สืบทอดเจตจำนงค์ ของ The King of long-distance มานานกว่า 25 ปี ASIC GEL-KAYANO 25
จากรุ่นแรก ในนามของ GEL-KAYANO Trainer รองเท้าวิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นอย่างเรียบง่าย เมื่อปี 1993 โดยดีไซเนอร์ ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่เบื้องหลังความสำเร็จมาตลอด 25 รุ่น เขาชื่อว่า “Toshikazu Kayano”
เขาเล่าให้ฟังถึง แรงบันดาลใจในการออกแบบ GEL-KAYANO ว่ามาจาก “แมลงด้วง” ซึ่งมีเปลือกที่แข็งแกร่งคอยปกป้องตัวมัน โดยเขาเลือกใช้พลาสติกแข็งบริเวณส้นเท้า และใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่าง GEL มาช่วยดูดซับแรงกระแทก เพื่อให้มันกลายเป็นรองเท้าวิ่งที่สมบูรณ์แบบ
GEL-KAYANO ได้รับความนิยมอย่างมากหลังจากเปิดตัว โดยเฉพาะรุ่นที่ 7 ในปี 2001 ที่เพิ่มเติม
จนเป็นที่ยอมรับทั่วโลกด้วยยอดขายมากกว่า 5 แสนคู่
และอีก 7 ปีต่อมา รุ่นที่ 14 ก็สร้างชื่ออีกครั้งจากรางวัล Editor’s choice awards จากนิตยสารชั้นนำ Runner’s world
นั่นคือ เรื่องราวของ 24 ปีที่ผ่านมา กับ 24 Model ของ ASICS GEL-KAYANO
มาดูกันต่อไปว่า รุ่นที่ 25 จะยังคงสืบทอดความยอดเยี่ยมจากรุ่นพี่ได้หรือไม่
————————————————
?แอดขอขอบคุณ ASICS THAILAND
ที่ช่วยส่งเจ้ารุ่น 25 คู่นี้มาให้เราได้ทดลองใช้
และ มอบโอกาสให้เราได้แชร์ความรู้สึกหลังการใช้งาน กับเพื่อนๆ วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี ครับ
ASIC GEL-KAYANO 25
ผมขอเริ่มต้นที่ Spec ของรองเท้านิดหน่อย
GEL- KAYANO เป็นประเภทรองเท้าถนนทั่วไป
เน้นการซัพพอร์ต Stability โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเท้าล้มมาข้างในเวลาวิ่ง หรือที่เรียกว่า Over pronation คนเท้าแบนมักเจอปัญหานี้
ซีรี่ย์ KAYANO เป็นรองเท้า Daily Running ใส่วิ่งได้ทุกวัน จะซ้อมวิ่งช้า วิ่งเร็ว วิ่งนานได้ทั้งหมด
ในส่วนของน้ำหนัก อย่าคาดหวังว่าจะเบานะครับ
ผู้ชาย หนัก ประมาณ 336 กรัม | ผู้หญิง หนักที่ราวๆ 278 กรัม
⚡Drop (ส่วนต่างระหว่าง ความสูงของส้นเท้า
และปลายเท้า) ผู้ชาย 10 mm | ผู้หญิง 13 mm
⚡#สิ่งที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อน ✍
3 จุดที่ได้รับการอัพเกรดจากรุ่น 24 ได้แก่
✅Upper : Jacquard mesh 2 ชั้น ระบายอากาศ
✅Midsole : FlyteFoam™ Propel เด้งมากขึ้น
✅Midsole : FlyteFoam™ Lyte เบา+ทนทานขึ้น
⚡Design ภาพรวมของรองเท้า
ด้วยความที่รองเท้าเป็นสายซัพพอร์ตที่เน้นการรองรับ ดูดซับแรงกระแทก ทำให้รองเท้ามีความใหญ่ และมีน้ำหนัก เพื่อนๆ บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่เชื่อเถอะว่า “สวยแต่รูป จูบไม่หอม” ยังคงมีจริงเสมอแหละ ?
⚡#Upper
1 จุดที่ได้รับการพัฒนาจากรุ่น 24
ASICS เลือกใช้ Jacquard mesh 2 ชั้น (รุ่น 24 เป็นชั้นเดียว)
เป็นวัสดุหลักบนส่วน Upper ที่โอบอุ้มเท้าของเราไว้
ด้วยความยืดหยุ่นของผ้า ช่วยให้เราสวมใส่ ASIC GEL-KAYANO 25 ได้อย่างสบายๆ ลงวิ่งได้อย่างไม่อึดอัด และเนื้อผ้ายังมีส่วนช่วยระบายความร้อนของเท้าได้ดีทีเดียว แถมยังมีน้ำหนักเบา ทั้งนี้เพื่อลดน้ำหนักของรองเท้าลงให้มากกว่ารุ่นเดิม
จากที่ผมได้สัมผัสมาก็รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ผ้า upper
ช่วยระบายความร้อนเวลาวิ่งได้เป็นอย่างดี
??วิ่งแล้วเท้าไม่เปียก และไม่รู้สึกอึดอัด แต่ยังคงกระชับเท้า ช่วยให้ผมวิ่งได้อย่างสบายๆ ตลอดทาง
✍ปล ผมยังไม่ได้วิ่งลุยฝน จึงไม่มั่นใจว่าถ้าโดนน้ำหนักๆ แล้วจะเป็นอย่างไรครับ
⚡#Midsole
ตามชื่อซีรี่ย์นี้ GEL คือ พระเอกของ KAYANO Asics ได้ให้คำนิยามชุดพื้นเจลนี้ว่า Long-haul-comfort แปลว่า “ระยะทางไกลที่สุดแสนจะสบาย” รุ่นนี้ได้รับการปรับสูตรของพื้นเจลใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมใช้พื้นเจลเต็มแผ่นเพื่อดูดซับแรงกระแทกตลอดฝ่าเท้า
2 จุดที่อัพเกรดมาจากรุ่นก่อน ได้แก่
FlyteFoam™ Propel และ FlyteFoam™ Lyte
FlyteFoam™ Lyte ASICS บอกว่า โฟมรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นมา จะส่งผลให้รองเท้าเบาขึ้น แถมยังเพิ่มึวามแขพัฒนาให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นถึง 20% และความทนทานเพิ่มขึ้นอีก 7%
ชุดพื้น FlyteFoam™ Propel ช่วยเรา ควบคุมและคืนแรงส่ง ด้วยเนื้อโฟมชนิดพิเศษที่มี น้ำหนักเบา นิ่ม แต่เด้ง คล้ายสปริง เอาเข้าใจง่ายๆก็คือ ช่วยให้เรา “วิ่งเร็วขึ้น” นั่นแหล่ะครับ
✍เท่าที่ลองแล้ว ASIC GEL-KAYANO 25 ทุกครั้งที่วิ่ง เมื่อเท้าสัมผัสพื้น รู้สึกเหมือนเด้งแบบไม่นิ่ม ไม่ยวบ เด้งแบบแน่นๆ เหมือนสปริงอย่างที่เขาบอกไว้ ด้วยความแน่นของมันทำให้เราไม่ต้องออกแรงบังคับเท้ามากเท่าไหร่ครับ
ถัดมา คือ Dynamic Duomax เทคโนโลยีสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่อง Over Pronation เจ้า Duomax จะอยู่บริเวณที่ข้างเท้าด้านใน เป็นจุดเสริมส่วนโค้งของเท้าเรา ถ้าเพื่อนๆคนไหน ที่มีฝ่าเท้าแบน เจ้านี่แหละครับที่จะช่วยพยุงให้เรามีอุ้งเท้าขึ้นมา
✍ส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องฝ่าเท้าแบน จึงไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ กลับกันแฟนของแอด เป็นคนเท้าแบน แถมล้มมาข้างในอย่างมาก Over Pronation เต็มๆ พอได้ทดลอง KAYANO แล้วรู้สึกว่า มันมีส่วนช่วยให้เค้าวิ่งได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดีขึ้นในที่นี้ คือ วิ่งแล้วสบายขึ้น ?
วิ่งแล้วไม่เจ็บบริเวณข้อเท้าด้านในครับ
⚡#Outsole พื้นรองเท้า
ด้วยเทคโนโยลี AHAR® PLUS (Asics High Abrasion Rubber)
ให้ความทนทานกว่ารุ่นเดิม พร้อมน้ำหนักที่เบาขึ้น สังเกตุว่า ASICS
พยายามลดน้ำหนักในทุกๆ ส่วนประกอบของรองเท้าเลย สำหรับรองเท้าสายนี้ ยังไงพื้นรองเท้าต้องหนา และทนทานมากเป็นพิเศษ เพราะต้องตอบโจทย์ผู้ใช้งานวิ่งทุกวัน วิ่งยาวๆ ได้ ส่วนนี้ผมไม่อธิบายมากก็แล้วกันครับ
⚡#ความรู้สึกรวมๆ โดยส่วนตัว✍
หลังจากที่ได้ลองวิ่งทั้งระยะสั้น วิ่งยาว บนลู่เทรดมิล
บนถนนจริงๆ มาร่วมๆ ? กิโลเมตร
มันเยี่ยมสมคำร่ำลือจริงๆ สมกับเป็นรองเท้าที่เหมาะที่สุดสำหรับ การวิ่งระยะยาว ส่วนตัวแอด เป็นคนชอบรองเท้าเบา (สายซิ่ง) พอมาลองคู่นี้แล้ว ตอนแรกๆ ก็จะรู้สึกแปลกๆ หน่อย
แต่พอวิ่งไปได้สักระยะ เริ่มปรับตัว ปรับจังหวะได้แล้ว เวลาวิ่ง เรารู้สึกไม่นิ่ม ไม่ยวบ มันเด้งแบบแน่นๆ วิ่งแล้วสบายเท้าไม่เปลืองแรงควบคุม ครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม ผมใส่ตรงไซส์ ปกติเท้าเบอร์ 10 หรือ 28 cm ไม่ได้เผื่อไซส์ครับ
⚡#คู่นี้เหมาะกับใคร✍
ถ้าจะให้แนะนำ นักวิ่งหน้าใหม่ หรือหน้าเก่า ที่อยากหารองเท้าวิ่งสักคู่ เอาแบบจ่ายทีเดียวจบเลยนะ ต้องคู่นี้ ซ้อมได้ ลงแข่งได้ วิ่งตั้งแต่ 5 โล ยันมาราธอนเลย ผมแนะนำให้ไปลองกันดู
ส่วนเหตุผลที่จะไม่ซื้อมันก็คงมีเพียงไม่กี่ข้อ คือ
ดีไซน์รองเท้าที่ไม่ปราดเปรียวเท่าไหร่ และราคาที่ค่อนข้างสูงไปหน่อย
ราคา 6,500 บาท แบบนี้ต้องหา? บัตรเครดิตไปผ่อน 0% 3 เดือนกันเหลือเดือนละ 2 พันนิดๆ เฉลี่ยวันละ ไม่ถึง 100 บาท
✍ทิ้งท้ายก่อนจบ แอดยังยืนยันว่า เพื่อนๆ ที่สนใจ ASIC GEL-KAYANO 25 หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อจนกว่า จะได้ลองมัน
ขอให้ไปทดลองใส่วิ่ง ก่อนตัดสินใจซื้อ เอาจริงๆ รองเท้าวิ่งคู่นี้ อาจจะเหมาะ หรือไม่เหมาะกับรูปเท้าของเราก็ได้ครับ ?
?ตอนนี้ที่ ASICS สาขาใหม่ Central World ชั้น 3 เปิดให้บริการมี Foot ID เตรียมต้อนรับเพื่อนๆ ที่อยากทดลองรองเท้า ASICS อยู่ แวะเวียนไปกันได้ครับ
ชอบ หรือไม่ชอบ ASIC GEL-KAYANO 25
อย่างไรแชร์ข้อมูลกันมาได้ใน Comment นะครับ
ทุก Feedback เราจะช่วยกลับส่งให้ ASICS THAILAND ทราบ ?
?หากชอบบทความนี้
ช่วย Like & Share? เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
ขอบคุณมากคร้าบ
บทความนี้จะอัพเดทรวบรวมไว้ใน เว็บไซต์ VRUN VRIDE
เราได้ร่วมกับ Outrun บันทึกบทความรีวิวรองเท้า และGadget ต่างๆ เอาไว้ครับ