักรยานสุดทรหดที่จัดขึ้นในประเทศรัสเซียซึ่งกินพื้นที่กว้างไกลและภูมิประเทศตลอดระยะทางที่มีความท้าทาย แตกต่างกันออกไป

เพียงแค่ระยะทางก็พิสูจน์ใจนักแข่งอย่างมากมาย จากเดิมที่ปีก่อน ๆ การแข่งขันรายการนี้กำหนดระยะทางที่ 5,700 กิโลเมตร แต่ปีล่าสุดคือปี 2018 จุดสตาร์ทเริ่มต้นของการแข่งขันเริ่มจาก กรุงมอสโค และไปสิ้นสุดที่ เมืองวลาดิวอสต็อก รวมระยะทางทั้งหมดถึง 9,000 กิโลเมตร ถ้าอยากรู้ว่าระยะทางมันไกลขนาดไหน ให้เปรียบเทียบว่าคุณจะต้องปั่นจักรยานไปกลับจากเชียงใหม่ ไป สุไหงโกลก ทั้งหมดถึง 4 รอบ แม้ว่าจะเป็นรายการแข่งขันที่โหดอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ก็มีนักปั่นจักรยานให้ความสนใจมาสมัครกันมากทุกปี และในจำนวนนักปั่นนั้นก็มีนักปั่นหญิงร่วมเข้าแข่งขันด้วยจำนวนหนึ่ง แต่ตามสถิตินักปั่นหญิงที่เข้าร่วมก็ผ่านไปได้เพียงครึ่งทางเท่านั้นเพราะความโหดของการแข่งขันนั่นเอง

ระยะเวลาของการแข่งขันทั้งหมดรวม 24 วัน เรียกได้ว่าเกือบ 1 เดือนเลยทีเดียว และในการแข่งขันเพื่อให้นักปั่นเข้าร่วมแข่งกันได้แบบเปิดกว้าง โดยจะแบ่งการแข่งออกเป็นการแข่งขันย่อยๆ 14 สเตจ มีระยะเวลาแตกต่างกันออกไป บางสเตจใช้เวลา หนึ่งวัน วันครึ่งถึงสองวัน หรือสามวัน ประมาณนี้อยู่ที่ระยะทางของสเตจ ในแต่รายการว่าสั้นยาวแค่ไหน ความแปลกของการแข่งขันอย่างหนึ่งก็คือ เป็นการแข่งที่ไม่มีจุดปล่อยตัวให้นักกีฬา ไม่มีการปิดกั้นถนนให้ และไม่มีเส้นชัยด้วย

ทางทีมงานจัดการแข่งจะมีรถตู้ให้ 1 คันขับตามไปตลอดทางเพื่อช่วยดูแลนักปั่น ส่วนนักปั่นก็ต้องดูแลตัวเอง วางแผนการปั่นเองว่าจะพักเมื่อไหร่จะปั่นมากน้อยแค่ไหน เพราะสามารถปั่นได้ตลอด 24 ชั่วโมงตามความต้องการ การวัดมาตรฐานว่าผ่านหรือไม่ในแต่ละสเตจ จะมีจุดเช็คกระจายอยู่ตลอดทาง ถ้าไปถึงแต่ละจุดเช็คเกินเวลาก็ถือว่าถูกตัดสิทธิ์ในสเตจนั้นไป มีรถครัวให้บริการอยู่หน้าขบวนตามเวลาอาหารแต่ละมื้อ เมื่อไปถึงก็ไปรับอาหาร แต่ถ้าเกินเวลาต้องให้รถตู้ที่ดูแลนั้นไปรับให้แทน โดยเส้นทางที่จัดให้มีการแข่งขันค่อนข้างห่างไกลชุมชนและไม่ค่อยมีผู้คน

ความน่าหวาดหวั่นของการแข่งขัน Red Bull Trans-Siberian Extreme นั้นก็คงไม่พ้นภูมิประเทศที่แตกต่างกันมาก ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งที่ราบสลับเนินเขาชัน พื้นลุ่มดอนที่ยากลำบากรวมถึงความแตกต่างของภูมิอากาศที่คาดเดาได้ยากว่าคุณจะต้องเจอกับสภาพอากาศใด ต่อไปในวันรุ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นที่ทราบกันดีว่าเขตไซบีเรีย มีสภาพเหมือนทะเลทรายปะปนอยู่ กลางวันอุณหภูมิร้อนเกือบ 40 องศาหรืออาจจะมากกว่า แต่พอค่ำลงคุณต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่ต่ำกว่า10 องศาเซียลเซียส

ความชันของพื้นที่มีทั้งในระดับธรรมดาจนไปถึงความชันที่น่าหวาดเสียว ถนนบางช่วงก็เรียบบางช่วงก็วิบากมาก ไหนจะแมลงในตอนกลางวัน ที่มารบกวนขณะปั่นตลอดทางและบรรดายุงที่รบกวนการแข่งในช่วงค่ำไปจนกลางคืน ในการแข่งขันทุกปีจะมีนักปั่นถอนตัวไประหว่างทางการแข่งขันมากมาย บางปีเหลือนักปั่นเพียงแค่ 3 คนที่แข่งจนจบรายการก็มี

สำหรับนักปั่นจักรยานชาวไทยเราก็มีนักปั่นคนหนึ่งที่ได้เข้าร่วมรายการปั่นสุดโหดนี้มาแล้ว เขาก็คือ อาจารย์ กิ้ว ปวิณ รุจิเกียรติกำจร ซึ่งเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าลาดกระบัง เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ครั้งแรกในปี 2018 นี้ แต่น่าเสียดายที่ร่วมในระยะทางเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ก็ต้องถอนตัวเสียก่อน หากใครที่ชื่นชอบและหลงใหลในการปั่นจักรยานทางไกลแล้วละก็ การแข่งขันในรายการ Red Bull Trans-Siberian Extreme อาจจะเป็นเป้าหมายที่เหมาะกับคุณก็เป็นได้

ภาพประกอบจาก : redbull.com/int-en/events/red-bull-trans-siberian-extreme

ไม่พลาดทุกกิจกรรม วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา
กด #Seefirst และ #Following กันไว้ ที่
facebook.com/wheretorunwhentoride