ไขมันจะหายไปอยู่ไหน ในตอนที่เราลดน้ำหนัก (รวมทุกเรื่องที่ควรรู้)
โรคอ้วนเป็นปัญหาระดับสากลและก็มีหลายคนที่กำลังพยายามหาวิธีลดไขมัน แต่ก็ยังมีความสับสบเกี่ยวกับกระบวนการเผาผลาญไขมัน บทความนี้จะมาช่วยให้ความกระจ่างแก่ทุกคนว่า ไขมันจะหายไปอยู่ไหน ในตอนที่เราลดน้ำหนัก และทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับกระบวนการเผาผลาญไขมันของร่างกาย
กระบวนการเผาผลาญไขมันมีการทำงานอย่างไร
การได้รับพลังงานมากเกินไปซึ่งโดยปกติแล้วมักอยู่ในรูปไขมันและคาร์โบไฮเดรต จะถูกเก็บอยู่ในเซลล์ไขมันในรูปของไตรกลีเซอไรด์ นี่คือวิธีการที่ร่างกายจะเก็บพลังงานสำรองไว้ใช้ยามจำเป็น แต่เมื่อเป็นแบบนี้ไปนานๆมันก็จะกลายเป็นก้อนไขมันที่ส่งผลเสียต่อรูปร่างและสุขภาพ
เราควรที่จะได้รับพลังงานน้อยกว่าที่ร่างกายสามารถเผาผลาญได้ในแต่ละวัน โดยเราเรียกกระบวนการนี้ว่า การขาดดุลของแคลอรี่
ถึงแม้ว่ามันจะส่งผลกับทุกคนในแบบที่ต่างกันไป แต่ก็มีการแนะนำให้ลดการรับแคลอรี่ลงวันละ 500 แคล ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีและจะทำให้เห็นผลลัพธ์ในการลดน้ำหนัก
ด้วยการทำให้มีการขาดดุลแคลอรี่อย่างต่อเนื่อง ไขมันจะถูกปล่อยออกมาจากเซลล์ไขมันและเริ่มถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน และถ้ายังขาดดุลต่อไปเรื่อยๆ ไขมันในร่างกายจะเริ่มลดจำนวนลง
อาหารและการออกกำลังกายคือกุญแจสำคัญ

มีสองอย่างที่จะช่วยส่งเสริมการลดไขมันคืออาหารและการออกกำลังกาย การขาดดุลแคลอรี่จะช่วยให้ร่างกายเอาไขมันที่สะสมไว้มาใช้เป็นพลังงาน
การออกกำลังกายจะช่วยส่งเลือดไปยังกล้ามเนื้อและไขมันมากขึ้น ช่วยให้มีการนำไขมันไปเป็นพลังงานสำหรับกล้ามเนื้อและเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานให้มากขึ้น
องค์กร American College of Sports Medicine จึงแนะนำให้มีการออกกำลังกายในระดับความเข้มข้นปานกลาง 150-250 นาทีต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 30-50 นาทีต่อวัน เพื่อที่จะส่งเสริมการลดน้ำหนัก
และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรมีการผสมการออกกำลังกายแบบ Resistance training เข้าไปด้วยเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ และใช้การออกกำลังกายแบบแอโรบิคในการเผาผลาญแคลอรี่
- การฝึก Resistance Training ทั่วไป ได้แก่ การยกเวท , บอดี้เวท และการใช้ Resistance Bands
- การออกกำลังกายแบบแอโรบิค ได้แก่ การปั่นจักรยาน , การวิ่ง และการใช้เครื่อง Elliptical machine
การจำกัดแคลอรี่และคุมอาหาร เมื่อใช้ร่วมกับการออกกำลังกายจะช่วยให้ลดไขมันได้ดีขึ้นมากกว่าการออกกำลังกายหรือการไดเอทเพียงอย่างเดียว
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรปรึกษานักโภชนาการและไปเรียนโปรแกรมการออกกำลังกายจากเทรนเนอร์ส่วนตัว
ไขมันจะหายไปไหน?
เมื่อมีกระบวนการเผาผลาญไขมัน เซลล์ไขมันจะมีขนาดเล็กลงอย่างมากและผลลัพธ์มันจะออกมาให้เห็นผ่านทางขนาดรูปร่างของเรา
ผลพลอยได้จากการลดไขมัน
เมื่อไขมันที่สะสมไว้ถูกนำไปใช้เป็นพลังงานจะมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำออกมาด้วย โดยคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกระบายออกมาทางลมหายใจ น้ำจะถูกขับผ่านทางเหงื่อและปัสสาวะ หรือระเหยออกมาทางลมหายใจ
ไขมันส่วนไหนที่จะหายไปก่อน

โดยปกติแล้วทุกคนต้องการลดไขมันหน้าท้อง , ก้น , ต้นขา ในขณะที่การลดไขมันเฉพาะส่วนนั้นมันไม่มีอยู่จริง แต่คนบางคนก็พยายามที่จะลดไขมันเฉพาะส่วนกันให้ได้
แต่อันที่จริงมันมีปัจจัยเรื่องพันธุกรรมและรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่จะมากำหนดการเผาผลาญไขมัน และถ้าหากเราเคยมีการลดไขมันมาก่อนแล้วกลับมาอ้วนอีก จะเกิดการลดไขมันในบางส่วนก่อน เนื่องมาจากเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ไขมัน
ทำไมการลดน้ำหนักจึงเป็นเรื่องยาก
เมื่อเราทานเข้าไปมากกว่าที่ร่างกายจะสามารถเผาผลาญได้ เซลล์ไขมันจะเพิ่มขึ้นทั้งขนาดและจำนวน
เมื่อเราลดน้ำหนักเซลล์ไขมันจะลดขนาดลง ถึงแม้ว่ามันจะมีจำนวนเหลืออยู่เท่าเดิมก็ตาม ดังนั้นการที่ร่างกายผอมลงก็เพราะเซลล์ไขมันเล็กลงแต่ไม่ได้ลดจำนวน
นั่นหมายความว่า เมื่อเราลดน้ำหนัก จำนวนเซลล์ไขมันจะยังคงอยู่และพวกมันสามารถกลับมามีขนาดใหญ่ได้อีกครั้ง นี่แหละคือเหตุผลที่ทำไมการลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่องมันจึงยาก
ไทม์ไลน์ของกระบวนการเผาผลาญไขมัน
ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำหนักที่เราต้องการลด ระยะเวลาในการเผาผลาญไขมันจะต่างกันไปอย่างเห็นได้ชัด
การลดน้ำหนักเร็วเกินไปจะทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น การขาดวิตามินและแร่ธาตุ , อาการปวดหัว , เหนื่อยล้า , สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ , และความผิดปกติของประจำเดือน
จึงมีคำแนะนำให้เน้นไปที่การลดน้ำหนักแบบช้า ๆแต่ต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็ยังมีข้อมูลบางอย่างที่เพื่อนๆอาจไม่รู้ นั่นก็คือ “ยิ่งลดไขมันไปมากจนเห็นได้ชัด มันก็ยิ่งสามารถการันตีได้ว่าเราจะสามารถลดไขมันได้เร็วขึ้นอีก และจะยิ่งเห็นผลได้เร็วมากกว่าสำหรับคนที่มีไขมันน้อย”
นอกจากนี้เราจะลดไขมันได้เร็วแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับโปรแกรมหรือแผนการลดไขมันของเราว่ามันเป็นแผนเชิงรุกมากน้อยเพียงใด
สำหรับคนที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การลดน้ำหนักให้ได้ 5-10% ในช่วงหกเดือนแรกนั้นเป็นไปได้ด้วยการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ต่างๆ เช่น อาหาร , การออกกำลังกาย , การควบคุมพฤติกรรม
มีบางปัจจัยที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนัก เช่น เพศ , อายุ , การเพิ่มระยะเวลาในการขาดดุลแคลอรี่ , คุณภาพการนอนหลับ , และการรักษาทางการแพทย์ก็สามารถส่งผลกระทบได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการลดน้ำหนัก
เมื่อเรามีน้ำหนักที่พอใจแล้ว ก็จะเปลี่ยนไปเป็นการรับแคลอรี่เพื่อควบคุมระดับน้ำหนักให้คงที่ อย่าลืมว่าควรออกกำลังกายเป็นประจำและมีความสมดุลในการทานอาหาร การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะป้องกันไม่ให้น้ำหนักกลับมาขึ้นอีก
บทสรุปส่งท้าย
การลดไขมันเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารการกิน และการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก
หากมีการขาดดุลแคลอรี่อย่างชัดเจนและการออกกำลังกายเป็นประจำ , เซลล์ไขมันจะเล็กลงเรื่อยๆตามการเวลา เพราะไขมันที่เก็บไว้จะโดนเอาไปใช้เป็นพลังงาน ทำให้เรามีรูปร่างและสุขภาพดีขึ้น
สิ่งสำคัญคือควรไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก่อนที่เพื่อนๆ จะเริ่มแผนการลดน้ำหนัก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเรา
ที่มา : https://bit.ly/2VGUllj
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming