วันศุกร์, มิถุนายน 27, 2025
  • Login
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
No Result
View All Result
Home Fitness & Health

วิธีประคบร้อน ประคบเย็น (Hot and Cold Therapy) เพื่อลดอาการบาดเจ็บ

thip by thip
28/07/2019
in Fitness & Health
0
วิธีประคบร้อน ประคบเย็น (Hot and Cold Therapy) เพื่อลดอาการบาดเจ็บ
  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

วิธีประคบร้อน ประคบเย็น (Hot and Cold Therapy) เพื่อลดอาการบาดเจ็บ

เพื่อนๆคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง “การประคบร้อน” (Hot Therapy) หรือ “ประคบเย็น” (Cold Therapy) กันมาบ้าง ทั้งสองวิธีเป็นการรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรืออาการบวมช้ำที่มาจากการเล่นกีฬา การแข่งขัน หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ แต่การเลือกใช้วิธีบำบัดด้วยความร้อนและความเย็นนั้นมีข้อบ่งชี้และวิธีรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราควรทราบว่าเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นกับร่างกาย เราควรเลือกใช้วิธีการรักษาแบบไหน? เมื่อไหร่ที่ควรรักษาด้วยการประคบร้อน และเมื่อไหร่ที่ควรรักษาด้วยการประคบเย็น รวมไปถึงระยะเวลาที่ใช้ในการประคบแต่ละประเภท

การประคบเย็น (Cold Therapy)

หากมีอาการบาดเจ็บที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานหรือเกิดขึ้นฉับพลัน (acute injury) ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการถูกกระแทกโดนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย (Trauma) ไม่ว่าจะเกิดจากของใช้ใกล้ตัวต่างๆ ลื่นล้ม ตกกระแทกพื้น กระแทกสิ่งของ รวมไปถึงการบิดเอี้ยวตัวผิดท่า สาเหตุเหล่านี้จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดขึ้นในทันที จากนั้นสิ่งที่ตามมาก็คืออาการอักเสบเป็นจ้ำเลือด

ให้เราเลือกใช้การประคบเย็นก่อนในระยะแรกทันที เพื่อช่วยให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นมีอาการคงที่ ไม่บวมช้ำเพิ่มมากไปกว่าเดิม และยังลดการทำงานของเซลล์ที่บาดเจ็บ ทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบาดแผลหดตัว อาการอักเสบก็จะดีขึ้น

วิธีการประคบเย็น

  • ให้ใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งประคบโดยตรงกับบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ อย่างน้อย 20 นาที
  • โดยให้หมั่นประคบทุก 2-3 ชม. ในช่วงระยะเวลา 48 ชม.แรก
  • โดยสิ่งที่สำคัญในการประคบน้ำแข็งคือ จะต้องหุ้มน้ำแข็งด้วยผ้าบางๆให้ดีก่อนที่จะทำการประคบเสมอ เพราะหากน้ำแข็งเย็นมากเกินไป เมื่อสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงแล้วอาจก่อให้เกิดอาการผิวหนังไหม้จากความเย็นจัดได้

การประคบร้อน (Hot Therapy)

หลังจากครบ 48 ชม. หลังมีอาการบาดเจ็บ เนื้อเยื่อบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บจะเข้าสู่ระยะการฟื้นฟูและซ่อมแซมตนเอง ในระยะนี้จะพบว่าไม่มีจ้ำเลือดเพิ่มขึ้น อาการอักเสบเริ่มลดลง ความเจ็บปวดทุเลาลง ให้เปลี่ยนมาเป็นการประคบอุ่น เพื่อช่วยเลือดให้ ไหลเวียนมาเลี้ยงได้ดี และช่วยเพิ่มการซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้หายไวยิ่งขึ้นนั่นเอง

สำหรับอาการบาดเจ็บแบบเรื้อรัง (Chronic injury)

ที่เกิดจากการบาดเจ็บสะสมมาทีละเล็กทีละน้อยเป็นเวลานาน โดยอาจเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อใดกล้ามเนื้อหนึ่งมากจนเกินไป  ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อนั้นๆผิดปกติไปโดยไม่รู้ตัว หรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บฉับพลันที่ได้รับการรักษาอย่างไม่ถูกต้อง จนกลายเป็นอาการบาดเจ็บแบบเรื้อรัง

สำหรับอาการบาดเจ็บเรื้อรังแนะนำให้ทำการประคบร้อนเพียงอย่างเดียว ครั้งละ 15-20 นาที โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นค่อยๆประคบ หรือใช้แผ่นประคบร้อนแปะทิ้งไว้ก็ได้ แต่ให้ระวังไว้เสมอว่าความร้อนสามารถทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ จำเป็นต้องประคบอย่างระมัดระวัง

วิธีการประคบร้อน

  • ในการประคบร้อน ความร้อนที่พอดีจะช่วยให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณที่บาดเจ็บเรื้อรังมากขึ้น ก่อให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมตนเอง อีกทั้งยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นในบริเวณที่มีการอาการตึงได้อีกด้วย
  • สำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง แนะนำให้ประคบอุ่นก่อนการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาทุกครั้ง จะช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ ให้กล้ามเนื้อได้มีความยืดหยุ่นก่อนลงเล่นกีฬา ช่วยทุเลาอาการบาดเจ็บที่มีอยู่เดิม และลดอาการบาดเจ็บใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างทำกิจกรรม

คำแนะนำเพิ่มเติม

หากในบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บมีการใส่ผ้าหรืออุปกรณ์พยุงไว้ แนะนำให้ถอดอุปกรณ์พยุงออกก่อน แล้วค่อยประคบร้อนหรือประคบเย็น เนื่องจากการประคบไม่ว่าจะร้อนหรือเย็นจำเป็นต้องสัมผัสกับบริเวณที่บาดเจ็บโดยตรงจึงจะได้ผลดีที่สุด

บทสรุป

จะเห็นได้ว่าเพียงวิธีง่ายๆอย่างเช่นการประคบร้อนหรือประคบเย็น ก็สามารถช่วยดูแลอาการบาดเจ็บเบื้องต้นจากการเล่นกีฬาหรือการใช้กล้ามเนื้อได้ หากเราทำอย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บได้แล้ว ยังอาจช่วยลดปริมาณการทานยาแก้ปวดที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย

อ้างอิง

  • www.physioroom.com/info/hot-or-cold-when-to-use-thr-right-compress-for-your-injury/
  • Malanga GA, Yan N, Stark J. Mechanisms and efficacy of heat and cold therapies for musculoskeletal injury.Postgrad Med. 2015 Jan;127(1):57-65. Epub 2014 Dec 15.

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
? ‍♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
[AD]
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC คลิก bit.ly/ฺBNC122

.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related

Tags: athleteCold TherapyHot TherapyInjury Preventionrunnerนักกีฬานักวิ่งประคบร้อนประคบเย็นวิธีรักษาอาการบาดเจ็บ
Previous Post

6 ท่าออกกำลังกายสำหรับปรับปรุงฟอร์มการวิ่งให้ดีขึ้น

Next Post

HOKA ONE ONE x XTERRA รองเท้าวิ่งเทรล Torrent 2 สีใหม่ล่าสุด!

thip

thip

Related Posts

อาการขาดโปรตีน

6 สัญญาณ “อาการขาดโปรตีน” ที่ไม่ควรมองข้าม!

17/06/2025
ยาฆ่าเชื้อ ใช้อย่างไรให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ?

ยาฆ่าเชื้อ ใช้อย่างไรให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ?

04/06/2025
มนุษย์เงินเดือน vs ฟรีแลนซ์ ใครเสี่ยงกว่า ถ้ายังไม่มีประกันสุขภาพ?

มนุษย์เงินเดือน vs ฟรีแลนซ์ ใครเสี่ยงกว่า ถ้ายังไม่มีประกันสุขภาพ?

04/06/2025
ฟอกสีฟัน Zoom ต่างจากฟอกสีฟันแบบอื่นอย่างไร?

ฟอกสีฟัน Zoom ต่างจากฟอกสีฟันแบบอื่นอย่างไร?

04/06/2025
5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีด Sculptra ยกกระชับใบหน้าให้ได้ผลดี

5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีด Sculptra ยกกระชับใบหน้าให้ได้ผลดี

09/05/2025
รวม 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำฟันวีเนียร์

รวม 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำฟันวีเนียร์

01/05/2025
Next Post
HOKA ONE ONE x XTERRA รองเท้าวิ่งเทรล Torrent 2 สีใหม่ล่าสุด!

HOKA ONE ONE x XTERRA รองเท้าวิ่งเทรล Torrent 2 สีใหม่ล่าสุด!

ติดตาม และร่วมสนุกไปกับเรา

  • 34.1k Subscribers
  • 1.4k Followers

เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน

บทความน่าสนใจ

4 ท่าฝึกกล้ามเนื้อขาหลัง (Hamstring) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น

4 ท่าฝึกกล้ามเนื้อขาหลัง (Hamstring) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น

by thip
03/03/2020

11 คลิปตัวอย่างการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ สำหรับบริหารกล้ามเนื้อแกนกลางโดยเฉพาะ

11 คลิปตัวอย่างการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ สำหรับบริหารกล้ามเนื้อแกนกลางโดยเฉพาะ

by thip
26/09/2020

รีวิว HOKA CARBON X 2

รีวิว HOKA CARBON X 2 ว่าที่รองเท้าวิ่งระยะไกลยอดเยี่ยม 2021

by VRUN VRIDE
29/12/2020

ส่วนสูงส่งผลต่อความเร็วในการวิ่งหรือไม่

ส่วนสูงส่งผลต่อความเร็วในการวิ่งหรือไม่?

by thip
28/02/2024

5 เหตุผลที่นักแข่งวิ่งระยะไกลควรที่จะลงแข่งวิ่งระยะสั้นด้วย

5 เหตุผลที่นักแข่งวิ่งระยะไกลควรที่จะลงแข่งวิ่งระยะสั้นด้วย

by FatxRun
07/03/2019

สมัครบัตรเครดิต KTC REV รับส่วนลดสูงสุด 25% แบรนด์ Nike, HOKA, Saucony, REV RUNNR

KTC REV CREDIT CARD
วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ไตรกีฬ

วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี รวบรวมทุกรายการ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ครอบคลุมทุกรายการแข่งขันไว้ที่นี่ พร้อมข่าวสารวงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา รองเท้าวิ่ง จักรยานเสือหมอบ รถไตรกีฬา ให้เรื่องกีฬาใกล้ตัวคุณ ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแข่งขันวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของท่าน

ติดต่อเรา: vrunvride@gmail.com

แท็กยอดนิยม

5K adidas ASICS cycling Exercise Exercises Fun Run Garmin Health Marathon Nike Nutrition Other Running Road Cycling run runner running Running Guide Running Plan Running Program running shoes Running Training Plan workout การวิ่ง งานวิ่ง งานแข่งวิ่ง ตารางซ้อมวิ่ง ตารางฝึกวิ่ง ท่าฝึกกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกาย นักวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน รองเท้าวิ่ง วิ่ง วิ่งมาราธอน สุขภาพ ออกกำลังกาย อาดิดาส แผนซ้อมวิ่ง แผนฝึกวิ่ง โปรแกรมซ้อมวิ่ง โปรแกรมฝึกวิ่ง ไตรกีฬา ไนกี้

ประเภทยอดนิยม

  • Cycling (172)
  • Fitness & Health (371)
  • News (875)
  • Review (126)
  • Running (943)
  • Stories (201)
  • Training (464)
  • Triathlon (109)

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
Loading...
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • บทความ
    • วิ่งมาราธอน
    • ปั่นจักรยาน
    • ไตรกีฬา
    • สุขภาพ
  • Review
  • News
  • Training
  • Stories
  • ติดต่อเรา

© WHERE TO RUN WHEN TO RIDE : วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี