พยัคฆ์คำราม Asics Tarther Edge อีก 1 ขุนพลสาย Racing จาก Asics
Tarther คือ ซีรี่ย์รองเท้า Racing ของแบรนด์สัญชาติอาทิตย์อุทัย Asics ที่ได้รับความยอดนิยมและเป็น 1 ในตัวเลือกของนักวิ่งอยู่เสมอๆ
แม้จะออกมาตั้งแต่ปี 1983 (36 ปี) Asics ได้ทำการปรับเปลี่ยนโฉมหน้าของซีรี่ย์นี้ ให้หนุ่มแน่นทันสมัย คงสมญานาม พยัคฆ์ที่ไม่มีวันโรยราตามอายุ
โฉมหน้าดีไซน์ใหม่ในปีนี้ มาในชื่อที่เฉียบคม เรียกว่า Tarther Edge เรามาดูกันสิว่า พยัคฆ์ตัวนี้ มีดีอย่างไร ทำไมถึงครองใจนักวิ่งมายาวนานถึง 30 กว่าปี
🌟Design คำรามสนั่น ด้วยสไตล์คลาสลิก
เพื่อให้พยัคฆ์ได้คำรามในสนามวิ่งอย่างโดดเด่น การเลือกใช้สีของรองเท้าคู่นี้ เหลือง / ดำ คือ ที่สุด มันเป็นคู่สีที่ตัดกันลงตัวมากๆ แถมแสดงความเป็นญี่ปุ่นด้วยการวางตัวอักษรญี่ปุ่น บริเวณ ส้นเท้า คำว่า 虎 (tiger) และ 走 (run) อีกด้วย
จริงๆ รุ่นนี้มีอีกสี คือ ขาว, ชมพู + น้ำเงิน
แต่ส่วนตัวแอดประทับใจสีนี้มากกว่า
ส่วนรูปทรงโดยรวมของรองเท้ายังคงความเก๋าไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
🌟Upper เร็ว | เบา | กระชับ
ขึ้นชื่อว่าเสือ ความเร็ว คือ สิ่งสำคัญ ผ้า mesh ที่พัฒนาขึ้นให้ เบา โปร่ง โล่งสบาย รีดน้ำหนักของรองเท้า ให้เหมาะสไตล์สายทำความเร็ว แต่ยังไม่ทิ้งความกระชับ
🌟Midsole สะท้อนจังหวะก้าวของพยัคฆ์อย่างลงตัว เพราะทุกฝีเท้ามีความหมาย
รุ่นนี้ Asics ปรับเปลี่ยนจากเดิมใช้โฟม SPEVA โฟมเดิมมาเป็น FyteFoam Propel ทั้งแผ่น เสริมความเด้ง แน่น ให้กับรองเท้า ไม่นุ่มยวบ แถมมีน้ำหนักเบาอีกด้วย
🌟Outsole เกาะยึดเหนียวแน่น
เสริมความมั่นใจในการล่าเป้าหมาย
Asics เลือกใช้ Duo sole ปุ่มพื้นแบบคาร์บอนที่มีน้ำหนักเบา และยึดเกาะถนนได้ดี และเสริมด้วย พื้นยางที่ออกแบบพิเศษ AHAR เสริมในจุดที่ต้องการการยึดเกาะเป็นพิเศษอีกด้วย (บริเวณหน้าเท้า และกลางเท้า)
📌และต่อไป คือ ความคิดเห็นจากเรา
หลังจากลองใส่วิ่งมาแล้วมากกว่า 50 กิโลเมตร
Tarther Edge คู่นี้ใส่สบาย แม้หน้าเท้าปกติ ไม่กว้างมาก แต่ก็ไม่แคบเหมือนแบรนด์อื่นๆ ทั้งที่บอกว่า เหมาะสำหรับหน้าเท้าปกติเหมือนกัน
ผ้า mesh โปร่งระบายอากาศได้ดี โปร่งถึงขนาดเห็นถุงขาวสีขาวข้างในเลย แนะนำให้ใส่ถุงเท้าดำ หรือเหลืองไปเลยจะดีกว่า
โฟม Fytefoam Propel นั่นสมคำร่ำลือ แม้ว่าจะมีความบาง แต่ยังให้ความรู้สึก เด้ง + แน่น ตามสไตล์ Asics วิ่งสนุก เพราะไม่นุ่มยวบ แต่อย่าคาดหวังว่าจะเด้งเหมือนรองเท้าวิ่งโฟมรุ่นอื่นๆ ที่หนานะ บอกไว้ก่อน ต้องใช้กำลังขาตัวเองช่วยเยอะหน่อย
รองเท้าช่วยเกาะถนนได้ดีจริง ส่งผลให้เราสามารถเพิ่มความเร็วในการวิ่งได้อย่างมั่นใจ ใส่ได้เท่าที่ขา และหัวใจจะไปไหว
📌Tarther Edge เหมาะสำหรับใคร
หากคุณเป็นนักวิ่งมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มวิ่งได้สักระยะและไม่เคยใส่รองเท้าสไตล์ Racing Flat มาก่อน หากลองใส่คู่นี้วิ่ง อาจจะเจ็บปวดกับการใช้กล้ามเนื้อบริเวณน่องได้
ส่วนนักวิ่งที่ใส่รองเท้าสายนี้อยู่แล้ว คู่นี้คงเหมาะกับคุณแล้วหล่ะ
ส่วนใครที่วิ่งมานานแล้วยังไม่เคยลอง หากคุณได้ลองแล้ว คุณอาจจะไม่กลับไปใส่รองเท้าวิ่งแบบรองรับการกระแทกอีกเลยก็ได้ เพราะมันเบาสบายเท้ากว่าเยอะ
น้ำหนักของรองเท้า เพียง 210 กรัม เท่านั้น (ขนาด 28 cm, 10 us)
📌ระยะทางที่เหมาะสม
พยัคฆ์ตัวนี้สามารถพาคุณสร้าง New PB (personal best) ได้ตั้งแต่ 5K – 42K ทั้งนี้ต้องใส่ซ้อมอย่างสม่ำเสมอนะครับ
📌คำแนะนำจากเรา
ควรมีรองเท้าสาย Racing flat ไว้เป็น 1 ใน Shoe rotation และสลับใส่กับรองเท้าสาย daily trainner เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อขาให้แข็งแรงทุกมัด และเราจะได้คุ้นชินในวันแข่ง
FYI รองเท้า Racing flat รุ่นอื่นๆ ของ asics เผื่อเพือนๆ สาย Racing สนใจ
1.Skysensors
2.Lyteracer
3.Sotiemagic
4.DS trainer
– – – – –
วางขายแล้ว ที่ร้าน Ari Running Concept Store ทุกสาขา และ ASICS Store
ราคาป้าย 4,900 บาท
#AsicsRunning #AsicsTH #AsicsThailand #TartherEdge #AsicsTartherEdge
Profile ของผู้รีวิว
ปกติใส่รองเท้าวิ่ง Zero drop, minimalist
ลักษณะการลงเท้า : วิ่งลงกลางเท้า
Easy run : pace 7
Tempo run : pace 5
Interval run : pace 4
PB 10K : 46 min.
PB 21K : 1 H 58 min
PB 42K : 4 H. 30 min
รองเท้าที่ ชอบ Racing style
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
[AD]
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC คลิก bit.ly/ฺBNC122
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling#Triathlon#Swimming