10 หลักฐานที่ยืนยันว่าน้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
การตลาดของต่างประเทศมักจะยกให้น้ำมันมะพร้าวเป็น “Superfood” ส่วนผสมของกรดไขมันที่อยู่ในน้ำมันมะพร้าวนั้นส่งผลดีต่อสุขภาพ และอาจช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก , สุขภาพของหัวใจ , และระบบการทำงานของสมอง เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าน้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์อะไรบ้าง
1. น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพ
ในน้ำมันมะพร้าวมีไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งสามารถส่งเสริมการเผาผลาญไขมัน และสามารถมอบพลังงานให้กับร่างกายและสมองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) ในกระแสเลือด ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้
ไขมันอิ่มตัวส่วนใหญ่เป็นไตรกลีเซอไรด์ห่วงโซ่สายยาว แต่สำหรับในน้ำมันมะพร้าวจะเป็นไตรกลีเซอไรด์ห่วงโซ่สายยาวปานกลาง (MCTs)
เมื่อเราทาน MCTs เข้าไปมันจะถูกส่งไปยังตับโดยตรง ร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว หรือเปลี่ยนไปเป็นคีโตน (Ketones) ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมอง , โดยนักวิจัยแนะนำว่าควรใช้คีโตนในการรักษาโรคลมบ้าหมู , โรคอัลไซเมอร์และโรคอื่นๆ
2. การทานมะพร้าวอาจดีต่อสุขภาพหัวใจ
มะพร้าวนั้นไม่ใช่อาหารหลักของคนส่วนใหญ่บนโลก แต่ก็ยังมีประชากรในพื้นที่บางแห่งของโลกเช่นเขตการปกครอง “โทเคอเลา” ในประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งได้รับแคลอรี่ 60% จากมะพร้าว นักวิจัยรายงานว่าคนที่นี่มีสุขภาพดีและมีคนที่เป็นโรคหัวใจน้อยมาก นอกจากนี้ยังมีชาวเกาะ Kitava ในประเทศปาปัวนิวกินีซึ่งทานมะพร้าว , ปลาและผลไม้เป็นหลัก ซึ่งก็พบว่าพวกเขามีโอกาสเป็นโรคหัวใจน้อยมากเช่นกัน
3. MCTs ช่วยส่งเสริมการเผาผลาญไขมัน
โรคอ้วนคือหนึ่งในปัญหาใหญ่ของโลกตะวันตกในทุกวันนี้ ในขณะที่คนบางคนคิดว่าโรคอ้วนนั้นเกี่ยวข้องกับแคลอรี่ที่เราได้รับในแต่ละวัน , แต่แหล่งที่มาของแคลอรี่นั้นก็สำคัญ อาหารประเภทต่างๆจะส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกายในแบบที่ต่างกันออกไป
MCTs ที่อยู่ในน้ำมันมะพร้าวสามารถเพิ่มปริมาณการเผาผลาญไขมันได้ เมื่อเทียบกับกรดไขมันที่มีห่วงโซ่ยาวมากกว่านี้
มีอีกหนึ่งงานวิจัยที่ให้อาสาสมัครทาน MCTs จำนวน 15-30 กรัมต่อวันและพบว่ามีอัตราการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น 5% แต่อย่างไรก็ตามการวิจัยได้มุ่งเน้นไปที่ประโยชน์ทางสุขภาพของ MCTs เป็นหลักโดยไม่ได้สนใจเรื่องกรดลอริก (lauric acid) ซึ่งมีอยู่ในน้ำมันมะพร้าวมากถึง 14%
แต่ก็ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอว่าการทานน้ำมันมะพร้าวจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และน้ำมันมะพร้าวก็มีแคลอรี่สูงมากด้วย หากทานเข้าไปเยอะๆจะกลายเป็นการเพิ่มน้ำหนักได้
4. น้ำมันมะพร้าวมีฤทธิ์ในการต้านจุลินทรีย์
ร่างกายจะเปลี่ยนกรดลอริก (lauric acid) ไปเป็นมอโนลอริน (monolaurin) ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค เช่นแบคทีเรีย , ไวรัสและเชื้อรา โดยมีการทดสอบแล้วว่าสามารถฆ่าแบคทีเรีย Staphylococcus aureus และยีสต์ชื่อ Candida albicans ได้ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเรื่องการใช้น้ำมันมะพร้าวทำความสะอาดปากว่ามันดีต่อสุขอนามัยช่องปากอีกด้วย

5. MCTs สามารถช่วยลดระดับความหิวได้
นี่อาจเกี่ยวข้องกับการขั้นตอนเพิ่มอัตราการเผาผลาญ เพราะคีโตนมันจะช่วยลดความอยากอาหารได้ และมีหนึ่งงานวิจัยที่ทดลองให้อาสาสมัคร 6 คน ทาน MCTs ในปริมาณต่างกันพบว่าคนที่ทานเยอะที่สุด จะรับประทานอาหารน้อยลง
มีอีกหนึ่งงานวิจัยกับอาสาสมัครที่เป็นชายสุขภาพดี 14 คน พบว่าคนที่ทาน MCTs มากที่สุดในมือเช้าจะทานอาหารมื้อกลางวันน้อยลง
แต่งานวิจัยพวกนี้เป็นงานวิจัยในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ถ้าผลลัพธ์มันยังอยู่ได้ในระยะยาวละก็มันจะช่วยในการลดน้ำหนักเป็นอย่างดีภายในช่วงเวลาสัก 2-3 ปี
ถึงแม้ว่าน้ำมันมะพร้าวมี MCTs เยอะ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานว่าสามารถลดระดับความอยากอาหารได้มากเท่ากับน้ำมันชนิดอื่นๆ
6. MCTs อาจช่วยลดอาการชักได้
ในตอนนี้พวกนักวิ่งจัยกับลังศึกษาผลลัพธ์จากการทานอาหารแบบคีโตเจนิค ไดเอต เพื่อดูว่ามันสามารถช่วยรักษาโรคอะไรได้บ้าง โดยปกติแล้วจะมีการให้เด็กซึ่งป่วยเป็นโรคลมบ้าหมูใช้วิธีทานอาหารแบบคีโตในกรณีที่พวกเขามีอาการดื้อยา ซึ่งมันสามารถช่วยลดอาการชักได้
การทานคาร์โบไฮเดรตน้อยลงและเพิ่มการทานไขมันให้มากขึ้น จะทำให้มีคีโตนในกระแสเลือดมากขึ้นตามไปด้วย
เพราะว่า MCTs ในน้ำมันมะพร้าวจะถูกส่งไปยังตับและเปลี่ยนไปเป็นคีโตน ผู้เชียวชาญจึงได้มีการคิดวิธีกินคีโตที่มี MCTs และมีการกินคาร์โบไฮเดรตที่ดี เพื่อส่งเสริมกระบวนการคีโตซิสและช่วยในการบำบัดโรคลมบ้าหมู
7. น้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่ม HDL (ไขมันดี)
ในนำมันมะพร้าวจะมีไขมันอิ่มตัวที่ช่วยเพิ่มระดับ HDL ในร่างกาย และยังอาจทำให้ LDL หรือ ไขมันเลว อยู่ในรูปที่มีอันตรายน้อยลงอีกด้วย
ด้วยความที่น้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่ม HDL ผู้เชี่ยวชาญจึงเชื่อว่าน้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์ต่อหัวใจมากกว่าน้ำมันชนิดอื่น
มีหนึ่งงานวิจัยกับอาสาสมัครที่เป็นผู้หญิงจำนวน 40 คน พบว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยลด LDL โดยรวม ในขณะที่ช่วยเพิ่ม HDL เมื่อเทียบกับน้ำมันถั่วเหลือง
ยังมีอีกหนึ่งงานวิจัยกับอาสาสมัครจำนวน 116 คน ซึ่งทานอาหารที่มีน้ำมันมะพร้าว พบว่ามันช่วยเพิ่ม HDL ในกลุ่มคนที่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ

8. น้ำมันมะพร้าวช่วยปกป้องผิว , เส้นผม , และฟันได้
การวิจัยพบว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในผิวแห้งได้ แถมยังช่วยลดอาการของโรคผิวหนังอักเสบได้อีกด้วย
น้ำมันมะพร้าวยังช่วยป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับเส้นผม มีอยู่หนึ่งงานวิจัยที่พบว่ามันอาจทำหน้าที่เป็นครีมกันแดดได้ และสามารถป้องกันแสงอัลตราไวโอเลตได้ถึง 20%
ออยล์พูลลิ่ง (oil pulling) หรือการใช้น้ำมันกลั้วปากสามารถฆ่าแบคทีเรียบางชนิดทำให้สุขภาพฟันดีขึ้นและลดกลิ่นปาก
9. MCTs ช่วยเพิ่มการทำงานของสมองในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุและจะทำให้สมองมีความสามารถในการใช้กลูโคสน้อยลง นักวิจัยแนะนำว่าคีโตนจะกลายเป็นพลังงานทดแทนให้กับเซลล์สมองได้และสามารถช่วยลดอาการโรคอัลไซเมอร์
ในปี ค.ศ.2006 มีการรายงานผลการวิจัยว่า MCTs สามารถช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ แต่อย่างไรก็ตามนี้เป็นช่วงแรกของการวิจัยเท่านั้นและยังไม่มีหลักฐานออกมาว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยรักษาอัลไซเมอร์ได้ในตอนนี้
10. น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยลดไขมันหน้าท้องได้
นอกจากจะช่วยลดความอยากอาหารและช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานแล้ว ยังมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยเราลดน้ำหนักได้
ไขมันหน้าท้องหรือไขมันที่เกาะอยู่ตามอวัยวะภายในนั้นเป็นอันตรายมากที่สุดและทำให้เกิดโรคเรื้อรังได้ การวัดรอบเอวเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการวัดไขมันหน้าท้อง
มีการวิจัยในผู้หญิงจำนวน 40 คนที่มีไขมันหน้าท้อง ซึ่งได้รับน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนชา (30 มิลลิลิตร) ต่อวันพบว่าภายในช่วงระยะเวลา 12 สัปดาห์พวกเธอมีค่า BMI และรอบเอวที่ลดลงจนเห็นได้อย่างชัดเจน
มีอีกหนึ่งการวิจัยกับกลุ่มอาสาสมัคร 20 คนที่เป็นโรคอ้วน โดยได้รับน้ำมันมะพร้าววันละ 30 มิลลิลิตรเช่นกัน พบว่าภายใน 4 สัปดาห์พวกเขามีรอบเอวที่ลดลง 1.1 นิ้ว
น้ำมันมะพร้าวมีแคลอรี่สูง ดังนั้นจึงควรใช้อย่างจำกัดปริมาณ หากเราใช้น้ำมันมะพร้าวประกอบอาหารแทนน้ำมันชนิดอื่นจะช่วยให้เรามีหน้าท้องที่เล็กลงอีกเล็กน้อย
ที่มา : https://bit.ly/2VsXqH7
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming